คุณเชื่อเรื่องโชคชะตาไหม? ครั้งหนึ่งเธอเคยเชื่อว่าโชคชะตาจะเหวี่ยงคนดีมาพบกัน แต่สำหรับเธอกับเขามันไม่ใช่ เรื่องของพวกเขาเกิดจากความเห็นแก่ตัวของเขา และความโลภของเธอที่ทำให้ทั้งคู่ได้พบกัน
“อื้อ...ท่านประธาน...ปะ...ปล่อยก่อนค่ะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” ร่างบอบบางหายใจหอบสะท้านอยู่ที่พื้นพรมด้านหลังโต๊ะทำงาน หลังจากที่เธอช่วยพี่เจนเลขาท่านประธานอยู่ทำงานจนเสร็จในตอนเย็นวันศุกร์ที่พนักงานทั้งหลายต่างรีบกลับเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
“จะมีใครเห็นอีกเล่า เธอไม่รู้เหรอพนักงานบริษัทฉันเลิกงานตั้งแต่บ่ายสามโมงครึ่งเพื่อกลับบ้านกันวันนี้”
ภัสสกรณ์ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อล่ำ ทั้งซิกแพคที่เรียงตัวเป็นมัดกล้ามสวยได้รูป ทำให้เฟื่องลดาตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาฝึกงานในบริษัทแห่งนี้
เขามองเธอด้วยสายตาโลมเลียจนเธอเองก็สังเกตได้ เพราะทั้งแววตาและใบหน้านั้น ล้วนบ่งบอกว่าอยากครอบครองเธอ
เฟื่องลดาเองก็ไม่เคยพบผู้ชายที่ต้องตาต้องใจเท่าเขามาก่อน จนเมื่อได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนที่เธออยู่ทำงานจนดึกและกำลังจะกลับบ้านเหมือนเช่นวันนี้
แต่การคบกันของทั้งคู่นั้นไม่อาจจะเปิดเผยได้ พวกเขาจึงตัดสินใจคบกันแบบ friends with benefits : ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องมีกฎกติกาและข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายอย่างชัดเจน โดยเธอและเขาเลือกอยู่ในฐานะเพื่อนนอนเท่านั้น ไม่อาจจะทำตัวสนิทสนมเมื่ออยู่ภายนอกได้ รวมทั้งไม่หึงหวงเมื่ออีกฝ่ายมีคนรักหรือไปกับผู้อื่น
ความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนจะวินวินกันทั้งสองฝ่าย แต่มันไม่ใช่เลยหากคนใดคนหนึ่งเกิดหลงรักคู่นอนของตัวเองอย่างเช่นที่เฟื่องลดากำลังฝืนใจไม่ให้รักเขา เพราะหัวใจของเธอแข็งแกร่งไม่พอ
ใช่เธอหลงรักเขา!
หลงในความสุภาพ ความสะอาด ความหล่อ ความสมบูรณ์แบบ เขาเป็นผู้ชายในอุดมคติของสาวๆ แทบทุกคน ไม่ใช่เพียงเธอคนเดียวที่อยากได้เขา
สำหรับภัสสกรณ์ ก่อนมาเจอเขาเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ เขาคือคนแรกของเธอ ทำให้เขามีความสัมพันธ์นี้กับเธอได้นาน และยิ่งเธออยู่ใกล้ เขาก็ยิ่งอยากได้มากขึ้นไปอีก เขาคิดว่าเดี๋ยววันหนึ่งตัวเองก็เบื่อ แต่จนป่านนี้เขาก็ไม่รู้สึกว่าเธอน่าเบื่อเลยสักนิดเดียว
เธอน่าหลงใหล และตอบสนองความต้องการของเขาได้ทุกอย่าง เขามีความสุขที่ได้มีเซ็กซ์กับเธอ เขาสามารถถึงจุดสุดยอดอย่างไม่จำกัดจำนวนเวลาและสถานที่ ไม่ว่าที่ใดเขาก็สามารถทำกับเธอได้
“เลิกกระโปรงขึ้น!!” เขาสั่งเสียงเครียดทำตัวเป็นเจ้านายแม้กระทั่งตอนอยู่บนตัวเธอ เสียงรูดซิปเพื่อปลดปล่อยตัวตนสร้างความอึดอัดเมื่อเจอหน้าเธอเพราะเธอชอบใส่ชุดนักศึกษารัดติ้ว เนินนมทะลักมาล่อตาล่อใจจนเขาอยากล่อเธอวันละหลายครั้ง
เฟื่องลดาต้องทำเรื่องน่าอายต่อหน้าเขาทุกครั้ง เธอนั่งชันเข่าขึ้น เท้าแขนสองข้างไปด้านหลัง ทำให้เขาเห็นจุดที่อ่อนโยนที่สุดของร่างกายเธอ
เขาเอามือล้วงเข้าไปในกระโปรงที่เปิดออก กระชากกางเกงในลูกไม้สีดำตัวจิ๋วทิ้งไปจนพ้นทาง
“บอกแล้วใช่ไหม ถ้าใส่ชั้นในสีดำจะโดนอะไร” เขาเห็นเธอใส่ชั้นในสีดำลูกไม้ ก็จินตนาการถึงเบื้องล่างได้ทันทีว่าเป็นอย่างไร ยามที่เขาเอามือสัมผัสเบาๆ ความฉ่ำแฉะก็เกิดขึ้นทันที โดยไม่ต้องให้เล้าโลมกันนาน
เธอช่างร่านกับเขาดีจริงๆ
“ก็...ไม่มีชุดใส่แล้วนี่คะ” เขาจับกระชากไปไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว แล้วเธอจะเอาเวลาที่ไหนไปซื้อ เสาร์อาทิตย์ก็นัดเธอไปเจอที่คอนโดลับของพวกเขา เพื่อให้เขากลืนกินเธอทั้งวัน เมื่อสองฝ่ายพอใจก็แยกทางกัน
“อย่างนั้นก็ทำให้ฉันพอใจ ฉันถึงจะให้อภัย” เขาหาเรื่องเอากับเธอได้ทุกเมื่อ เซ็กซ์ของเธอช่วยบำบัดจิตใจให้เขาสงบและสบายตัวที่สุด
ชายหนุ่มจับส่วนนั้นยัดเข้าหาส่วนที่อ่อนไหวในร่างกายของเธอแล้วเคลื่อนตัวไปมาอย่างหนักหน่วง เวลาร่วมรักกับเธอ เขาไม่เคยผ่อนแรงเลยสักนิด
“เบาหน่อยค่ะท่านประธาน”
“บอกกี่ครั้งเวลาเมกเลิฟให้เรียกว่าอะไร” เขารู้สึกหัวเสียที่เธอดื้อดึงนัก
จะให้เรียกได้ยังไงเล่า คำว่า ‘ผัว’ เค้าไว้เรียกคนที่แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ หากเรียกแบบนี้ทุกวันเดี๋ยวเธอก็คิดว่าเขาเป็นผัวเธอจริงๆ เสียนี่
“ว่าไง...” เขาแกล้งโยกเข้าหาตัวเธอแรงๆ เพื่อให้เธอทำตามอย่างที่ตัวเองอยากให้ทำ
“ผะ...ผัว...ผัวจ๋า...เบาหน่อยค่ะ” เธอเปล่งเสียงออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น แต่มันไม่ได้ทำให้เขาลดความเร็วลงเลยกลับยิ่งแรงกว่าเก่า
เขามันเจ้าเล่ห์ เห็นแก่ได้ให้เธอเรียกแบบนั้นเพื่อปลุกอารมณ์ชัดๆ แม้จะไม่ชอบใจ แต่เธอก็รู้สึกดีเวลาเขาร่วมรักกับเธอ เธอมีความสุขที่เขาได้ปลดปล่อยเข้ามาในกาย
แรงเสียดสีที่เข้าหาช่องทางรักอันชื้นแฉะด้วยน้ำหวานของเธอทำให้เกิดเสียงดังลั่นห้อง ดีที่ยามนี้ไม่มีใครอยู่ชั้นบนสุด เขาถึงได้กล้าเอาเธอแรงขนาดนี้
“อ๊ะ...อื้ม...” เสียงครางหวานกระเส่าเรียกชายหนุ่มจนเขามอบตัวตนเข้าลึกสุดลำแล้วก็ปลดปล่อยน้ำออกมาจนเต็มช่องทางรัก
เสียงชายหนุ่มครางอย่างสุดเสียง เมื่อได้ปลดปล่อย ความอัดแน่นในกาย แล้วเขาก็ชักมันออกจากกายของเธอโดยฉับพลัน ทำในหญิงสาวรู้สึกโหวงเหวงนัก
ไม่มีสักครั้งเลยหรือที่เขาจะรู้สึกมีความสุขและดื่มด่ำกับร่างกายเธอ ทุกครั้งที่เสร็จเขาก็รีบถอนออกจากตัวเธอเพื่อไปทำความสะอาด
เธอมองสภาพตัวเองก็แสนจะน่าเศร้า คิดว่าวันหนึ่งเขาจะคิดกับเธอมากกว่าคู่นอน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้สินะ
ตลอดหกเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ฝึกงานอยู่บริษัทของเขา ไม่มีวันไหนที่เธอไม่มองเขาเลย แต่เขาเลือกจะเห็นเธออยู่ในสายตาเวลาที่เขาต้องการ
เธอเคยน้อยใจร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนฝึกงานเสร็จ แล้วเธอจะจากเขาไป
หลังจากหญิงสาวทำความสะอาดตัวเองเสร็จและแต่งตัวในห้องน้ำของเขา เธอก็เดินออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ ก่อนออกไป เธอมองเขาอีกครั้งพลางถอนหายใจและตัดใจเดินลงไปด้านล่าง
เธอเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆ ตามฟุตพาท เพราะไม่อยากเร่งรีบ ต้องการใช้ความคิดและกำลังตัดสินใจบางเรื่อง
แต่ชายหนุ่มเมื่อเคลียร์งานเสร็จกลับไม่พบหญิงสาวที่เพิ่งร่วมรักกัน เขาโทรหาแล้ว แต่ไม่ติดจึงไม่ได้ใส่ใจ
“จะรีบไปไหนของเธอยายเฟื่อง!”