นั่นทำให้เธอโกรธ...และโกรธมากยิ่งขึ้นที่นอกจากเธอแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดห่วงใยพี่แพรกันบ้างเลย แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของพี่แพรเองก็ตาม!
“ปากดี” ดรัสตันตอบพลางเหยียดยิ้มมุมปาก ขับดวงหน้าหล่อเหลานั้นให้ดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจมากยิ่งขึ้น “คนที่จะลงนรกไปกับฉันก็เธอไง เมื่อกี้ก็กลัวจนร้องไห้ไปเลยไม่ใช่เหรอ”
ประโยคเสียดสียาวเหยียดของคนปากเสียที่ทำให้เธอสู้ไม่ได้หรือสู้แล้วไม่ชนะที่ตอกกลับมาทำให้ความโกรธในอกของพริมาภาพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“นาย...!”
หญิงสาวได้แต่กัดฟันถลึงตาใส่เขา แต่ดรัสตันไม่มีท่าทีสะทกสะท้านอะไร เขากวาดตามองทั่วร่างเธอด้วยสายตาจาบจ้วงก่อนจะเบ้ปากแล้วมองเหมือนเธอเป็นสินค้าสักชิ้นที่เขาไม่ต้องการ แล้วจึงเอ่ยต่อมาว่า
“ฉันจะไม่บังคับเธอหรอกนะว่าจะต้องแต่งแทนแพร แต่ฉันจะบอกเธอให้รู้ไว้สักอย่าง งานแต่งงานวันนี้เกิดขึ้นเพราะว่าพ่อเธอเป็นคนเสนอขึ้น เพราะเขาไม่มีเงินใช้หนี้ฉันแล้ว และแพรเองก็รู้เรื่องนี้ดี”
“...”
พริมาภาอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกกับประโยคเสียดสีของคนปากร้ายตรงหน้า แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มเอ่ยต่อมาว่า
“ถึงฉันมีความจำเป็นจะต้องแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้จำเป็นมากจนต้องบังคับใคร และงานแต่งนี้มันก็เป็นเพราะฉันเห็นใจแพรต่างหากถึงให้เขาแต่งงานล้างหนี้ แต่ในเมื่อแพรหนี ฉันไม่มีเจ้าสาว แถมยังต้องขายหน้า หนี้ทั้งหมดมันก็เลยยังอยู่ พ่อเธอก็รู้ดีแก่ใจ”
“...”
คราวนี้ใบหน้าของหญิงสาวเริ่มซีดเผือดไร้สีเลือดขึ้นเรื่อยๆ หัวใจเธอเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง เมื่อคิดตามสิ่งที่ดรัสตันบอกเธอก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าชายหนุ่มกำลังหมายถึงอะไร
เขากำลังประกาศแล้วว่าเขาคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของครอบครัวเธอ และพร้อมจะบีบทุกทางเพื่อให้ตัวเองพึงพอใจ และใครกล้าขัดความต้องการของเขาก็คือศัตรูที่ดรัสตันจะไม่ปล่อยมือไปง่ายๆ!
พริมาภาใจสั่นขึ้นมาวูบหนึ่ง ความร้ายกาจของดรัสตันเป็นอย่างไรเธอรู้ดีมาตลอด อันที่จริงแล้ว...เธอน่ะมองออกอยู่แล้วว่าเขาน่ะไม่เคยรักพี่สาวของเธอเลย แต่ก็ไม่รู้จะบอกพี่แพรอย่างไร พริมาภาเหมือนคนน้ำท่วมปาก เธอถึงได้อึดอัดและเกลียดขี้หน้าดรัสตันมาตลอด ยิ่งเห็นเขาเสแสร้งเอาใจใส่พี่สาวของเธอเธอก็ยิ่งขัดใจมากขึ้น แต่เพราะพี่สาวดูมีความสุขเวลาอยู่กับดรัสตัน เธอถึงได้เก็บความคิดนี้เอาไว้กับตัว ไม่กล้าบอกใคร
แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าเบื้องหลังการแต่งงานเร่งด่วนส่วนหนึ่งของดรัสตันนั้น จะมีสาเหตุมาจากเรื่องหนี้สินของครอบครัวเธอด้วย...
แต่งงานล้างหนี้...
ประโยคนี้เหมือนมีดที่เสียดแทงในอกของเธอซ้ำๆ เจ็บแปลบเมื่อคิดว่าพี่สาวของเธอต้องทนมานานแค่ไหนในการเป็นคนรักกับดรัสตัน และพี่แพรคงทนไม่ไหวถึงได้เลือกจะหนีไปในเวลานี้...คงเพราะรู้ดีว่าไม่สามารถล้มเลิกงานแต่งงานบ้าๆ นี้ได้สินะ
หญิงสาวกลืนก้อนแข็งๆ ที่จุกขึ้นมาในลำคออย่างยากลำบาก ขณะที่ประโยคร้ายกาจของคนตัวสูงตรงหน้าก็แทรกขัดทะลุความคิดของเธอเข้ามา ยืนยันความไร้หัวใจของดรัสตันได้เป็นอย่างดี
“เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนชั่วอยู่แล้ว ฉะนั้นฉันคงต้องเอาเงินที่ฉันให้ยืมไปทั้งหมดคืน”
“นายทำไม่ได้หรอก!” พริมาภาโพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน “นาย...นายจะใจดำ...”
“ฉันเป็นคนใจดำ” คนตรงหน้าแทรกขึ้น ไม่รอให้เธอเอ่ยออกมาจนจบ “เธอด่าฉันตลอดนี่”
น้ำเสียงและรอยยิ้มท้าทายนั้นทำให้พริมาภาไม่สามารถตอบโต้อะไรออกมาได้เลย
“ดรัสตัน แมคไกวร์!”
สุดท้ายเธอเลยได้แต่เรียกชื่อเขาอย่างอัดอั้น ขณะที่ปีศาจไร้หัวใจตรงหน้าเธอก็เหยียดยิ้มร้ายกาจออกมา น้ำเสียงของเขาเฉื่อยชาเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่กลับเต็มไปด้วยความกดดันที่ทำให้พริมาภาแทบจะหายใจไม่ออกในตอนที่เขาถามเธอกลับมาว่า
“อืม...จะแต่งหรือไม่แต่งก็อยู่ที่เธอตัดสินใจ”
“ฉัน...”
คำถามนั้นเหมือนเป็นการให้ทางเลือกแก่เธอ แต่พริมาภารู้ดีว่าคนอย่าง ดรัสตัน แมคไกวร์ หรือจะใจดีขนาดนั้น แล้วชั่วอึดใจถัดมาเธอก็ได้รู้ เมื่อเขาเอ่ยว่า
“ไม่แต่งก็เอาเงินมาคืน ฉันจะทนขายหน้าเองว่าถูกทิ้งก็ได้”
“...”
“แต่ถ้ามีสมองสักนิดเธอก็น่าจะคิดออกว่าควรจะทำยังไง แม่ป่วยต้องใช้เงินเยอะไม่ใช่เหรอพีช...”
“...”
เขาอมยิ้ม มองเธออย่างผู้ชนะ ในขณะที่พริมาภาไม่อาจตอบอะไรออกมาได้เลย
พ่อเธอเพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าที่บ้านเธอไม่มีเงิน และแม่ของเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจในเร็ววันนี้ ค่ารักษาของโรคพยาบาลเอกชนชื่อดังและหมอที่ดีที่สุดนั้นคือราคาสูงลิบที่แม้แต่ประกันสุขภาพของแม่ก็ครอบคลุมไม่หมด
โลกของเธอเหมือนถล่มด้วยความจริงอันเจ็บปวดนี้ เธอเพิ่งรู้ว่าทุกคนปกปิดความลำบากมาโดยตลอด ไม่มีใครยอมแย้มพรายสักนิดให้เธอรู้ว่าลำบากมากแค่ไหนกับอดีตที่ผ่านมา มีเพียงเธอที่เด็กเกินกว่าจะสังเกตเห็นอะไร ใช้ชีวิตหรูหราสิ้นเปลืองไปกับของไร้ประโยชน์มาก็ตั้งมาก
ไหนจะเร็วๆ นี้ที่เธอเพิ่งขอไปเรียนต่อต่างประเทศและบิดาก็อนุญาตแล้ว เธอมีแผนจะเดินทางไปเรียนต่อตอนที่แม่ผ่าตัดแล้วและผลออกมาว่าหายดี
พริมาภาไม่เคยรู้เลยว่าเบื้องหลังชีวิตดีๆ ของเธอที่เพื่อนหลายคนอิจฉา ความโลกสวยนั้นได้แฝงไปด้วยความลำบากของคนในบ้านมากแค่ไหน
ดวงตาเธอแสบร้อน หัวใจเธอร้อนรนกระวนกระวาย ขณะที่ ‘เจ้าหนี้รายใหญ่’ มองเธอด้วยความสมเพชเวทนา แล้วเอ่ยย้ำกับเธออีกครั้งอย่างคนที่อยู่เหนือกว่าออกมาสั้นๆ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องทำงานและทิ้งให้เธอยืนร้องไห้เพียงลำพังอย่างเงียบงัน
“คิดดีๆ ล่ะ”