เรียนรู้ไปทีละนิด

1429 Words
ระยะทางจากคอนโดมาถึงบริษัทไม่ได้ไกลมากแต่ก็ใช้เวลาเดินทางถึง 45 นาที ทิวาทำหน้าที่เป็นคนขับโดยมีเมคินคอยบอกทาง พอถึงบริษัทเขาก็จอดให้เจ้านายลงด้านหน้า “นายเอารไปเก็บตรงที่จอดรถผู้บริหารนะ มันจะที่ประจำอยู่ ดูตามเลขทะเบียน” “ครับ ผมตรงไปแผนกบุคคลเลยใช่ไหมครับ” “อือ แล้วเจอกันข้างบนนะ” “ครับ” เขาวนรถไปจอดตามที่เมคินบอก จอดรถนั้นหาไม่ยากเพราะมีชื่อและป้ายทะเบียนรถติดอยู่ เมคินไม่ได้บอกเขาว่าตัวเองเป็นรองประธานบริษัท และเป็นบริษัทขนาดใหญ่เสียด้วย เขาเองก็ลืมถาม แล้วตอนนี้เขาจะถอนตัวทันไหม แต่คิดว่าถ้าถอนตัวไปตอนนี้เมคินอาจจะผิดหวังเพราะอุตส่าห์ชวนให้มาทำงานด้วย “เอาวะ ไม่ลองก็ไม่รู้” ทิวาสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะลงจากรถแล้วตรงไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อรายงานตัวตามที่เมคินบอก เขาขึ้นมายังฝ่ายบุคคลจากนั้นส่งเอกสารและรายงานตัวกับหัวหน้าฝ่ายบุคคล รับทราบขอปฏิบัติระหว่างทดลองงานรวมถึงอัตราเงินเดือน “ทำไมเงินเดินถึงสูงจังล่ะครับ” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะกลัวว่าเมคินจะเป็นคนกำหนดเงินเดือนให้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่สบายใจเข้าไปอีก “ไม่สูงหรอก ตามอัตราปกติ แต่ที่ดูสูงเพราะคุณพ่วงตำแหน่งคนขับรถด้วย” “อ๋อ ครับ” เขาพยักหน้าเข้าใจ อันที่จริงเรื่องขับรถเขาไม่ได้ลำบากอะไรเลย เพราะเขาก็พักที่เดียวกับเจ้านายอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดออกไปคงไม่เป็นผลดีแน่ๆ เขากลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเมคินใช้อำนาจฝากเขาเข้ามาทำงาน “มีอะไรจะถามอีกไหม ถ้ายังนึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสงสัยตรงไหนให้มาถาม อย่าคิดเอง เดาเองหรือถามคนอื่นเพราะบางเรื่องก็พูดกันไปเรื่อยเปื่อย ที่นี่พนักงานเยอะ ถ้าทำดีก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าพลาดขึ้นมาทีหนึ่ง คนที่คอยเหยียบย่ำซ้ำเดิมก็มีเยอะ” “ครับ ผมจะจำไว้” “เมื่อได้โอกาสแล้วก็ทำให้เต็มที่ ตำแหน่งเลขามันไม่ยากถ้าเราตั้งใจและใส่ใจในเนื้องาน แต่ที่ลาออกกันไปหลายคนก็เพราะสนใจอย่างอื่นมากกว่างานนี่แหละ พี่หวังว่าทิวาคงจะทำงานกับบอสได้นานกว่าคนอื่น” “ขอบคุณครับ ผมก็หวังอย่างนั้น” หัวหน้าฝ่ายบุคคลให้ชายหนุ่มไปที่ห้องของฉัตรภพก่อนเพราะชายหนุ่มต้องไปเรียนรู้งานและรับงานต่อจากฉัตรภพก่อนจะเริ่มงาน ทิวามายืนหน้าห้องของฉัตรภพ เขาเคาะประตูเบาๆ พอได้ยินเสียงขานรับเขาก็เปิดประตูเข้าไปทันที ฉัตรภพเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคม คิ้วเข้มจัดว่าเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาคนหนึ่ง แต่เทียบกับเมคินก็ถือว่าเขาหล่อน้อยกว่านิดหน่อยและตัวก็เหมือนจะเล็กกว่า เมคินไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวเพราะเขาดูมีเสน่ห์ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังแอบมองอยู่บ่อยครั้ง ไหนจะกล้ามแน่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวทำให้ทิวาอดอิจฉาไม่ได้ “สวัสดีครับ ผมทิวาครับ” “อือ สวัสดี นั่งลงก่อน ผมทำงานอีกนิด” ฉัตรภพเงยหน้ามองเลขาคนใหม่ของเมคินที่จะมาฝึกงานกับเขา แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ ทิวาจัดว่าเป็นคนหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่งเลยทีเดียว ผิวของชายหนุ่มขาวใบหน้าดูเหมือนลูกครึ่งแต่ในประวัติที่ฝ่ายบุคคลเพิ่งส่งไฟล์มาไม่ได้บอกว่าเขาเป็นลูกครึ่งและในนั้นยังบอกอีกว่าเขาโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาไม่แน่ใจว่าเมคินจะรู้หรือเปล่า แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะเขารู้จักนิสัยของเพื่อนดีว่าเป็นคนยังไง ชายหนุ่มให้ทิวาฝึกดูตารางงานในไอแพดที่เตรียมไว้จากนั้นก็ให้เขาศึกษารายชื่อผู้บริหาร ทั้งที่เข้ามาทำงานในบริษัทและคนที่เข้ามาแค่ตอนประชุมสำคัญ นอกจากนั้นเขาต้องจำหัวหน้าแผนกต่างในบริษัทให้ครบเพราะต้องเป็นคนประสานงานกับทุกแผนก “ไม่ต้องจำทีเดียวหมดหรอก ค่อยๆ จำไปทีละนิด” “แล้วคู่ค้าก็ต้องจำด้วยใช่ไหมครับ” “อืม จำไม่ได้ก็เปิดดู ที่สำคัญต้องจำให้ได้ด้วยนะว่าแต่ละคนมีเลขาชื่ออะไรบ้าง” “ครับ” เขานั่งศึกษาข้อมูลในไอแพดอยู่พักใหญ่ก่อนฉัตรภพจะเก็บแฟ้มเอกสารเข้าที่แล้วก็เดินนำทิวาไปยังห้องทำงานของรองประธานบริษัท เคาะประตูพอเป็นพิธีก็เปิดเขาไปโดยเจ้าของห้องยังไม่ได้อนุญาต “อ้าวมาแล้วเหรอ” “ครับ วันนี้บอสมีประชุมตอน 10 โมง จะให้ผมกับทิวาเข้าด้วยไหม” “ไม่ต้องหรอก แค่ประชุมแผนกประจำเดือน ระหว่างที่ผมประชุมคุณสอนงานทิวาก็แล้วกัน “ครับ” “ทิวา ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามคุณภพนะ” “ครับ บอส” ทิวาเรียกตามฉัตรภพ “ผมขอตัวก่อนนะครับบอส” ทิวาเดินตามฉัตรภพออกมา จากนั้นเขาก็พาไปแนะนำแผนกต่างให้กับชายหนุ่มได้รู้จัก ก่อนจะกลับมาที่ห้องของฉัตรภพอีกครั้ง “ทิวา เรียกผมพี่ภพก็ได้ ผมคงอายุมากกว่าคุณหลายปี” “ครับพี่ภพ พี่ก็เรียกผมทิวก็ได้” “เอาละเดี๋ยวพี่จะเริ่มสอนไปทีละนิดนะ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถาม อันที่จริงพี่ไม่ได้เป็นเลขามาก่อน เพียงแต่คุณเมคินยังหาเลขาไม่ได้พี่เลยต้องมาช่วยงาน” “ครับ” “ปกติเป็นคนพูดน้อยอย่างนี้เหรอ” “ไม่นะครับ แต่ผมเพิ่งมาทำงานวันแรก ถ้าทำงานไปนานพี่อาจจะรำคาญผมก็ได้” “พี่คงไม่รำคาญนายหรอก พี่ชินแล้ว” ฉัตรภพยิ้มเมื่อนึกถึงคนรักที่ช่างพูดช่างเอาใจจนเขาหลงหัวปักหัวปำอยู่ตอนนี้ ฉัตรภพสอนอะไรไม่ได้มากเพราะเขาก็เพิ่งมาทำงานตำแหน่งนี้ได้ไม่นาน เน้นไปที่เรื่องงาน ส่วนเรื่องเจ้านายชอบอะไรไม่ชอบอะไร ดื่มกาแฟแบบไหนหรือชอบทานอะไร เขาไม่ได้บอกเพราะอยากให้ทิวาเรียนรู้ด้วยตนเอง “พี่ภพครับ ทำไมมันไม่เหมือนที่ผมอ่านมาเลย” “ไม่เหมือนยังไง” “ก็ที่อ่านมาเลขาต้องรู้ทุกอย่างของเจ้านายเกือบทุกอย่าง เช่นพวก อาหารที่ชอบ กาแฟ เสื้อผ้า ที่เที่ยวประจำอะไรพวกนั้น” “เรื่องพวกนั้นนายต้องเรียนรู้เองเพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” “นอกจากพี่แล้วผมถามใครได้อีกบ้าง” “คุณวีณาน่าจะพอรู้ แต่ถ้าจะให้ดีนายเรียนรู้เองดีกว่าไหม หรือไม่ก็ถามบอสตรงๆ ไปเลยว่าชอบอะไรแบบไหน” “ผมไม่กล้าถาม” “ถ้านายไม่กล้าใครจะกล้า เลขามีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งและทำงานให้ถูกใจบอส แต่ถ้าไม่ถามจะรู้ได้ยังไงว่าบอสชอบอะไร ชอบแบบไหน พี่ว่าถามๆ ไปเถอะ บอสใจดีเชื่อพี่” “ครับ” ทิวเชื่อว่าบอสเป็นคนใจดี แต่ตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็นเลขา ยังไม่ได้รับเงินเดือน “เอาน่า ค่อยๆ เรียนรู้ไปยังไม่ต้องเครียด” ทิวานั่งอยู่ในห้องฉัตรภพจนถึงเวลาอาหารกลางวัน “ปกติแล้วบอสจะทานอาหารในห้องมีร้านที่สั่งมาทานประจำอยู่ ส่วนทิวก็ไปทานที่โรงอาหารกับคนอื่นๆ แต่ต้องสับกันไปกับคุณวีณานะ เพราะหน้าห้องบอสต้อง มีอย่างน้อยหนึ่งคนคอยรับโทรศัพท์” “ครับ ถ้าอย่างนั้นผมต้องไปเฝ้าหน้าห้องใช่ไหมครับ คุณวีณาจะได้ไปทานข้าว” “วันนี้คงไม่ต้องรับไปเฝ้า บอสบอกว่าจะไปทานข้าวข้างนอก” “ครับ” “ครับแล้วยังนั่งทำไมอยู่ตรงนี้ ถ้าบอสจะไปข้างนอกนายก็ต้องไปด้วย” “เหรอครับ งั้นผมไปก่อนนะครับพี่ภพ ขอบคุณนะครับ” ทิวายกมือไหว้แล้วรีบวิ่งกลับไปยังห้องทำงานของท่านรองประธาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD