คืนนั้นเองเรืองยศได้สั่งให้ใบบัวเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เตรียมไว้ พอรุ่งเช้าเขาก็พาหลานสาวมาส่งที่คฤหาสน์ของตระกูลอีแวนสัน ส่วนฤทัยกับพลอยระตีเรืองยศไม่ได้ให้มาด้วย
"โอ้โห! คุณเคลวินรวยขนาดนี้เลยเหรอคะลุงยศ" ใบบัวอ้าปากค้าง ตกตะลึงในความมีอันจะกินของตระกูลอีแวนสัน
"หุบปากหน่อย เดี๋ยวคนมาเห็นเขาจะคิดว่ายัยพลอยเป็นเด็กบ้านนอก ภาพลักษณ์ลูกสาวฉันเสียหายหมด"
"บัวขอโทษค่ะ"
"ทำไมยังแทนตัวว่าบัวอยู่อีก ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะทำยังไง" เรืองยศเอ็ดหลานสาว
"บะ..พลอยขอโทษค่ะพ่อ"
"ดี มันต้องอย่างนี้สิ จำไว้แกห้ามหลุดปากออกมาเด็ดขาดว่าชื่อใบบัว ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่" เรืองยศชี้หน้าคาดโทษ
"พลอยรู้แล้วค่ะ"
เรืองยศมีท่าทีที่พอใจขึ้น ก่อนจะหันไปกดกริ่งเรียกคนข้างในให้ออกมาเปิดประตู ไม่นานฝันเฟื่องสาวใช้ของบ้านอีแวนสันก็เดินออกมา
"อ้าว มาทำอะไรที่นี่เหรอลุงยศ" ฝันเฟื่องมาเป็นสาวใช้ที่นี่ตั้งแต่เด็กจึงคุ้นเคยกับเรืองยศพอสมควร
"ฉันมาหาคุณคริสเตียนกับคุณรัมภา" พ่อของเคลวินเป็นนักธุรกิจชาวอังกฤษ ส่วนรัมภาเป็นอดีตนางเอกชื่อดังมาก่อน
"ไม่มีใครอยู่เลยจ๊ะ คุณคริสเตียนกับคุณรัมภาไปสนามบินกันตั้งแต่เช้าแล้ว"
"ไปไหน"
"อเมริกาจ้ะ จะไปหาหมอตาที่เก่งที่สุดมารักษาคุณเคลวิน แล้วนี่ลุงยศมีเรื่องอะไร" ฝันเฟื่องเหลือบมองหญิงสาวที่เรืองยศพามาอย่างสนใจปนสงสัย เพราะหญิงสาวหน้าตาสะสวยมาก จมูกปากดูจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ผิวก็ขาวอย่างกับน้ำนม ถ้าบอกว่าเป็นดาราเหมือนรัมภาเธอก็เชื่อ
"นี่พลอยระตี ลูกสาวฉัน ว่าจะพามาแนะนำคุณคริสเตียนกับคุณรัมภาสักหน่อย ได้ยินว่าพวกคุณๆ กำลังหาพยาบาลพิเศษมาดูแลคุณเคลวินไม่ใช่เหรอ"
"สวัสดีค่ะ" ใบบัวยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ฝันเฟื่องจึงคลี่ยิ้มตอบพร้อมรับไหว้ พลางคิดในใจว่าลูกสาวเรืองยศดูนิสัยดีกว่าที่คิด
"อ๋อ คนที่ลุงยศบอกว่าเรียนจบพยาบาลมาใช่ไหมจ๊ะ"
"เออ"
"ลุงยศน่าจะพามาตั้งแค่เมื่อวาน"
"เอ็งหมายความว่ายังไง"
"ก็เมื่อเช้าคุณรัมภาเพิ่งจ้างพยาบาลคนใหม่ให้มาดูแลคุณเคลวินหมาดๆ น่ะสิ ลุงยศมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ"
"เหรอวะ" เรืองยศทำหน้าผิดหวังอย่างไม่ปิดบัง ในขณะที่ใบบัวแทบจะเก็บความดีใจไว้ไม่มิดที่ไม่ต้องไปหลอกลวงคนอื่นแล้ว ถึงจะต้องอดไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นก็ตาม
"กรี๊ดดดด!" ขณะที่เรืองยศถอดใจกำลังจะหันหลังกลับเสียงกรี๊ดก็ดังออกมาจากชั้นสองของคฤหาสน์
ตึก ตึก ตึก
"เดี๋ยวก่อนคะ นี่คุณพยาบาลจะไปไหนคะ" จู่ๆ นางพยาบาลก็วิ่งหน้าตั้งกระหืดกระหอบออกมา ฝันเฟื่องรีบคว้าท่อนแขนหล่อนไว้
"ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว คุณเคลวินจะฆ่าฉัน!"
"ถ้าคุณไปแล้วใครจะอยู่ดูแลคุณเคลวินล่ะคะ"
"ใครอยากดูก็ดูไปสิ คนบ้าแบบนั้น ฉันไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่หรอกนะ แล้วฝากบอกคุณรัมภาด้วยว่าเงินค่าจ้างล่วงหน้าฉันจะโอนคืนให้ครบทุกบาททุกสตางค์"
"อ้าวเฮ้ย ไหงมาเทกันง่ายๆ อย่างนี้ล่ะเนี่ย"
"ทีนี่ตำแหน่งพยาบาลก็ว่างแล้วใช่ไหม" เรืองยศยิ้มกริ่ม
"จ้ะ เดี๋ยวฉันจะโทร.ไปบอกคุณรัมภาให้ แต่ลุงยศแน่ใจใช่ไหมว่าจะให้ลูกสาวมาดูแลคุณเคลวินจริงๆ ฉันจะบอกให้นะว่าคุณพยาบาลคนเมื่อกี้ไม่ใช่คนแรกหรอกที่เจอคุณเคลวินแผงฤทธิ์ใส่"
"เออ ลูกสาวข้ามันอึด ถึก ทน ดูแลคุณเคลวินได้สบายๆ อยู่แล้ว"
"แต่ว่าเมื่อกี้ลุงไม่เห็นเหรอจ๊ะว่าที่คอของพี่พยาบาลมีรอยบีบแดงเถือกเลย"
"ลุง?"
"รอยบีบบ้าบออะไร แกตาฝาดน่ะสิ ฉันบอกแล้วว่าอย่าเล่นโทรศัพท์ให้มันมาก สายตาเสียหมด" เรืองยศถลึงตาใส่ใบบัว ก่อนทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อนเบี่ยงเบนความสนใจฝันเฟื่อง ก่อนจะรีบขอตัวกลับทันที
ฝันเฟื่องจึงพาใบบัวเข้าไปในบ้าน พาเธอไปดูห้องพักสำหรับพยาบาลที่รัมภาจัดไว้ให้อยู่ห้องฝั่งตรงกันข้ามกับห้องนอนของเคลวิน เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นจะได้มาดูแลชายหนุ่มได้ทันท่วงที
"อยู่ได้ไหม"
"ได้ยิ่งกว่าได้อีกค่ะพี่เฟื่อง" ห้องพักใหญ่โตหรูหรามาก เพราะเป็นห้องที่ตระกูลอีแวนสันใช้รับแขกเฉพาะคนสำคัญ
"หวังว่าหลังไปดูแลคุณเคลวินแล้วเธอจะยังยิ้มได้แบบนี้อยู่นะ"
"เขาเป็นคนอารมณ์ร้ายมากเลยเหรอคะ"
"เมื่อก่อนก็ไม่ แต่อย่างว่าคนเคยครบสามสิบสอง ใช้ชีวิตเป็นหนุ่มฮอตอยู่ดีๆ ต้องมาพิการใครมันจะไปรับได้"
"แต่ว่าก็ยังมีโอกาสรักษาหายนี่นา"
"ก็คุณคริสเตียนเล่นเอาปืนจ่อขมับหมอ เป็นใครจะกล้าพูดว่าคุณเคลวินจะรักษาไม่หายล่ะ จริงไหม"
จากนั้นฝันเฟื่องก็ปล่อยให้ใบบัวพักผ่อน แล้วลงไปทำงานต่อ
"เฮ้อ จะมีชีวิตรอดกลับไปไหมเนี่ยเรา" ใบบัวพึมพำขณะแง้มประตูส่องหน้าห้องคุณเคลวิน พลางพยายามเงี่ยหูฟัง แต่ว่าก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรดังเล็ดลอดออกมาเลย
"นุ่มจังเหมือนได้นอนอยู่บนก้อนเมฆเลย" ใบบัวกลับมาทิ้งตัวลงบนที่นอนหนานุ่ม อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง ด้วยความที่เกิดมาเคยนอนแต่ฟูกแข็งๆ หรือไม่ก็ที่นอนที่พลอยระตีใช้นอนจนยุ่ยแล้ว หญิงสาวจึงผล็อยหลับลงไปอย่างง่ายดาย
จนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงฝันเฟื่องก็มาตามให้ลงไปกินข้าว
"แล้วคุณเคลวินกินหรือยังคะ"
"ยังเลย พี่ไม่กล้าเอาขึ้นไปให้"
"เดี๋ยวบัว เอ้ย พลอยเอาขึ้นไปให้เองค่ะ"
"แน่ใจเหรอ"
"ก็หน้าที่ดูแลคุณเคลวินมันเป็นของพลอยนี่คะ" ใบบัวยิ้ม ฝันเฟื่องจึงลุกไปอุ่นข้าวต้มกุ้งให้ รัมภาสั่งไว้ว่าช่วงนี้ให้คุณเคลวินกินอะไรอ่อนๆ ไปก่อน
"มียาด้วยเหรอคะ"
"อือ แล้วเธอต้องอยู่ดูจนมั่นใจว่าคุณเคลวินกินยาหลังอาหารด้วยนะ"
"ทำไมคะ เขากินยายากเหรอ"
"โคตรยากเลยล่ะ" ฝันเฟื่องป้องปากกระซิบกลัวสาวใช้คนอื่นได้ยินแล้วจะแจ้นไปฟ้องเจ้านาย
"..." ใบบัวอยากจะเอามือปาดเหงื่อขึ้นมาทันที ถ้าเป็นเด็กยังพอว่า แต่นี่เขายี่สิบเจ็ดแล้วนะ ทำไมยังกินยายากอยู่อีก ขนาดเธอยังโดนฤทัยจับยาพารากรอกปากตั้งแต่ห้าขวบแหน่ะ
ใบบัวรับถาดสำรับเดินขึ้นไปห้องที่ห้องนอนของเคลวิน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณเคลวินคะ หนูขออนุญาตเข้าไปนะคะ"
"..."
"คุณเคลวินคะ อะ...อ้าว ไม่ได้ล็อกเหรอเนี่ย" ใบบัวไม่แน่ใจว่าคุณเคลวินกำลังทำอะไรอยู่ถึงไม่ขานรับ แต่เธอกลัวข้าวต้มกุ้งจะหายร้อนเสียก่อน จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป
พลั่ก!
"โอ้ย!" รีโมทแอร์ลอยลิ่วมาฟาดกลางหน้าผากใบบัวอย่างจัง และถาดสำรับข้าวต้มก็หลุดจากมือเล็กทันที หลังเท้าขาวจึงถูกเจิมด้วยข้าวต้มกุ้งร้อนระอุลวกเต็มๆ ปวดแสบปวดร้อนไปหมด