“มิว!” ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นมาจากเตียงนอนทันที
“คะ!” เสียงหวานตอบรับทันที พร้อมกับใบหน้าหวานสะอาดสะอ้านโผล่พ้นขอบเตียงติดตำแหน่งปลายเท้าของเขา
“แล้วทำไมเธอไปนอนตรงนั้น”
“ก็เมื่อคืนคุณบอกว่าให้นอนตรงไหนก็ได้นี่คะ”
“ใช่ ฉันบอกว่านอนตรงไหนก็ได้ แล้วทำไมไม่ขึ้นไปนอนบนโซฟานุ่มๆ มาขดนอนอะไรตรงปลายเท้าฉัน”
“ก็บนโซฟาตรงนั้นมันหนาวนี่คะ” คนที่สวมเพียงเสื้อผ้าเนื้อบางตอบเสียงอ่อนลงทันที
“หนาว?” แทนคุณขยับลุกขึ้นจากเตียงแล้วมายืนถอนหายใจ เมื่อเห็นเสื้อกับกางเกงที่เขาสวมใส่เมื่อวานถูกนำมากางขึงแทนผ้าห่ม
“แล้วเธอเอาเสื้อฉันมาห่มเนี่ยนะ” แทนคุณถอนหายใจให้กับความขี้เกรงใจของเด็กสาวที่ตัวเองช่วยมา
“ก็หนูไม่รู้นี่”
“เอาล่ะ ไปล้างหน้าล้างตาแล้วก็...เอ่อ” สายตาสะดุดหยุดลงตรงส่วนหน้าอกเสื้อ ซึ่งเวลามีมีจุดแหลมแปลกๆ ดันเนื้อผ้าบางจนเห็นเป็นเงารางๆ ของสีเนื้อชมพูสว่างปรากฏขึ้นมากระแทกตา จนแทนคุณถึงกับต้องรีบเบนสายตาหนีไปทางอื่น
“ทำไมคะ”
“คือ เดี๋ยว...ฉันต้องไปทำงานต่อ เธอรอฉันอยู่ที่นี่...”
“หนูขอไปทำงานกับคุณด้วยได้ไหมคะ หนูทำงานเก่งนะ ขายของก็ได้ ทำขนมก็ได้ หนูเคยช่วยยายมัดข้าวต้มขายด้วย” หญิงสาวคลานมานั่งคุกเข่าอ้อนเขาตาปริบ ๆ
“แต่คือว่า...” เขาจะให้แม่สาวนี่ออกจากห้องไปในสภาพนี้ได้ยังไงกัน เสื้อในก็ไม่มี แล้วนี่กางเกงในก็ไม่รู้ว่าได้ใส่หรือเปล่า
“ให้หนูทำงานเถอะนะคะ ถือว่าทำงานใช้หนี้ที่เอาเงินคุณไปเมื่อคืนก็ได้”
“อย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าเธอจะลงไปข้างล่างในสภาพนี้ไม่ได้หรอกนะ”
“สภาพนี้เหรอคะ...ว๊าย!!” มือเล็กตวัดขึ้นมาปกปิดเนินอกอวบอิ่มแล้วรีบหันหลังให้ทันที
“เอาเสื้อแจ็กเก็ตหนังของฉันใส่ทับไปก่อน เดี๋ยวถ้าขับรถผ่านร้านขายเสื้อผ้าตรงไหนค่อยแวะซื้อ” แทนคุณเดินไปเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นหยิบเสื้อแจ็กเก็ตตัวโปรดราคาหลักหมื่นมาส่งยื่นให้
“ขอบคุณค่ะ” แม่สาวน้อยมืออ่อนยกมือไหว้จนเกือบจะกลายเป็นกราบ
เมื่อทั้งสองคนเดินออกมาเจอแสงสว่างจากธรรมชาติด้านนอก เวลานี้เองที่แทนคุณเพิ่งมีเวลาสังเกตเครื่องหน้าของคนที่ตัวเองช่วยมาจากแก๊งเงินกู้ดอกโหด เด็กสาวเครื่องหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ผิวขาวแม้ไม่มาก แต่เนียนละเอียด ยิ่งดวงตากลมโตใสซื่อคู่นั้น
“คุณแทนคุณคะ คุณแทนคุณคะ” ดวงตาโตขยับมาใกล้ พร้อมกับเสียงเรียกดังขึ้นเรื่อยๆ จนเขาสะดุ้ง
“ฮะ อะไร” คนที่เผลอมองคนอื่นจนลืมตัวรีบกลบเกลื่อนพิรุธ
“อันนี้ เขาให้กินฟรีจริงเหรอคะ” เจ้าของเสียงซื่อเอียงคอถาม ก่อนจะชี้มือไปยังไลน์วางอาหารเช้า ที่มีไว้บริการผู้ที่เข้ามาพักในโรงแรม
“อืม ฟรี...กินได้”
“แน่นะคะ หนูไม่มีเงินนะ” คนที่ไม่มีอาหารตกลงไปในกระเพาะตั้งแต่เมื่อวานเช้า กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกใหญ่
“อืม ฉันจะโกหกเธอทำไมล่ะ”
“คุณแทนคุณอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวหนูไปตักให้ คุณนั่งรอตรงนี้ก่อนนะ” มือเย็นคว้าท่อนแขนผู้มีพระคุณแล้วลากให้เขาเดินตามมานั่งลงยังโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร ท่ามกลางสายตาของทีมงานที่มาร่วมกันจัดการแข่งขันรถ ไม่บ่อยนัก ที่พวกเขาจะเห็นเจ้าของสนามแข่งควงแขนสาวคนไหน แล้วนี่นอกจากตื่นเช้าลงมากินอาหารพร้อมกัน สาวน้อยหน้าหวานยังสวมเสื้อแจ็กเก็ตของท่านประธานใหญ่เสียอีก
“ฉันเอากาแฟดำแก้วเดียว”
“คุณไม่กินข้าวเหรอคะ”
“ไม่กิน เอาแค่กาแฟ”
“ค่ะ”
สาวน้อยนัยน์ตาซื่อมายืนชะเง้อคอมองอาหารเช้าอันละลานตาก่อนจะหยิบถ้วย หยิบชามมาตักข้าวผัดโปะไข่ดาวไปจานใหญ่ จากนั้นรีบวิ่งกลับไปยืนเกาหัว มองเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติตาปริบๆ ก่อนจะเดินคอตกกลับมาหาแทนคุณ พร้อมรอยยิ้มเจื่อนเหมือนไร้ความมั่นใจ
“ไหนล่ะกาแฟฉัน”
“หนูทำไม่เป็น”
“เฮ้อ...ถ้าทำไม่เป็นอย่างนั้นมานั่ง เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง” แทนคุณกึ่งๆ จะอารมณ์เสีย แต่พอเงยหน้าขึ้นไปเห็นรอยยิ้มแห้งกับไหล่ห่อนั้นแล้วก็อดขำไม่ได้ คนติดกาแฟลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงมายังเครื่องชงกาแฟทันที
“ตามมาทำไม ฉันบอกให้นั่งรอไม่ใช่เหรอ”
“หนูบอกแล้วไงคะ ว่าจะทำงานใช้หนี้ให้คุณ ถึงวันนี้หนูทำไม่เป็น แต่ถ้าคุณสอนหนู เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูก็ทำเป็น แล้ววันต่อไป ทุกๆ วันหนูก็จะทำให้คุณกินทุกวันเลย” เสียงใสนัยน์ตาซื่อ ทำให้เขายอมจำนน จากนั้นกระดิกนิ้วเรียกให้คนอายุน้อยมายืนข้างๆ แล้วสอนอธิบายขั้นตอนทุกอย่างให้ฟังอย่างช้าๆ สายตาใคร่รู้ใคร่เห็นของเด็กสาวเฝ้ามองเขาทุกอิริยาบถ น่ารักไปกว่านั้น เจ้าของนัยน์ตาซื่อยังขอทดลองชงกาแฟเองบ้าง แม้ท่าทางจะเก้ๆ กังๆ แต่เขาสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ
“ชงมาแล้ว ทำไมไม่กินล่ะ”
“คุณแทนคุณไม่กินเหรอคะ”
“ฉันจะกินทำไมสองแก้ว สามแก้ว” แทนคุณยกมือขึ้นมากอดอกมองลงไปบนโต๊ะอาหารที่มีกาแฟดำวางเรียงกันอยู่สามแก้ว
“แล้วอันนี้ หนูต้องกินเองเหรอคะ”
“อืม”
เจ้าของใบหน้าหวานย่นจมูกทำท่าลังเล แล้วกลั้นใจยกกาแฟดำไม่ผ่านการผสมทั้งครีมเทียมและน้ำตาลขึ้นมาจรดริมฝีปาก จนแทนคุณถึงกับเผลอหลุดหัวเราะร่วนออกมา เมื่อสีหน้าอันขมขืนของคนที่คงไม่เคยลิ้มรสชาติกาแฟดำ
“อี๋...ไม่เห็นอร่อยเลย” ลิ้นเรียวแลพ้นออกมาจากริมฝีปาก หน้าผากย่น ตาหยี แสดงให้รู้ว่ารสชาตินี้คงไม่ถูกอกถูกใจเป็นแน่
“ฮ่าๆๆ ใครเขากินเพราะอร่อยเล่า พอๆ เดี๋ยวฉันกินเอง”