พิมพ์พลอยชอกช้ำใจกับคำพูดสามี เพียงกล้ำกลืนความเจ็บช้ำพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูไปทำหน้าที่ของตัวเอง เธอหุงข้าวทำกับข้าวเฉกเช่นเดิมอย่างที่เคยเป็น แต่วันนี้มีเพียงของลูกสาวเท่านั้น เพราะของสามีเฮงซวยนั่นน่าจะอิ่มหนำมาจากด้านนอกแล้วถึงได้หน้าบาน
ต่อไปนี้เธอจะไม่ให้เขาร่วมเตียงกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว
หลายคนอาจจะยอมให้สามีมีบ้านเล็กบ้านน้อยได้ แต่ว่าเธอไม่ใช่ ต่อให้เป็นเมียที่ยอมจำนนแต่เธอก็ไม่ใช่คนที่อ่อนต่อโลก
อายุน้อยแล้วยังไง เธอผ่านประสบการณ์เลวร้ายมาก็เยอะแล้ว แค่ผัวที่ไม่น่าจะเรียกว่าผัวนี่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ยอดแย่แล้ว เมื่อคิดถึงความเจ็บช้ำตลอดสามปี เธอก็คิดว่าจะไม่ทนอีกต่อไป ควรตอบโต้เขากลับบ้างมันถึงจะสาสม
เวลาแปดโมงเช้า ในเช้าวันเสาร์หญิงสาวป้อนข้าวลูกสาวตัวน้อยอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนตัวเองนั้นก็แค่หุงข้าวไว้ แต่ไม่ได้ทำกับข้าว เพราะคิดว่าคงไม่มีใครอยากกิน
หลังจากทำกับข้าวเสร็จ เธอก็พาลูกอาบน้ำแต่งตัวแล้วถือกระเป๋าไปรอแท็กซี่ที่หน้าบ้าน วันนี้เธอจะไปบ้านคุณตา พาหลานไปหาคุณตา แล้วอยากออกจากนรกขุมนี้ไปสักพัก
เมื่อทั้งแม่และลูกออกไปแล้ว คนที่ไม่ได้นอนทั้งคืนก็ตื่นขึ้นเป็นเวลาเกือบเที่ยง เขาอาบน้ำให้สดชื่อแล้วก็ลงมาด้านล่างพร้อมกับเรียกหาเมียกับลูก
“พลอย...น้องพิณ อยู่ไหน” ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบรับเพราะบ้านหลังนี้อยู่กันแค่สามคน เมื่อเรียกหาก็จะมีร่างของเมียไม่ก็ลูกสาวที่วิ่งออกมาหาเขาแล้ว แต่ทำไมวันนี้เงียบผิดปกติ
เขาเดินดูทุกห้องแล้วก็ไม่พบ จึงโทรหาแต่ทว่าสายแล้วสายเล่าก็ไม่รับสักสาย
“ไปไหนวะ!” เสียงสถบพร้อมกับพ่นคำหยาบคายออกมาเป็นระยะเมื่อไม่สามารถติดต่อเมียตัวเองได้ ยิ่งโทรไปหามารดาก็พบว่าไม่ได้ออกไปด้วยกัน ทั้งเธอยังกล้าตัดสายเขาอีก
“ดี...เอาอย่างนี้ใช่ไหม...ได้แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
เขาเหวี่ยงโทรศัพท์ไว้ที่โซฟาลวก ๆ แล้วก็เดินเข้าครัวจะเข้าไปกินอะไร แต่ทว่ากลับมีแต่ข้าวเปล่าและน้ำปลาพริกที่ครอบฝาชีไว้ ทำให้เขายิ่งกว่าโกรธหนัก
“หน็อย...เป็นแม่บ้านกระทั่งทำกับข้าวให้ผัวยังละเลย เห็นดีกันแน่รอกลับมาก่อนเถอะ!”
ชายหนุ่มหัวเสียแล้วก็หิวข้าวจนทนไม่ไหวจึงสั่งพิซซ่ามาสองถาดใหญ่ นั่งกินคนเดียวอย่างรู้สึกเฟื่อน ๆ เพราะมันรสชาติแย่มาก
เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าอาหารนอกบ้านนอกจากเหล้าเขากินมื้อสุดท้ายเมื่อไหร่ ก่อนไปทำงานก็กินข้าวที่บ้าน แล้วก็หิ้วท้องจนเย็นกลับมากินข้าวที่บ้านเช่นกัน จากตอนแรกที่จงใจจะกลั่นแกล้งให้เธอคอยอยู่ดึกดื่นเพื่อจะคอยดูแล กลับกลายเป็นตัวเองติดรสชาติที่เมียทำเสียอย่างนั้น
สุดท้ายเขาก็ไปหาหม้อต้มไข่กินกับข้าวราดน้ำปลาที่เธอทำไว้ดูต่างหน้ายามไม่อยู่ แต่มันกลับรสชาติดีกว่าอาหารเดลิเวอรี่เสียอย่างนั้น
“ใส่อะไรวะแม่งอร่อยจังวะ!”
เขาเติมข้าวสองรอบกับราดน้ำปลาบนข้าวใช้ช้อนหั่นไข่ต้มกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็วางจานไว้ในครัว รอเธอมาเก็บกวาดเช่นเคย
วันนี้เป็นวันหยุดที่เขาไม่ได้ไปไหน คิดว่าจะพาลูกไปเที่ยวแต่กลับโดนภรรยาหักหน้าโดยพาลูกไปที่ไหนก็ไม่รู้ ที่สำคัญเย็นจนจะมืดแล้วก็ยังไม่กลับ จนเมื่อประตูหน้าบ้านเปิดพร้อมกับรถแท็กซี่ที่ขับมาจอดหน้าบ้าน จึงเห็นหน้าคน ที่เพิ่งปะทะฝีปากอย่างดุเดือดกันเมื่อเช้า
ริมฝีปากกระจับหนาเปิดอ้าคล้ายจะตวาดเมียอย่างที่ควรจะเป็น เพราะทำให้โมโหและหิวข้าวทั้งวัน แต่เมื่อลงรถมากับลูกน้อยที่กำลังหลับเขาก็หุบปากทันที แล้วก็เปลี่ยนเป็นแย่งลูกสาวมาอุ้มแทน เพราะเดี๋ยวคนโง่อย่างเธอจะทำลูกสาวตกบันไดเสียอีก
พิมพ์พลอยไม่ได้พูดอะไร เพียงเดินตามเขาไปเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนคนที่เดินนำหน้ารู้สึกถึงไอ้ร้อน ๆ ด้านหลัง แต่คิดว่าจะจัดการเธอหลังจากเอาลูกเข้านอน
แต่ผิดคาดเมื่อเธอแยกตัวไปนอนห้องของตัวเองโดยไม่แวะห้องลูกสาว ทั้งยังปิดประตูล็อกอย่างหน้าตาเฉย คนที่หัวร้อนมาค่อนวันยิ่งกว่าเดือดจนเส้นเลือดโป่งขึ้นขมับ ราวกับเธอต้องการจะให้เขาโมโหตาย
ปัง ปัง ปัง!!!!
เสียงเคาะประตูอย่างบ้าคลั่งของสามี ไม่ทำให้พิมพ์พลอยเปิดออกมาได้ เพราะว่าเธอคิดแล้วว่าจะไม่เผชิญหน้าหากไม่จำเป็น ในเมื่อเขาเลือกแล้วที่จะกลับไปกินของเหลือเดนใคร เธอก็ไม่อยากใช้ของสกปรกร่วมกับใครเช่นเดียวกัน
“ยายบ้า...เปิดนะเว้ย...ไม่งั้นเจอดีแน่”
เธอแสร้งทำหูดับอาบน้ำแล้วเข้านอน เดี๋ยวเสียงดังทำลูกตื่นก็ไปกล่อมเอง เธอจะได้ไม่ต้องเปลืองแรง ในเมื่อทำออกมาแล้วก็ช่วยเลี้ยงบ้างก็ดี
“พิมพ์พลอย...ปัง!!!”
แงงงงงง!!!!
ใช่เขาถีบประตูเสียงดัง แล้วทำให้ลูกสาวขวัญผวาตกใจจนร้องไห้ แต่ยายแม่เห็นแก่ตัวกลับนิ่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้ว่าหูดับไปแล้วหรือไง
โธ่เว้ย!!!