บทที่ 4 ขอหายไปได้ไหม 2/2

756 Words
เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ปกติเฟื่องลดาจะเป็นคนเอาอาหารไปให้เขา เป็นอาหารที่ทางบริษัทจัดไว้ให้ท่านประธานโดยเฉพาะ แต่วันนี้อาหารคงเป็นหมัน และเธอก็ต้องลงไปทานอาหารกับพี่เจนตามเคย “ป่ะ เก็บของเสร็จหรือยัง” เจนจิรารอรุ่นน้องสาว เพราะวันนี้เหมือนดวงน้องจะซวย เจอบอสเหวี่ยงแต่เช้าน่าจะก้าวขาผิดข้างออกจากบ้าน “เรียบร้อยแล้วค่ะพี่เจน ไปกันเถอะ” หญิงสาวหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วเดินไปพร้อมกับรุ่นพี่ แต่ขณะยืนรอลิฟต์อยู่นั้น ติ๊ง ! เสียงลิฟต์ดังขึ้นพร้อมกับร่างที่เธอคุ้นเคยดีตลอดหกเดือน ก้าวออกมา ใช่เขาคือคนที่เธอรัก แล้วก็มากับดาราดังเบอร์ท็อปของเมืองไทย กับรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้าของชายที่บอกว่าไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ นั่นยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดขึ้นไปอีก “ไปทานข้าวกันเหรอ” “ค่ะ ท่านประธาน” “ไปเถอะ” เสียงที่ไม่ใคร่ยินดียินร้าย กล่าวออกมาแล้วหันไปยิ้มกับคู่ควงของตัวเอง เฟื่องลดามองอย่างอิจฉา ที่ผู้หญิงคนนั้นมีสิทธิ์ควงเขา มีสิทธิ์ยิ้มให้ แต่เธอแม้แต่สิทธิ์ที่อยากไปทานข้าวกับเขาสองคนยังไม่มี ‘เฟื่องลดาอดทนไว้ ตอนนี้แผลยังสดมันย่อมแสบ’ ภัสสกรณ์มองสายตาของเฟื่องลดาที่มองปาวลีและเขา ยิ่งเธอจ้องมองไปยังแขนที่ปาวลีควง เขายิ่งชอบ ‘หึ...ฉันจะทำให้เธอเจ็บจนเลิกรักฉัน แล้วคลานกลับมาเป็นผู้หญิงของฉันเหมือนเดิม’ แววตาเจ้าเล่ห์และเหี้ยมโหดของเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนจนคู่ควงอย่างปาวลีอดสงสัยไม่ได้ “ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ” ปาวลีขมวดคิ้วอย่างสงสัยในการกระทำของชายหนุ่ม ภัสสกรณ์ทำหน้าราวกับเสือต้องการจะกินเหยื่อก็ไม่ปาน “ปะ...เปล่าครับ เราเข้าไปคุยในห้องกันดีกว่าครับ” เขาจับกระชับมือของปาวลีแล้วเดินเข้าห้องไป เฟื่องลดามองตามคู่ควงคนใหม่ ที่เขาอาจจะมีข้อตกลงที่มากกว่าเธอ หรืออาจจะสถานะทางสังคมที่เอื้อประโยชน์ต่อเขา เขาถึงได้กล้าเปิดเผยเธอกับคนอื่น ‘ฉันก็แค่เด็กฝึกงานสินะ’ เฟื่องลดาเคี้ยวข้าวอย่างยากลำบากกว่าจะกลืนแต่ละคำจนทำให้เจนจิราเป็นห่วงรุ่นน้อง “หนูเฟื่อง ทำไมไม่กินละคะ เดี๋ยวก็หมดเวลาพักแล้วนะ” “ขอโทษค่ะพี่เจน เฟื่องกลืนไม่ค่อยลงค่ะ มันรู้สึกเจ็บคอ” “เปลี่ยนเป็นข้าวต้มหรือซุปไหม เดี๋ยวพี่ไปเอาให้” “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเฟื่องซื้อนมร้อนที่ร้านกาแฟดีกว่าค่ะ” เธอไม่อยากกินต่างหาก ยามนี้หญิงสาวคิดถึงมารดาขึ้นมาอ้อมกอดที่อบอุ่นของมารดา น่าจะช่วยเยียวยาแผลใจนี้ได้ ยามที่มีเรื่องทุกข์ใจเธอมักกอดมารดาแล้วก็จะหายทุกข์ หญิงสาวเดินขึ้นมาบนห้องทำงาน แล้วก็แยกขอตัวไปคุยกับผู้เป็นมารดาที่โทรมาหาเธอ “แม่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงหวานของ เฟื่องลดากรอกไปตามสายโทรศัพท์ โดยไม่รู้ว่ามีใครบางคนเดินออกมา แล้วก็ได้ยินพอดี “ต่างประเทศเหรอคะ ประเทศอะไรคะ” อยู่ๆ สกุนา ก็ชวนเฟื่องลดาไปต่างประเทศ “ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวขอคุยกับอาจารย์ภาควิชาก่อน นะคะ ว่าขอจบก่อนได้ไหม” เฟื่องลดาอยากไปเที่ยวกับมารดา แต่ติดฝึกงานนี่แหละ ที่จริงฝึกแค่หกเดือน เธอยื่นไปเจ็ดเดือน เพราะอยากให้เวลาที่ทำงานนั้นนานขึ้นหน่อย เธอวางสายแล้วก็ยืนเหม่อคิดทบทวน เรื่องที่เขาพูดว่าไม่อยากเห็นหน้าเธอ ถ้าเช่นนั้นหากเธอจะขอหายไป เขาก็คงจะดีใจสินะ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ก็ต้องไปปรึกษาพี่เจนจิรา จะดีกว่า หากคิดคนเดียวเธอก็ไม่รู้จะเอาอย่างไรเช่นกัน แต่เมื่อหันกลับมาก็เห็นเขายืนจ้องเธออยู่ “จะไปต่างประเทศ ?” เสียงเข้มถาม “ท่านประธานแอบฟังเหรอคะ” เฟื่องลดาถามอย่างใสซื่อ แต่ก็สามารถปลุกยักษ์ในตัวของเขาให้ตื่นขึ้น แถมใบหน้าที่เดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียวนั่นน่าขนลุกจนเธอรู้สึกกลัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD