ภคชนท์พาฉัตรญาดามายังร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งคนที่เขานัดมาเจอในวันนี้ก็คือภูวริษ เมื่อมาถึงเขาก็พาหญิงสาวไปยังโต๊ะที่จองเอาไว้ล่วงหน้าและเพื่อนของเขาก็มารออยู่ก่อนแล้ว
“มาแล้วเหรอรถติดมากใช่ไหมล่ะ” ภูวริษที่นั่งอยู่ก่อนทักทายผู้มาใหม่
“ติดมากเลยแหละ นายมานานหรือยัง”
“สักพักแล้วล่ะ”
“ญาดานี่ภูวริษเพื่อนของผม”
“สวัสดีค่ะคุณภูวริษ”
“สวัสดีครับ คุณญาดาเรียกภูเฉยๆ ก็ได้ เชิญนั่งก่อนครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“นายสั่งอะไรมาหรือยังภู” ภคชนท์ถามคนที่มาถึงร้านก่อน
“สั่งไปแล้วของโปรดของเรานั่นแหละ แล้วคุณญาดาอยากทานอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะครับ” ภูวริษส่งเมนูอาหารให้กับหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามกับเขา
“ฉันทานได้ทุกอย่างค่ะคุณภู เอาไว้อาหารมาแล้วไม่พอค่อยสั่งอีกครั้งก็ได้นะคะ”
“ทำงานกับเพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับ เขาใช้งานคุณหนักไหม”
“ไม่เท่าไหร่คะ บอสเป็นเจ้านายใจดีค่ะ” หญิงสาวตอบพลางหันมองหน้าเจ้านายที่เหมือนกำลังรอคำตอบ
“นายชนท์เนี่ยนะใจดี คุณญาดาเข้าใจผิดอะไรไปหรือเปล่าปกติเขาเป็นคนเคร่งเครียดกับการทำงานมากนะ” ภูวริษรู้ว่าเวลาทำงานภคชนท์จะจริงจังมาก
“สงสัยเพราะฉันเพิ่งเข้าไปทำงานมั้งคะ บอสก็เลยยังไม่ค่อยเข้มงวดกับฉันเท่าไหร่”
“ก็ดีนะครับที่เขารับผู้ช่วย ที่ผ่านมาเขาทำงานหนักมาตลอดพอมีคุณญาดามาช่วยงานก็คงทำให้เพื่อนผมเหนื่อยน้อยลงเยอะเลยครับ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าจะทำให้บอสเหนื่อยน้อยลงหรือจะเป็นการเพิ่มภาระของบอสเพราะฉันไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณญาดาทุกอย่างมันฝึกกันได้ ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณญาดาทำงานอะไรมาเหรอครับ” ภูวริษถามทั้งที่ตัวเองก็รู้มาจากภคชนท์แล้วว่าก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อน
“ฉันทำงานเป็นพยาบาลมาสามปีค่ะ”
“แล้วนึกยังไงถึงลาออกมาทำงานเป็นผู้ช่วยล่ะครับ”
“ฉันอยากลองทำอะไรที่มันแปลกใหม่ออกไปค่ะ แล้วก็โชคดีมากบริษัทของบอสให้โอกาสกับคนที่ไม่มีประสบการณ์”
“ผมหวังว่าคุณจะชอบงานใหม่และทำงานกับเพื่อนของผมนานๆ นะครับ”
“ค่ะคุณภู”
บทสนทนาหยุดลงเพียงแค่นี้เมื่ออาหารจากทางร้านกำลังทยอยมาเสิร์ฟ
“อาหารน่าทานมากๆ เลยค่ะ บอสกับคุณภูมาทานที่นี่บ่อยไหมคะ”
“ผมกับเพื่อนชอบมาทานร้านนี้กันเป็นประจำ”
“อีกหน่อยคุณญาดาก็คงเป็นแขกประจำเหมือนกับเรานั่นแหละ เพราะเป็นผู้ช่วยนายชนท์ก็คงต้องไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด”
“ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าจากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มรับประทานอาหารกันเงียบๆ ฉัตรญาดาสังเกตว่าเจ้านายของตัวเองนั้นเขี่ยต้นหอมและผักชีออกมาวางตรงขอบจานมันทำให้เธอนึกไปถึงผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้
“แล้วมาทานข้าวด้วยกันอีกนะครับคุณญาดา”
“ถ้าบอสชวนมาฉันก็มาค่ะ”
“ถ้าเขาไม่ชวนเรามากันสองคนก็ได้ คุณมีเบอร์กับไลน์ของผมแล้วนี่ ติดต่อมาได้ตลอดเลย ถ้าเจ้านายใช้งานหนักก็โทรมาบอกผมได้นะ ผมจะช่วยจัดการให้เอง”
“ค่ะคุณภู”
“ไปกันเถอะญาดา คุณต้องไปเอารถที่บริษัทอีกนะ”
“ฉันไปก่อนนะคะคุณภู ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ฉัตรญาดาเดินตามเจ้านายมาที่รถเพื่อให้เขาขับไปส่งเอารถที่บริษัท
“บอสคะบอสมีพี่น้องมั้ยคะ” หญิงสาวถามขณะนั่งรถของเขากลับมายังบริษัท
“ผมเป็นลูกคนเดียวถามทำไมเหรอ”
“ก็หน้าตาของบอสเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จักค่ะ ท่าทางก็เหมือนแถมยังไม่ชอบทานต้นหอมผักชีเหมือนกันอีกด้วยนะคะ” ฉัตรญาดาไม่อยากเก็บความสงสัยไว้อีกต่อไปก็เลยคิดว่าถามไปเลยจะดีกว่า
“ญาดาคนไม่ชอบทานต้นหอมผักชีบนโลกนี้มีเยอะแยะเลยนะ ผมคงไม่ใช่คนที่คุณเคยรู้จักหรอกเพราะถ้าอย่างนั้นเราก็คงจะจำกันได้แล้วใช่ไหมล่ะ”
“ค่ะ แต่ฉันคุ้นกับหน้าตาและท่าทางของบอสมากนะคะ บอสคล้ายกับเขามากจริงๆ ค่ะ เพียงแต่ชื่อนามสกุลต่างกันอีกอย่างบอสก็เรียนจบมาจากต่างประเทศ ส่วนเขาคนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าได้เรียนจนจบหรือเปล่า”
“อ้าว...คุณพูดเหมือนคุณรู้จักผู้ชายคนนั้นแล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่าเขาเรียนจบหรือเปล่า”
“มันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาค่ะ”
“ทำไมคุณไม่ถามเขาล่ะว่าเรียนจบไหมหรือไม่กล้าถาม”
“ฉันอยากถามเขามากค่ะและก็อยากรู้ข่าวคราวของเขามากๆ แต่เขาขาดการติดต่อไปเลย”
“ตอนนี้นี้มีสื่อโซเชียลเยอะแยะนะถ้าเราจะตามหาใครสักคนมันไม่ยากเลยนะญาดา”
“ฉันรู้ค่ะว่ามันไม่ยากแต่ฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้จริงๆ”
“ถ้าติดต่อตัวเขาไม่ได้ก็ลองกลับไปถามครอบครัวเขาสิ คนเราต้องมีครอบครัวมีญาติพี่น้องอยู่แล้ว”
“ฉันถามแล้วค่ะ แต่ญาติพี่น้องของเขาก็ตอบว่าไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหนฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเป็นหรือเพราะเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นกันแน่”
“ผู้ชายคนนั้นเขาทำอะไรเหรอญาติถึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวหรือว่าเขาเป็นคนไม่ดีล่ะญาดา”
“พี่วัชร์เขาเป็นคนดีค่ะ เป็นคนดีมากๆ”
“เป็นคนดีมากอย่างนั้นเหรอ”
“ค่ะ ถึงคนอื่นจะมองเขาไม่ดีแต่สำหรับฉันแล้วเขาเป็นคนดีมากๆ ฉันไม่เคยลืมเขาได้เลยถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันนานสิบปีแล้วก็ตาม” น้ำเสียงที่ฉัตรญาดาพูดถึงผู้ชายในอดีตนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า
ภคชนท์ไม่รู้จะถามอะไรหญิงสาวต่อเขาอยากจะบอกว่าผู้ชายที่เธอพูดถึงก็กำลังขับรถให้เธอนั่งอยู่แต่คิดว่ามันยังเร็วไปถ้าจะถามว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงเลิกติดต่อกับเขา
“ผู้ชายที่คุณพูดถึงเป็นแฟนคุณหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ เขาคบกับพี่สาวของฉัน”
“ผมว่าพี่สาวของคุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะครับว่าตอนนี้ผู้ชายที่คุณพูดถึงอยู่ที่ไหน”
“พี่สาวของฉันเป็นคนสุดท้ายที่ฉันจะถามค่ะ” เมื่อพูดถึงพี่สาวน้ำเสียงของฉัตรญาดาก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและดูห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด
“คุณมีปัญหากับพี่สาวเหรอญาดา”
“ทำไมบอสคิดอย่างนั้นล่ะคะ”
“ผมฟังจากน้ำเสียงน่ะ มันจริงใช่ไหม”
“จริงค่ะ”
“แก้ไขมันสิ”
“มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ”
“แล้วคุณไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้นเหรอ”
“อยากเจอค่ะ แต่พี่สาวฉันก็คงไม่รู้หรอกว่าเขาอยู่ที่ไหนและฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่สาวมานานแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
“เรื่องมันซับซ้อนค่ะบอส ตอนนี้พี่สาวของฉันเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไปแล้วและฉันเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่สาวของฉันอยู่ที่ไหน”
ภคชนท์ตกใจกับคำตอบที่ได้ยินแต่ก็ยังทำตัวเป็นปกติและชวนเธอคุยต่อ
“ถ้ารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนคุณจะทำยังไงต่อเหรอญาดา”
“ก็ไม่ทำอะไรหรอกค่ะ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธออีกแล้ว”
“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีฉันอาจจะเจอเขาแล้วแต่เวลามันผ่านมานานสิบปีฉันอาจจำเขาไม่ได้และเขาเองก็คงจำฉันไม่ได้เหมือนกัน”
“ผมไม่รู้จะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไง”
“แค่บอสฟังที่ฉันเล่าก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ”
ภคชนท์อยากจะชวนฉัตรญาดาคุยต่อแต่ตอนนี้เขาก็ขับรถมาถึงบริษัทแล้ว
“ขอบคุณนะคะบอส”