“คิดถึงก็แวะมาหาน้องที่นี่ได้เสมอนะเจ้” ปาวรีที่ทำหน้าที่ขนของมาส่งหญิงสาวที่รถญี่ปุ่นคันเล็กของเธอที่จอดอยู่ลานจดรถหน้าตึกสูงตระหง่านนี้ได้แต่เอ่ยออกมาเสียงสั่น แล้วก็ในดวงตาของหญิงสาวกำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตาอยู่ นี่สินะที่เรียกว่าการจากลา มันไม่เป็นผลดีกับใครเลยจริงๆ
“ไม่เอาหรอก เจ้ไม่มารบกวนเวลาทำงานของน้องหรอก คิดถึงเราก็นัดเจอกันข้างนอกก็ได้ จะได้ไม่ต้องรบกวนเวลางาน แล้วไม่ต้องร้องไห้นะ คิดถึงก็แค่โทรหา หรือไม่ก็นัดเจอ เรายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะยัยตัวแสบ” พวงชมพูเอ่ยออกมาก่อนที่จะกอดน้องสาวคนสนิทเพื่อร่ำลาเธอ ส่วนปาวรีก็พยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้บรรยากาศมันเศร้ามากกว่านี้
“ได้เจ้ รับสายน้องด้วยนะ อย่างทิ้งน้องไปไหน” ปาวรีเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ แม้ว่าเธอพยายามจะกลั้นน้ำตาเอาไว้เท่าใดก็ตาม
“ได้สิ ถ้าอย่างนั้นเจ้ไปก่อนนะ มีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะ” เมื่อรับปากแล้วพวงชมพูก็ตัดสินใจผละออกจากอ้อมกอดของน้องสาวสุดที่รัก ก่อนที่เธอจะโบกมือลาอีกครั้ง แล้วเข้าไปในรถญี่ปุ่นคันเล็กของเธอ ปิดตำนานการเป็นสาวแบงค์ที่แท้ทรูแล้วสินะ
ส่วนยัยน้องก็ได้แต่โบกมือลาพี่สาว ก่อนที่ทางฝั่งพี่สาวจะเคลื่อนรถออกไปจากที่จอดรถ มันเหมือนการก้าวเดินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ นาทีนี้พวงชมพูยังไม่คิดที่จะทำงาน เธอขอเที่ยวสักอาทิตย์ก่อน เพื่อชดเชยเวลาที่เธอบ้างานมาหลายปี หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่าเธอจะหางานใหม่ หรือว่าหาอะไรทำที่มันเป็นธุรกิจส่วนตัว ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร เพราะการทำงานกับคน ไม่มีอะไรมาการันตีได้เลยว่าเธอจะไม่เจอหัวหน้าที่ท็อกซิกอย่างเพ็ญพรอีก
สามวันต่อมาพวงชมพูก็มาอยู่ที่รีสอร์ทเล็กๆ ที่ปลายด้ามขวานของประเทศไทย เธอจำไม่ได้เลยว่าครั้งสุดท้ายเธอมาเที่ยวเมื่อไหร่ ชีวิตที่มีแต่งาน แล้วก็หาเงิน มันเป็นอย่างนั้นจนเธอลืมหาความสุขให้กับตัวเอง การที่เท้าได้เหยียบน้ำทะเลมันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก นี่สินะที่เขาบอกว่าการตัดสินใจออกมาจากสิ่งที่ไม่ใช่ มันจะทำให้มีความสุขแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ระหว่างที่เธอกำลังมีความสุขอยู่นั้น ความทุกข์ก็มาเยือนน่ะสิ เมื่อผู้ชายคนหนึ่งบิดเจ็ทสกีพุ่งตรงมาที่เธอ เป้าหมายก็คงมาจอดเทียบฝั่งน่ะสิ ที่อื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่มาจอด แล้วจงใจมาจอดตรงที่เธอยืนอยู่ หาเรื่องกันนี่หว่า ถ้าไม่ได้ว่าสักหน่อยก็คงไม่ใช่พวงชมพูสินะ แต่ระหว่างนี้ต้องหลบเอาชีวิตรอดเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเจ็ทสกีได้พุ่งชนเธอแน่ๆ
ส่วนฝ่ายคนขับเจ็ทสกีเมื่อจอดเทียบท่าได้แล้ว เขาก็ลงจากเจ็ทสกี และกำลังจะเดินเข้าไปในรีสอร์ท แต่เขาเข้าไปง่ายๆ ไม่ได้น่ะสิ เพราะว่าเขาฝ่ายหญิงเดินเข้ามาขวางเขาไว้ แล้วสายตาไม่เป็นมิตรชัดเจน ดูท่าทางพร้อมที่จะเอาเรื่องเขามาก ไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองตัวเท่าลูกแมว จะเอาอะไรมาทำให้เขากลัวมิทราบ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะนาย” พวงชมพูเอ่ยออกมา แต่ทว่าฝ่ายชายกลับไม่หยุด
“นี่ หยุดคุยกันก่อน ทำไมไม่หยุดวะ” พวงชมพูเริ่มขึ้นเสียง ไอ้เด็กนี่มันกวนประสาทจริงๆ เลย ทำคนอื่นเขาตกใจแล้วยังไม่รู้จักขอโทษอีก นี่คงไม่มีใครสั่งสอนมาเลยสินะ ไม่เป็นไร ถือว่าเธอซวยมาเจอ เธอจะสั่งสอนให้เอาบุญแล้วกันนะ
“ก็ไม่ได้ชื่อนาย แล้วทำไมต้องหยุด” ฝ่ายชายยักไหล่ก่อนจะตอบออกมา นั่นยิ่งทำให้ฝ่ายหญิงเต็มไปด้วยความหมั่นไส้