บทที่ 3 กลับบ้านเรา

1535 Words
บทที่ 3 กลับบ้านเรา วันนี้เป็นวันที่ใบบัวจะได้กลับออกจากโรงพยาบาลตามกำหนดการที่ปืนรบเคยแจ้งกับเธอเอาไว้เมื่อวันก่อน แน่นอนว่าสีหน้าของเธอวันนี้สดใสกว่าทุกวัน เพราะจะได้ออกจากห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาลเสียที และสิ่งหนึ่งที่เธอขอให้ปืนรบช่วยจัดการเตรียมให้เธอก็คือเครื่องสำอางเพื่อที่จะได้แต่งหน้าก่อนออกจากโรงพยาบาล “จะแต่งไปไหน” ปืนรบที่เดินกลับเข้ามาพร้อมกับถุงยาเอ่ยถามคนตัวเล็กที่กำลังแต่งหน้าอยู่บนเตียงผู้ป่วย “จะแต่งไปไหนก็เรื่องของฉัน” ใบบัวตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก “ผัวก็มีแล้วแต่งไปให้ใครดู” “ฉันละเบื่อพวกผู้ชายที่พูดแบบนี้จริงๆ เลย คุณเองก็คงชอบมองผู้หญิงสวยๆ ใช่ไหมล่ะ” “ที่รักสวยอยู่แล้ว” “สวยอยู่แล้วก็อยากสวยอีก ทำไมสวยไม่ได้รึไง” “ได้ครับคุณเมีย” “บอกให้เลิกเรียกแบบนั้นไง” มือเรียวที่กำลังแต้มลิปสติกลงบนริมฝีปากหยุดชะงักพร้อมกับหันมามองเขาตาขวาง “ไม่เลิกหรอกเรียกแบบนี้คนอื่นจะได้รู้ว่าเธอมีผัวแล้ว” “โรคจิตรึไง” “อ้าว อยากให้คนอื่นรู้ว่ามีเมียแล้วมันโรคจิตตรงไหนกัน” “ช่างเถอะ ขี้เกียจห้ามคุณแล้ว” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันก่อนที่เธอจะหันมาเก็บเครื่องสำอางใส่กระเป๋าเตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล “จะทำอะไรน่ะ” มือเรียวยื่นไปดันใบหน้าคมคายที่เลื่อนมาตรงหน้าเธอเอาไว้อย่างรู้ทัน “ขอจุ๊บหน่อย” “ไม่” “ทำไม” “เพราะคุณมันชอบฉวยโอกาส” “ดูพูดเข้าสิขอจุ๊บดีๆ ก็ไม่ให้ พอไม่ขอก็หาว่าฉวยโอกาส” ปืนรบบ่นอุบพร้อมกับพยายามดันหน้าเข้ามาใกล้ แต่ก็ถูกใบบัวใช้มือทั้งสองข้างดันเอาไว้ “ไม่ได้ก็คือไม่ได้” “อย่าให้เผลอแล้วกันพ่อจะจับปล้ำเลย” ถ้อยคำประชดประชันของปืนรบทำให้ใบบัวก้าวลงจากเตียงผู้ป่วยไปตีแขนเขาด้วยความหมั่นไส้ “กล้าก็ลองดูสิ” “ทนไหวก็ลองดูสิ” “ฉันไม่มีทางพิศวาสคุณหรอกนะ หน้าตา หุ่นก็งั้น...อ๊ะ!” คนตัวเล็กร้องเสียงหลงเมื่อมือเรียวถูกคว้าไปจับวางลงบนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามถึงแม้จะมีเสื้อยืดกั้นเอาไว้ แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้อที่เรียงตัวสวยอยู่ภายในได้เป็นอย่างดี “หุ่นฉันฟิตมากนะ อย่าใส่ร้ายผัวนักเลยเมียจ๋า” “บะ...บ้า” ใบบัวรีบดึงมือกลับด้วยความเขินอาย เพราะไม่ทันตั้งตัวปืนรบจึงฉวยโอกาสหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ “ชื่นใจจัง” “นี่คุณ!” ดวงตากลมโตตวัดสายตามามองเขาตาขวางที่เสียท่าให้กับเขาจนได้ “กลับบ้านเรากัน” ปืนรบตีเนียนฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเดินมาช่วยหิ้วสัมภาระของเธอส่งให้คนขับรถไปถือ “นั่งรถเข็นไหม” “ไม่เอา ฉันเดินเองได้” ใบบัวบอกก่อนจะหันไปตรวจเช็กสัมภาระอีกครั้ง “ทำอะไรอีกเนี่ย” เธอก้มมองมือตัวเองที่ถูกปืนรบกุมประสานเอาไว้ “จับมือ” “รู้แล้ว แล้วจับทำไมบอกแล้วไงเดินเองได้” “เดินได้ก็ส่วนเดินได้ ฉันอยากจับแล้วมันเกี่ยวอะไรกัน” “ร้อนไม่ชอบให้จับ” “ถ้าไม่ยอมให้จับฉันจะอุ้มเธอออกไป” “บ้าอำนาจ” ริมฝีปากเล็กเบะคว่ำเมื่อไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เธอทำได้เพียงจำใจให้เขาเดินจับมือจนสมใจ ใบบัวมองสองข้างทางขณะที่รถขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกสับสน เส้นทางที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยแต่เธอกลับจำมันไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ นี่ไม่ใช่เส้นทางที่จะไปคอนโดของเธอแน่นอน “เรากำลังจะไปไหนกันนี่ไม่ใช่ทางไปคอนโดฉันนะ” ใบบัวหันกลับมาถามปืนรบที่นั่งอยู่ข้างๆ “บ้านเรา” “บ้านเรา?” หัวคิ้วมนเลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ เธอมีบ้านที่พ่อแม่ซื้อไว้ให้แต่เพราะว่ามันใหญ่ และเหงาเกินไปเธอจึงย้ายออกมาอยู่คอนโดแทน และก็ไม่คิดจะกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นอีกเลย “บ้านฉันเอง แต่ของของฉันก็คือของของที่รัก เพราะฉะนั้นที่ที่เรากำลังจะไปคือบ้านของเราสองคน” “...” ใบบัวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ไม่ ฉันอยากไปอยู่คอนโดตัวเองมากกว่า” ทันทีที่ดึงสติตัวเองกลับมาได้เธอก็รีบปฏิเสธที่จะไปอยู่บ้านเขาในทันที “พวกเราสองคนเคยอยู่ที่นั่นด้วยกัน การที่ได้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยอาจจะทำให้ความจำกลับมาก็ได้นะ อีกอย่างที่นั่นคือที่ของเราสองคน ห้องนอนที่รักก็เป็นคนตกแต่งด้วยตัวเองฉันอยากให้ที่รักได้กลับไปอยู่อีกครั้ง” ปืนรบพยายามหว่านล้อมคนตัวเล็ก เดิมทีเขาเองก็ไม่อยากให้เธอกลับไปที่บ้านหลังนั้นเพราะกลัวว่าบรรยากาศที่คุ้นเคยจะทำให้ความจำของเธอกลับมา แต่พอมาคิดดูอีกทีเขาอยากให้เธอมีความสุขมากกว่า ตอนที่ได้ไปเลือกของแต่งห้องด้วยกัน ตอนนั้นเธอดูมีความสุขมากเหมือนเธอรู้สึกว่าที่นั่นคือบ้านหลังแรกของเธอถึงแม้จะย้ายเข้าไปอยู่ได้ไม่นานก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อนก็ตาม “ฉันทำอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ” “อืม ที่รักมีความสุขมากเลยรู้ไหมเวลาไปเดินซื้อของแต่งบ้าน” “แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะอินกับอะไรแบบนั้นเท่าไหร่” “ไปเห็นเดี๋ยวก็รู้เองว่ารสนิยมการแต่งบ้านของที่รักมันห่วยแค่ไหน” “นี่! ถึงฉันจะไม่คิดว่าตัวเองจะว่างไปทำอะไรแบบนั้น แต่ถ้าได้ทำแล้วรสนิยมของฉันดูดีกว่าคุณแน่ๆ” “ไว้เราไปเดินซื้อของแต่งบ้านกันอีกนะ” น้ำเสียงที่อ่อนลงพร้อมกับฝ่ามืออุ่นๆ ที่เอื้อมมาจับประสานมือเล็กเอาไว้บนตักทำให้ใบบัวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยก่อนจะรีบดึงมือกลับ “ได้ แต่คุณเป็นคนจ่ายนะบ้านคุณนี่” “บอกว่าบ้านเราไง” “ช่างเถอะ แต่แสดงว่ารสนิยมของฉันต้องดีมากแน่ๆ ใช่ไหมล่ะถึงได้ให้ฉันไปซื้อของมาแต่งบ้านอีก” คนตัวเล็กเชิดหน้ากอดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ “ไม่รู้สิ ฉันอาจจะชอบรสนิยมห่วยๆ ของที่รักก็ได้ เพราะอะไรที่เป็นที่รักฉันก็ชอบหมดเลย” ปืนรบทำสีหน้าครุ่นคิดราวกับแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมทุกอย่างที่เธอทำเขาถึงชอบไปเสียหมด กว่าจะรู้ใจตัวเองเขาก็เกือบเสียเธอไปแล้ว หวังว่าตอนนี้คงจะไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ เขาจะไม่เก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองถ้ารักเขาก็จะบอกว่ารักเพื่อให้เธอรับรู้ถึงความจริงใจของเขา หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงตีหน้าขรึมไม่ยอมพูดมันออกมา ที่ทำแบบนั้นก็เพียงเพราะตัวเขาเองที่ไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ทั้งที่รักเธอมากขนาดนี้แต่กลับไม่ยอมเปิดใจ และเข้าใจเธอให้มากกว่านี้ “คุณนี่มันเป็นคนยังไงกันแน่ทำเหมือนเรารักกันมาก แต่เหน็บฉันทุกประโยคเลยจริงๆ” ใบบัวจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกเขาขัดครั้งแล้วครั้งเล่า “ไม่งั้นฉันจะต่อกรกับเด็กแสบอย่างที่รักได้เหรอ” ปลายจมูกเชิดรั้นถูกบีบไปมาจนแดงระเรื่อ “อือ เจ็บนะ” “โอ๋ๆ หายยัง” ใบหน้าคมคายโน้มลงมาจูบลงบนปลายจมูกเชิดรั้นเบาๆ แทนคำปลอบโยนเพียงแค่นั้นใบหน้าหวานก็แดงระเรื่อขึ้นมาในทันที “กวนจริงๆ เลย” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าใส่ก่อนจะหันหน้ากลับมองออกไปที่นอกรถตามเดิม แต่ก็ถูกมือหนารั้งศีรษะให้หันกลับมาซบลงที่ไหล่ของเขา “พักผ่อนก่อนเดี๋ยววันหลังพาออกมาเที่ยว ได้มองจนตาแฉะแน่ทำเหมือนเด็กพึ่งเคยเห็นถนนมองอยู่ได้” ใบบัวไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ก็ยอมนอนซบไหล่เขาเงียบๆ จนกระทั่งผล็อยหลับไปในที่สุด เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนตัวเล็กที่บ่งบอกว่าคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขาหลับไปแล้วทำให้ปืนรบจูบลงบนศีรษะทุยเบาๆ เพราะกลัวจะรบกวนการพักผ่อนของเธอ ก่อนที่จะหยิบมือถือมาดูงานไปด้วยขณะที่มืออีกข้างก็ยังคงประคองศีรษะทุยเอาไว้พลางลูบเบาๆ เป็นการกล่อมเธอตลอดทาง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD