ตอนที่4

1184 Words
ทั้งที่เขาด่าตนเองมาเป็นร้อยๆครั้ง หักห้ามใจตนเองเป็นพันๆ รอบหากสุดท้ายมาร์คัสก็มาหยุดอยู่หน้าภัตตาคารนี้จนได้ ตอนนี้เป็นเวลากว่าสองทุ่ม...เวลาเดิมและที่เดิมที่เขามาเมื่อวาน ไม่รู้ว่าคิดบ้าอะไรอยู่เพราะก่อนจะมาที่นี่มาร์คัสเพิ่งปฏิเสธทีโอน่าก่อนจะตรงมาที่นี่เพียงคนเดียว ร่างสูงก้าวตรงเข้าไปภายในภัตตาคาร บริกรชายรีบเปิดประตูให้เขาแล้วโค้งตัวลงต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้ มาร์คัสเดินตรงไปนั่งที่ตนเองนั่งเมื่อวาน ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่าตนเองสั่งอาหารอะไรไปบ้าง สายตาของเขามันไม่ได้ดูเมนูในมือด้วยซ้ำ มันเอาแต่กวาดตามองหาใครบางคน เจ้าของร่างเล็ก ไม่ดูสูงโปร่งตัวใหญ่เหมือนสาวๆ อเมริกัน หากเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงมาร์คัสก็ต้องผิดหวัง เขาไม่เห็นหญิงสาวคนนั้นเลย... แต่ในขณะที่มาร์คัสกำลังจะเดินออกจากร้าน ชายหนุ่มกลับต้องเซถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อตนเองถูกชนเต็มๆ จากคนที่วิ่งสวนมา มาร์คัสรับรู้ว่าคนที่ชนตนเองนั้นเป็นผู้หญิง! และตามสัญชาตญาณ ชายหนุ่มจึงตวัดมือรั้งเอวบางของหล่อนเอาไว้เพื่อมิให้หล่อนล้มลงไปกองกับพื้น จากท่าทางนั้นทำให้เขากอดกระชับหล่อนแนบไปทั้งตัวเลยทีเดียว และนั่นทำให้เขาสัมผัสได้ถึงทรวงอกนุ่มที่เบียดชิดแนบกับอกแกร่งของเขา มาร์คัสถึงกับสะท้าน ร่างกายของเขากำลังเกิดปฏิกิริยาเพียงเพราะได้รับสัมผัสแนบชิดที่เกิดจากความบังเอิญเท่านั้น หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาสูงเพียงไหล่เขาเท่านั้น มาร์คัสเผลอสูดลมหายใจเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายบางหากมีหุ่นแสนเพอร์เฟ็กที่ผู้ชายปรารถนาจะเห็นมันบนเตียงของพวกเขา เวลาที่เกิดขึ้นไม่กี่นาทีหากแสนยาวนานนั้นก็ผันผ่านไป เมื่อหญิงสาวขยับตัวแล้วหลุดออกไปจากอ้อมแขนเขา “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันซุ่มซ่ามเอง” เสียงหวานของหล่อนเหมือนดังลอยมาจากที่ไกลๆ มาร์คัสกระพริบตาถี่ๆดึงสติตนเองกลับมา แล้วพลันเห็นว่าหญิงสาวที่ชนเขาคือคนที่เขาเฝ้ารอหล่อนอยู่! “อรนลิน” หากยังไม่ทันเอ่ยอะไรตอบโต้ เจ้าหล่อนก็หันขวับไปตามเสียงเรียกนั้น หญิงสาวมองสบตาสีอำพันคมดุนั้นแวบเดียวแล้วเดินไปตามเสียงเรียกนั้นทันที ทิ้งให้มาร์คัสยืนอยู่ตรงนั้น แล้วราวกับอุปทานมาร์คัสรู้สึกเหมือนได้กลิ่นกายของหล่อนยังอยู่ ณ ที่ตรงนี้ เขาหลับตา แล้วนึกถึงดวงหน้าหวานๆ นั้น... อรนลิน! “อร! ฉันเห็นเธอเดินชนกับมาร์คัส ฟาวเลอร์ข้างนอกนั่น!” แซนดร้ารีบปรี่เข้ามาหาเพื่อนด้วยความตกใจ นี่ดีที่คนส่วนมากไม่ได้สังเกตเห็นโดยเฉพาะมาดามสเตซี่ผู้จัดการและเจ้าของร้าน ถ้ามาเห็นว่าอรนลินชนกับลูกค้นคนสำคัญ เหอะ! ต่อให้โปรดขนาดไหน ก็อาจโดนไล่ออกได้สบายๆ ใครๆก็รู้...มาร์คัส ฟาวเลอร์ ถือตัวและร้ายกาจขนาดไหน “งั้นเหรอ?” อรนลินถามอย่างไม่ใส่ใจ หญิงสาวรีบเดินเข้าไปข้างในร้าน เดินตรงดิ่งไปยังห้องแต่งตัวของพนักงาน แล้วรีบเปลี่ยนยูนิฟอร์มโดยเร็ว หากกระนั้นแซนดร้าก็ยังตามหล่อนไม่เลิก “แล้วนี่ทำไมเธอถึงมาช้านักล่ะ อร” หล่อนถามอย่างนึกห่วง อรนลินไม่เคยมาสายขนาดนี้มาก่อน แม้จะรับรู้ว่าที่อยู่ของหล่อนอยู่ห่างจากที่นี่พอสมควร แต่อรนลินเป็นคนตรงต่อเวลา หรือว่าเพื่อนของหล่อนจะเจออุบัติเหตุระหว่างทางกัน “พอดีแม่ไม่สบาย ฉันโทรมาบอกมาดามสเตซี่ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะเข้าสายหน่อย” “จริงเหรอ? แล้วทำไมเธอไม่หยุดไปเลยล่ะ มาทำงานทำไมกัน” “หยุดไม่ได้หรอก” อรนลินบอกน้ำเสียงเรียบๆ “แม่ไม่ยอม” “แม่เธอนี่รั้นจริงๆ นะอร” แซนดร้าถอนใจ รู้จักแม่ของอรนลินดี ท่านเป็นหญิงสูงวัยตัวเล็กแต่น่ารักทั้งนิสัยและหน้าตา เค้าโครงหน้าหวานละมุนตาของอรนลินส่วนหนึ่งก็ได้มาจากท่าน หากหญิงต่างชาติรูปร่างแบบบางคนนี้กลับอึดและทนเกินตัว แซนดร้ารับรู้มาจากอรนลินว่าหลายครั้งที่ป่วยหนัก แต่อัมพาก็ไม่คิดจะหยุดรักษาตัวเองด้วยซ้ำ “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” อรนลินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วหันหน้าไปเผชิญกับแซนดร้าเพื่อนสนิทแล้วพูดต่อไปว่า “รีบไปทำงานกันเถอะ” “อรนลิน โทรศัพท์ด่วนจ้ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวถึงกับหันขวับไปทันที ตอนนี้เป็นเวลากว่าสี่ทุ่มแล้ว อีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะได้เวลาเลิกงาน อรนลินขมวดคิ้วสงสัยคนที่จะโทรตามเธอถึงที่ทำงานได้นั้นมีเพียงคนๆเดียวเท่านั้น...แม่! หญิงสาวฉีกยิ้มตามมารยาทชอบคุณมาดามสเตซี่ ดีที่ตอนนี้ใกล้เลิกเต็มงานเต็มทน ครัวก็ใกล้จะปิด คนก็น้อยทำให้เจ้าของภัตตาคารไม่อารมณ์เสีย หญิงสาวรีบคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกรอกเสียงทักทายปลายสายทันที “สวัสดีค่ะ” หากเมื่อเสียงที่ทักตอบกลับมาทำให้อรนลินแปลกใจ นั่นไม่ใช่เสียงของมารดาหล่อน แต่มันก็ไม่น่าสนใจเท่ากับเรื่องที่อีกฝ่ายแจ้ง พวกเขาบอกหล่อนว่าค้นเบอร์โทรที่นี่ได้จากกระเป๋าของแม่หล่อนเพื่อบอกให้หล่อนทราบว่า แม่ของหล่อนเข้าโรงพยาบาล! กว่าอรนลินจะกลับถึงอพาร์ทเมนต์ของตนเองหล่อนก็หมดแรงพอดี หญิงสาวทรุดลงนั่งบนเก้าอี้เล็กๆ ในห้องอย่างอ่อนล้า หล่อนเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลที่แม่เข้าไปรักษาตัว อรนลินเสยผมยาวสีน้ำตาลเข้มที่ตกลงมาปรกหน้าด้วยท่าทีอ่อนล้า ดวงตาเริ่มคลอคลองไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อคิดถึงคำพูดของหมอที่บอกว่าแม่ของหล่อนป่วยเป็นโรคหัวใจ...แล้วก็จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดด่วนด้วย! นั่นทำให้อรนลินถึงกับลมหายใจสะดุด หล่อนจะหาเงินจำนวนมากนั่นมาจากที่ไหนกัน เท่าที่ทำงานทุกวันนี้จนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้ปล่อยให้แม่ตายเพราะไม่ได้รับการรักษา หญิงสาวก็ตอบได้ทันทีว่าเธอทำมันไม่ได้ อรนลินหลับตาลง หยาดน้ำตาไหลออกมาด้วยความกลัดกลุ้มใจ จะมีทางใดที่หล่อนจะสามารถทำได้หล่อนยินดีทำ ถ้ามันแลกกับการที่หล่อนจะสามารถยื้อแม่ให้อยู่ด้วยกันได้ต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD