น่านน้ำได้แต่ยืนกำหมัดไว้แน่นด้วยความเจ็บปวด เพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากพระพาย
น่านน้ำทำได้แค่เก็บอารมณ์โกรธนี้ไว้ในใจ แล้วเดินตามหลังพระพายออกไป เพราะลึกๆแล้วเขายังคิดว่าถ้าได้แต่งงานกับพระพายอยู่กันไปเธออาจจะรักเขาบ้างก็ได้
#มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
พระพายเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ ด้วยใบหน้าบูดบึ้งเหมือนทุกๆวัน
เพราะมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 น่านน้ำเอาแต่เดินตามเธอไปทุกที่ พอเธอดุเธอไล่เขาก็เอาเรื่องการเป็นคู่หมั้นยกขึ้นมาอ้าง
บอกว่าลุงภรัณฝากให้เขาดูแลเธอบ้างหละ เดี๋ยวก็บอกว่าทำตามทำสั่งของพ่อ หาข้ออ้างต่างๆนานามาพูดกับเธอ
แต่เธอไม่รู้จริงๆหรอว่าที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะอยากใกล้ชิดกับเธอ ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับน่านน้ำมาเธอไม่รู้บ้างเลยหรอว่าเขาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากเธอ
น่านน้ำก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยังรักผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนขี้เหร่อะไร (ออกจะหล่อด้วยซ้ำ) มีสาวๆมากมายผ่านเข้ามาแต่เขาก็ไม่เคยมองพวกเธอเลยสักคน
“ ทำไมชอบทำให้หน้าสวยๆบึ้งตึงแบบนี้ตลอดวะพระพาย ”
เสียงของภาคินทักทายเพื่อนทันทีที่พระพายเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่บึงตึงแทบจะทุกครั้งที่เดินมาพร้อมกับน่านน้ำ
แล้วคำตอบของเธอก็เหมือนกับทุกครั้ง ทำให้ภาคินรู้สึกสงสารน่านน้ำ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมน่านน้ำต้องยอมทำให้ตัวเองเจ็บ ทั้งๆที่มันมีตัวเลือกตั้งเยอะแยะ
“ ไอ้น่านน้ำไง จะมีใครทำให้ฉันหงุดหงิดได้เท่ากับมันอีก ”
พระพายตอบกลับภาคินไป โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของน่านน้ำเลยว่าจะรู้สึกยังไง เพราะเธอไม่ได้รักเขาไงแล้วทำไมต้องสนใจความรู้สึกของเขาด้วย
“ พูดอะไรแกก็สงสารมันหน่อย อย่างน้อยๆมันก็เป็นเป็นคู่หมั้นแกนะพระพาย ”
แพรไหมตักเตือนเพื่อนของเธอ แต่น่านน้ำไม่ได้ยืนฟังพระพายกับเพื่อนพูดคุยกัน เขาเดินแยกตัวออกไปสูบบุหรี่ไม่ห่างจากพระพายมากนัก
“ คู่หมั้นที่ฉันไม่ได้รักหนะสิ แพรไหมแกก็อีกคนทำไมต้องเข้าข้างน่านน้ำด้วย ”
พระพายแขวะเพื่อนสาวที่ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกคนจะให้ความสนใจกับน่านน้ำมากกว่าเธอ เธอเป็นผู้หญิงนะผู้หญิงที่มีสิทธิ์ต้องเลือกสิ ไม่ใช่โดนจับคลุมถุงชนแบบนี้
“ ถ้าแกไม่สนใจฉันขอนะ ”
ทันทีที่แพรไหมพูดจบพระพายก็มองเพื่อนด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เธอกล้าขอคู่หมั้นของพระพายต่อหน้าเธอแบบนี้ได้ยังไง
ถึงจะไม่ชอบน่านน้ำแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องให้เพื่อนมาขอน่านน้ำสักหน่อย เพราะแพรไหมก็เป็นเพื่อนของพระพายเหมือนกันไม่อยากให้มีความสัมพันธ์แบบนี้กลัวว่าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วจะมองหน้ากันไม่ติด
น่านน้ำเป็นคู่หมั้นเธอนะ ไม่ใช่สิ (คู่หมั้นที่เธอไม่ได้รักต่างหาก) ถ้าน่านน้ำจะไปจริงๆ เขาต้องเป็นคนเลือกไปเองไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาขอแบบนี้
แพรใหม่ก็แอบสนใจน่านน้ำอยู่เหมือนกัน ถ้าพระพายไม่สนใจจริงๆ เธอก็อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับน่านน้ำมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน
“ แพรไหม พูดอะไรของแกน่าเกลียด เป็นผู้หญิงแท้ๆมาขอผู้ชายได้ไง อีกอย่างมันเป็นคู่หมั้นของฉันนะ รอให้มันถอนหมั้นก่อนไหมแล้วค่อยมาขอมันเป็นแฟน ”
“ ทำไมแกต้องแคร์เรื่องนั้นด้วย ในเมื่อตอนนี้แกก็มีคนควงที่ไม่ใช่น่ายน้ำไม่ใช่หรอ ”
แพรไหมพูดมาก็ถูกเพราะตอนนี้พระพายเองมีคนควงที่ไม่ใช่น่านน้ำอยู่แล้ว แล้วน่านน้ำก็ยอมให้ระพายควงผู้ชายคนนั้น เพราะเขารู้ดีว่ายังไงพระพายก็ไม่มีทางหนีงานแต่งครั้งนี้ได้
แต่ไม่ใช่ว่าน่านน้ำจะปล่อยปละละเลยโดยไม่ได้สนใจความปลอดภัยของพระพายเลย เขามักจะแอบสะกดรอยตามพระพายไปทุกที่ที่มีผู้ชายคนนั้นไปด้วย
ทำตัวเป็นสต๊อกเกอร์ เพราะเขาไม่ไว้ใจผู้ชายคนนั้นยิ่งข่าวที่ว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง น่านน้ำยิ่งไม่มีทางปล่อยให้เธอไปสองต่อสองกับผู้ชายคนนั้นเด็ดขาด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเตือนเธอเรื่องนี้ แต่คนดื้อรั้นอย่างพระพายมีหรอจะยอมเชื่ออะไรง่ายๆ โดนคารมของผู้ชายคนนั้นหลอกจนสนิทใจเลยเลือกที่จะปิดหูรับฟังเสียงของน่านน้ำที่คอยเตือน
“ พี่กรของมึงเดินมาโน่นแล้ว กูละสงสารน่านน้ำจริงๆ กูว่ากูพอจะเข้าใจแล้วนะว่าทำไมมันเลือกที่จะเป็น DJ ที่จะสร้างความสุขให้กับคนอื่น เพราะมันไม่อยากจมปลักอยู่กับความทุกข์แบบนี้ ”
ภาคินเห็นคู่ควงของพระพายเดินยิ้มเจ้าเล่ห์มาแต่ไกลก็รู้สึกหมั่นไส้ เขาหันไปมองน่านน้ำที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา สีหน้าของน่านน้ำบ่งบอกได้ชัดว่าไม่พอใจ
มีคนมาจีบคู่หมั้นทั้งคนจะให้มันดีใจได้ไง แต่มันยังยืนเฉยอยู่ได้ ไหนบอกว่ารักเขาทำไมถึงไม่แสดงความเป็นคู่หมั้นหรือความเป็นเจ้าของออกมาเลย
หรือบางทีเพราะน่านน้ำรู้ว่าถ้าเขาทำแบบนั้นแล้วพระพายจะยิ่งเกลียดมันเข้าไปกว่าเดิม เพราะแค่ไม่ยอมถอนหมั้นก็ทำให้พระพายเกลียดมันมากแล้ว ถ้าไปแสดงความเป็นเจ้าของแบบนั้นคงไม่ต้องบอกว่าพระพายจะเกลียดมันแค่ไหน
ที่สำคัญน่านน้ำรับปากกับพระพายไว้เรื่องนึง ห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดว่าเขาเป็นคู่หมั้นของเธอ จะมีก็แต่ภาคินกับแพรไหมรู้เรื่องนี้
แล้วน่านน้ำก็ยอมทำตาม เพราะไม่อยากทำให้เธอเกลียดเขาไปมากกว่านี้ ไม่ว่าพระพายจะสั่งอะไรเขาก็ทำตามหมดทุกอย่างไม่มีข้อแม้ หรือเป็นเพราะแบบนี้ที่พระพายเบื่อที่น่านน้ำเอาแต่ตามใจเธอ
“ มึงก็พูดซะเหมือนกูเป็นตัวร้ายเลยนะไอ้ภาคิน ”
“ ก็กูพูดเรื่องจริง แล้วมึงดูหน้าเพื่อนกูด้วยมึงไม่สงสารมันบ้างเลยหรือไงพระพาย ”
น่านน้ำเลือกที่จะหันหน้าไปทางอื่น ยิ่งเห็นไอ้พี่กรเดินเข้ามาใกล้เธอเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดูดบุหรี่อัดเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น เหมือนกับพยายามทำให้อารมณ์ขุ่นมัวในใจลดลง ถึงแม้ว่ามันจะmake sense กันก็ตาม
“ คนสวยขานั่งอยู่นี่นี่เองพี่กรตามหาตั้งนาน”
“ มีอะไรหรอคะพี่กร ?”
กรยื่นดอกกุหลาบในมือ 1 ดอกให้กับพระพาย ส่วนคนที่ได้รับก็ยิ้มหน้าบานจนแก้มแทบแตก
“ เอาดอกกุหลาบมาให้พระพายทำไมคะ ”
“ แค่อยากให้แฟนเฉยๆไม่ได้หรอครับ ”
ในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาทีน่านน้ำดูดบุหรี่เข้าไปตัวที่ 3 แล้ว ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ครั้งสุดท้ายขยี้มันทิ้งใส่ถังขยะ เดินเข้ามาหาพระพายกับเพื่อนก่อนจับข้อมือเธอดึงออกไปจากโต๊ะ
“ ขอตัวพระพายนะครับพี่กร ได้เวลาเข้าเรียนแล้วเอาไว้ช่วงพักค่อยมาจีบมันใหม่นะครับ ”
น่านกระชากพระพายเดินไปแล้วหันมาหาเพื่อน
“ มาสิวะภาคินแพรไหมพวกมึงไม่เข้าเรียนหรือไง ”
น่านน้ำเดินจูงมือพระพายนำหน้าเพื่อนสองคนไป พอเห็นว่าทั้งสองยังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะไม่ยอมขยับเลยหันมาเรียก แต่เจอกับสีหน้าไม่พอใจของกรที่ยืนจ้องน่านน้ำอย่างเอาเรื่อง
“ พวกเราไปก่อนนะครับพี่กร ”
“ ครับ ”
ถึงกรจะตอบสุภาพแพรไหมกลับไป แต่ใบหน้าของเขายังคงขมวดคิ้วเข้มจ้องหน้าน่านน้ำไม่หยุด ฉันเคยภาคินรู้สึกสะใจที่น่านน้ำรู้จักโต้ตอบบ้าง ไม่ใช่ให้เขามาจีบกูมั้งของตัวเองอยู่ได้
“ ไอ้น่านปล่อยมือฉัน ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาทำตัวแบบนี้กับฉัน ยิ่งแกทำแบบนี้ฉันยิ่งไม่ชอบ อย่าให้คนอื่นสงสัยได้ไหมว่าแกกับฉันเป็นอะไรกัน ”
พระพายสะบัดมือของจากน่านน้ำ แล้วจ้องเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งมองหน้าน่านน้ำตอนนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเกลียดขี้หน้าน่านน้ำมากเพิ่มขึ้น ใบหน้าที่มองดูกี่ทีมันก็กวนประสาทเธอ
เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบน่านน้ำ ทั้งๆที่หน้าตาของน่านน้ำออกจะหล่อเหลากว่ากรด้วยซ้ำ แต่เธอกลับรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าของเขา
“ กูก็ไม่ได้บอกว่าใครว่ามึงกับกูเป็นคู่หมั้นกันหนิ แค่ได้เวลาเรียนแล้วกลัวจะเข้าเรียนไม่ทัน เอาไว้ให้พักก่อนแล้วค่อยมาจีบกันต่อก็ได้เขาไม่หนีมึงไปไหนหรอก ถ้าเขายังไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ ”
น่านน้ำพูดจบก็เดินหันหลังให้กับพระพายเข้าไปในห้องเรียน ทำให้คนตัวเล็กสงสัยกับคำพูดกำกวมของน่านน้ำเมื่อกี้
ที่เขาบอกว่ากรไม่หนีไปไหนหรอกถ้าเขายังไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ มันหมายความว่ายังไงสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร
“ เมื่อกี้นายหมายถึงเรื่องอะไร ”
“ ..... ”
( ซื่อบื้อขนาดนี้ยังจะกล้าไปตีสนิทกับผู้ชายอีก อ่อนต่อโลกขนาดนี้สักวันหนึ่งคงต้องเสียตัวให้ไอ้กรเข้าสักวัน สมองทำไมไม่รู้จักใช้ให้มันเก่งเหมือนปากวะ แล้วแบบนี้ผมจะยอมปล่อยให้เธอไปไหนมาไหนกับไอ้กรได้ไง )
“ ฉันถามนายอยู่นะไม่ได้ยินหรือไง ”
“ อย่าเสียงดังได้ไหมอาจารย์เดินมาโน่นแล้ว ”
นักเรียนทุกคนต่างเงียบกริบเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในคลาสเรียน โดยเฉพาะน่านน้ำนั่งกอดอกนิ่งมองอาจารย์สาวที่เดินเข้ามาด้วยสายตาคุ้นเคย แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าเธอคือใคร
และอาจารย์คนนี้ก็รู้จักน่านน้ำดี เพราะเธอชอบไปเที่ยวที่ผับกับเพื่อนบ่อยๆ หนึ่งในหญิงสาวที่โดนDJน่านน้ำป้อนลูกอมให้ แล้วเธอก็ส่งยิ้มหวานมาให้น่านน้ำแบบลืมตัว
ถ้าจะบอกว่าไม่รู้จักน่านน้ำก็คงไม่ใช่ เธอรู้ว่าน่านน้ำเป็นนักศึกษาของเธอ แล้วก็เป็นDjที่ผับLeft On Read ที่เขาไปเปิดเพลงบ่อยๆ ลูกค้ามากหน้าหลายตาบางทีน่านน้ำก็จำไม่ได้หรอกว่าเจอใครบ้าง แต่ลูกค้าจำพวกDjทุกคนได้
เรียกได้ว่าเธอเป็นลูกค้าประจำของที่นั่นเลยก็ว่าได้ ถ้าให้เปิดดูคลิปในมือถือของเธอก็คงจะมีแต่คลิปพวกDjน่านน้ำกับพวกMcเต็มไปหมด
ครูก็เป็นมนุษย์คนนึงที่มีชีวิตจิตใจ ถ้าตัดบทบาทของเเม่พิมพ์ออกไป ไม่ได้อยู่ในบริบทของอาจารย์ในมหาลัย เธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึงอยากกินอยากเที่ยวเหมือนกันกับผู้หญิงทั่วๆไป
ก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอน สายตานักเรียนทุกคนก็นั่งมองอาจารย์อย่างใจจดใจจ่อโดยเฉพาะพระพาย เธอสังเกตว่าอาจารย์ชอบมองมาที่น่านน้ำบ่อยๆ แล้วน่านน้ำก็ยิ้มให้อาจารย์เหมือนกัน หรือว่าเธอจะคิดมาก