สองหนุ่มสาวกลับไปแล้ว แต่คนที่นั่งงงเป็นไก่ตาแตกและยังไม่ยอมมูฟออนก็คือทั้งสามสาว ส่วนหนุ่มที่นั่งมองอยู่ก็อดขำไม่ได้ เพราะสภาพของพวกเธอไม่ต่างจากพวกเขาก่อนหน้านี้
“พี่หมอ มีอะไรจะเล่าไหมคะ” ใบเฟิร์นเอ่ยถามขึ้น ถ้ากลับบ้านไปในสภาพนี้...บอกเลยว่าพวกเธอคงนอนไม่หลับ ความอยากรู้มันทรมานมากกว่าความอยากนอน
“ให้เจ้าตัวเล่าเองดีกว่า พี่ไม่ถนัดพูดเรื่องคนอื่นน่ะ มันดูไม่ดี” เอกภพพูดขึ้น
พอลลี่มองท่าทีของเอกภพแล้วมั่นใจว่าเขาคงไม่ยอมเล่าแน่นอน เพราะอย่างนั้นเจ้าหล่อนต้องใช้ไม้ตาย
“เบอร์โทร.ดาวของปีหนึ่งทุกคณะ?” ข้อเสนอถูกยื่นออกไป เรื่องเบอร์โทร.ดาวคณะนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนอย่างพอลลี่ เพราะเธอเป็นคณะกรรมการประกวดดาวมหาวิทยาลัยอย่างไรล่ะ ก็ต้องมีเบอร์โทร.น้อง ๆ ทุกคนที่มาประกวดอยู่แล้ว เหมือนใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ แต่ก็นะ...ความอยากมันทรมาน โดยเฉพาะความอยากรู้ (เรื่องชาวบ้าน)
“ดีล!” เสียงของเอกภพดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มร้ายของเอกพล
ภีมและพายุได้แต่ส่ายหน้ากับความหน้าหม้อของเพื่อน ถ้ามีความลับอะไร พวกเขาสัญญาเลยว่าจะไม่เอามาเล่าให้เอกภพฟังเป็นอันขาด เหมาะกับฉายามันแล้ว ‘เอกรู้โลกรู้’
บทที่ 6 เฮียไม่หย่า...เฮียแค่เมา
รินลณีนั่งหน้างอบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาหนังสีดำในห้องรับแขก ในขณะที่ผู้ชายร่างสูงนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ตรงหน้าเธอ มองผ่าน ๆ อาจจะนึกว่าภรรยากำลังลงโทษพ่อบ้านใจกล้า ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น ใช่…เธอกำลังลงโทษเขา
“น้องจะหย่า” รินลณีพูดเสียงดังพร้อมทั้งกอดอกนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา
“น้อง! เฮียขอโทษ” คนที่นั่งทับส้นเท้าตัวเอง มือวางประสานกันอยู่บนหน้าขา กล่าวออกมาเสียงเบาเพราะรู้สึกผิดอย่างที่พูดจริง ๆ
“ไม่ต้องมาขอโทษ น้องไม่ยกโทษให้ น้องจะหย่า”
“ก็เฮียเมา น้องอย่าถือสาอะไรกับคนเมาเลย”
“เฮียไม่ได้เมา เฮียแค่แกล้งเมา”
“...” คนแกล้งเมาถึงกับสะอึกจนพูดไม่ออก เมื่อโดนคนตัวเล็กรู้ทัน
“น้องรู้ เฮียไม่ได้เมา ถ้าเฮียเมา เฮียจะทำแบบนั้นได้ไง” ใช่ เขาทำมัน เธอพยายามห้ามเขาแล้ว แต่ใครจะไปสู้แรงเขาได้ แถมยังทำตอนหลับและตอนตื่นอีก เขามันร้ายที่สุด เห็นหน้าหล่อ ๆ แบบนี้เชื่อไม่ได้เลย
joy
“แต่น้องก็ชอบนี่นา” ระพีพัฒน์พูดออกมาด้วยหน้าตาใสซื่อ
“น้องไม่ได้ชอบ! แต่น้องสู้แรงเฮียไม่ได้ไง” รินลณีแหวใส่เขาทันที นี่เขาจะมาว่าเธอชอบได้ยังไง เขาไม่ใช่เหรอที่ยัดเยียดมันมาให้เธอ
“ถึงน้องไม่ชอบ...แต่...แต่..น้องก็...เสร็จนะ” คนเป็นสามีพูดตะกุกตะกัก
“เฮีย! พูดอะไรน่าเกลียด น้องไม่รู้อะไรคือเสร็จของเฮีย...เฮียก็รู้ว่าน้องไม่เคย”
เธออยากจะเอาเล็บข่วนหน้าหล่อ ๆ ของเขาให้หายแค้น คนลามก คนบ้ากาม!
“เฮียรู้ว่าน้องไม่เคย เฮียถึงไม่ได้ทำมากกว่านั้นไง เดี๋ยวครั้งหน้าเราค่อยทำมากกว่านี้นะครับ”
“เฮีย! มันจะไม่มีครั้งหน้า น้องจะหย่า ได้ยินไหม น้องจะหย่า” เธอจะไม่ยอมอยู่กับเขาอีกแล้ว เธอจะกลับบ้าน ถ้าเธออยู่กับเขา เธอต้องแพ้เขาแน่ เขาอาจจะอ้างว่าเมาอีกก็ได้
ไม่ได้นะรินณี เธอห้ามใจอ่อน ถ้ามีครั้งหน้าเกิดขึ้น มันจะไม่ใช่แค่นี้แน่นอน รินลณีได้แต่บอกกับตัวเองในใจ
ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเธอน่ะเหรอ มันน่าอายมาก...
...ย้อนไปเมื่อคืนจนกระทั่งถึงเช้านี้
ในตอนดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา เธอฝันว่ากำลังเล่นกับน้องหมาตัวหนึ่ง...ปุยนุ่น น้องหมาที่เฮียพัฒน์เคยเก็บมาจากถังขยะแล้วยกให้เธอ แต่มันก็จากเธอไปด้วยเวลาเพียงสามปี จำได้ว่าตอนนั้นเธอเสียใจมาก หลังจากนั้นก็ไม่กล้าเลี้ยงน้องหมาอีกเลยเพราะกลัวจะเสียใจอีก
‘ปุยนุ่น อย่าสิ’ เจ้าหมาดื้อมันกำลังเลียปากเธอ เธอพยายามหนี แต่มันก็ตามมาอีก เธอพยายามวิ่งหนีไม่ให้มันตามมาทัน เธอเหนื่อยหอบจนใจเต้นแรง เหงื่อออกท่วมร่างกาย เจ้าหมาบ้า...เธอวิ่งหนีมันแบบไม่คิดชีวิต
วิ่งไปอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ระหว่างที่ปีนขึ้นต้นไม้ มันก็พยายามจะกระโดดงับเธอ…โอ๊ย มันเกือบจะงับเธอได้แล้ว
หญิงสาวหายใจกระเส่า เธอหอบ เธอตื่นเต้น ใจเธอเต้นแรง
เธอก้มมองหาตัวมันข้างล่าง แต่ก็ไม่เจอ ตอนนี้มันไม่ได้เป็นน้องหมาอีกแล้ว ร่างของเจ้าปุยนุ่นขนสีขาว ตัวของมันเริ่มขยายขึ้น ขยายขึ้น ขนของมันเริ่มแตก
หา! หมาก็ลอกคราบได้เหรอ เธอตกใจมาก แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคือมันลอกคราบออกมาแล้วกลายเป็นเสือโคร่งตัวใหญ่ นัยน์ตาของมันดุ และมันพร้อมจะกินเธอทุกเมื่อ หญิงสาวขนลุกซู่เมื่อมองเห็นสายตาที่หิวโหยของมัน มันกำลังอยากกินเธอ สายตาของเสือตัวนั้นทำให้เธอขนลุกไม่หยุด เสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก
และตอนนั้นเองเจ้าเสือร้ายก็กระโจนขึ้นมาบนกิ่งไม้ที่เธอเกาะอยู่ เธอตกใจจนร่วงหล่นจากต้นไม้
หญิงสาวรู้สึกเบาหวิวอยู่ในอากาศ
ก่อนที่เธอจะรู้สึกฉ่ำชื้นเพราะหล่นลงไปในหนองน้ำกว้างใหญ่
น้ำเย็นแต่กลับอุ่นสบายทำให้เธอรู้สึกเปียกแฉะไปทั้งตัว
หญิงสาวตกใจตื่นขึ้นมาเพราะความรู้สึกอุ่นวาบและความรู้สึกที่ตกจากที่สูงนั้น