“ไลน์ของใคร”

1428 Words
รถของพี่แทนไทแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคณะ ฉันปลดเข็มขัดนิรภัยพลางถอนหายใจแผ่ว ๆ ความเงียบในรถตลอดทางเหมือนยังทิ้งน้ำหนักบางอย่างไว้ระหว่างเรา “ถึงแล้ว” พี่แทนไทเอ่ยเรียบ ๆ แต่แววตาที่มองฉันกลับไม่ได้เรียบง่ายเหมือนน้ำเสียงนั้นเลย “ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง” ฉันรีบคว้ากระเป๋าแล้วเปิดประตูลงไป กลิ่นอากาศเช้าในมหาลัยปะทะใบหน้าทันที คลายความอึดอัดที่ค้างคามาตลอดทางได้เล็กน้อย แต่ก่อนที่ฉันจะปิดประตู พี่แทนไทก็เอ่ยขึ้นเบา ๆ “นุ่น… พี่จริงจังนะ” ฉันชะงักไปนิด หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็แสร้งยิ้มรับแทนคำตอบ ก่อนจะปิดประตูแล้วหันเดินเข้าไปในตึกเรียน พอฉันมาถึงห้องเรียนแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะประจำ ก็เจอกับใบหน้าบูดเบี้ยวของแจมที่ดูแล้วน่าจะอารมณ์ไม่ค่อยจอยนัก “เป็นไรวะ หน้ามึงแย่มาก” ฉันถามพลางนั่งลงเก้าอี้ใกล้ ๆ แจมถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งจัด “เซ็งดิ… พี่แทนแม่งออกจากบ้านแต่เช้าก็ไม่ยอมบอกกู กูกะจะติดรถไปเรียนด้วยสักหน่อย แล้วมึงรู้มั้ย… พี่แทนทิ้งกู กูเลยต้องโหนรถเมย์มาเรียนเองเนี่ย! อารมณ์เสียชิบหาย ผมกูเสียทรงหมด!” ฉันยกมือขึ้นปัดผมตัวเองเบา ๆ ก่อนหัวเราะในลำคอ “ฮ่า ๆ คงมีธุระละมั้งง” ฉันตอบกลับไป ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าพี่แทนไทออกบ้านแต่เช้าเพื่อมารับฉันมาเรียน แจมขมวดคิ้วแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสบ ๆ “ธุระอะไร ไปรับหญิงละสิ! ผู้หญิงไม่เคยซ้ำ มึงระวังตัวไว้เถอะ ถ้าพี่แทนไทมาจีบมึง มึงต้องปฏิเสธไปเลยนะ ห้ามปิดบังกูด้วย” ฉันรีบทำท่าครุ่นคิด พลางผายมือ “เออ ๆ รู้แล้ว ย้ำเป็นแม่กูเลย ไม่เบื่อหรือไง” แจมย่นคิ้วมองฉันก่อนยิ้มแหย ๆ “ก็พี่แทนไทมันชอบแอบมองมึงบ่อย ๆ กูละกลัวใจมึงชิบหาย” ฉันกัดริมฝีปากนิด ๆ รู้สึกแก้มร้อนขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็อดแอบยิ้มไม่ได้ “อืม… ใครแอบมองก็ช่างเถอะ” แจมทำหน้าเหมือนจะปะทะ แต่ก็ยกมือขึ้นยอมแพ้ “เฮ้อ… ก็ได้ ๆ แต่มึงก็ระวังตัวหน่อยละกัน” หลังจากที่แจมพูดจบ เสียงแสบ ๆ ของแบมแบมและน้ำหวานก็ดังขึ้นมา “เป็นไรวะแจม หน้ามึงเป็นส้นตีนเลย!” แบมแบมแซวเสียงดัง ฉันถึงกับหลุดขำออกมา ไม่รู้ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงแบบนี้เวลาเพื่อน ๆ มายุ่งเรื่องแจม “อีห่าแบม! ปากมึงนี่ส้นตีนกว่าหน้ากูอีกค่ะ” แจมสวนกลับทันที พร้อมทำหน้าเหมือนจะระเบิด แบมแบมหัวเราะฮ่า ๆ พลางยกมือทำท่าขอโทษ “ฮ่า ๆ โทษทีมึง” “เมื่อกี้เราเจอพี่แทนไทด้วย ไม่แน่ใจว่ามากับใคร เห็นเป็นผู้หญิง” น้ำหวานเอ่ยขึ้นเสียงกระซิบ แต่ก็ชัดพอให้ฉันได้ยิน “เห็นที่ไหน!” ฉันถามออกไปด้วยความตกใจ ทั้ง ๆ ที่ใจเต้นแรงไม่ใช่น้อย “อีห่า กูตกใจหมด จะเสียงดังเพื่อ?” แบมแบมสวนกลับทันทีด้วยท่าทางหัวเสียแต่ก็แอบขำ “ก็ที่โรงจอดรถอ่ะ แต่กูไม่เห็นหน้าผู้หญิง” น้ำหวานตอบพลางก้มหน้ามองโต๊ะ “นั้นไง กูว่าละ แม่งไปรับผู้หญิงจริง ๆ ด้วย! ที่กูนะ… ปล่อยกูมาเรียนเองตลอด รถกูก็พัง จะพึ่งพี่ชายตัวเองก็ไม่ได้ กูละเซ็งมากก” แจมบ่นเสียงดัง สีหน้าบูดบึ้งจนเพื่อน ๆ ต้องหันมามอง ฉันยกยิ้มมุมปาก พลางแอบขำกับความแสบของเพื่อน “อ่ออ… ที่หน้ามึงเป็นส้นตีนเพราะเรื่องนี้หรอ” “เออดิ!” แจมตอบเสียงดัง พลางทำหน้าเหมือนอยากระเบิด แต่ก็แอบยิ้มในที เพื่อน ๆ รอบโต๊ะหัวเราะกันครื้นเครง เสียงหัวเราะกระจายไปทั่วห้องเรียน ทำให้บรรยากาศกลับมาสดใสขึ้นทันที ฉันนั่งมองเพื่อน ๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจ ถึงแม้เช้านี้จะเกิดเรื่องวุ่น ๆ กับพี่แทนไทมา แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าการอยู่กับแก๊งเพื่อนนี่แหละช่วยให้หัวใจเบาและสดชื่นขึ้น แต่ในใจลึก ๆ ฉันก็อดคิดไม่ได้… พี่แทนไทออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อมารับฉันมาเรียนแบบนั้น ฉันกัดริมฝีปากเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ จนกระทั่งอาจารย์เข้าสอน ตอนนี้ก็ผ่านมาจะสองชั่วโมงแล้ว แต่อาจารย์ก็ยังไม่หยุดสอน แถมสั่งงานเยอะเหมือนโกรธเกลียดกันมานาน “เห้ออ… คิดถึงอีเมย์ว่ะ ขาดตัวเก่งไป กูทำงานไม่เป็นเลย” แจมบ่นออกมาอย่างเซ็ง “เป็นไงละ! เอาแต่พึ่งมัน เวลามันไม่อยู่ มึงก็ทำอะไรไม่เป็นเลย เดี๋ยวกูจะฟ้องพี่กองทัพแล้วนะ” แบมแบมสวนกลับพร้อมทำหน้าเอาเรื่อง “ปล่อยให้มันไปฮันนีมูนสบายใจของมันเถอะ” ฉันพูดเสียงเรียบ พลางยิ้มมุมปาก “อิจฉาเนอะ มีแฟนดี แถมหล่อ แล้วก็รวยอีกอ่ะ” น้ำหวานพูดเสียงกระซิบ แต่ก็ชัดพอให้ทุกคนได้ยิน “ของมึงก็ไม่ได้แย่ไปกว่าคนอื่นเลยนะคะเพื่อนหวาน” แบมแบมตอบเสียงหัวเราะ “มึงก็ด้วยเช่นกันค่ะ” แจมพูด พร้อมหันไปมองหน้าแบมแบมและน้ำหวาน แววตาเต็มไปด้วยความแซวและขี้เล่น ฉันนั่งฟังบทสนทนาพวกเขา แล้วยิ้มในใจ ถึงเรื่องวุ่น ๆ เช้านี้จะยังคงวนเวียนอยู่ในหัว แต่เพื่อน ๆ ก็ช่วยให้หัวใจฉันเบาลง และลืมความเขินเล็ก ๆ จากพี่แทนไทไปได้ชั่วขณะ หลังจากอาจารย์ปล่อย ต้องบอกก่อนว่าวันนี้อาจารย์ปล่อยก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง แต่กลับให้การบ้านเยอะสุด ๆ ฉันหันไปมองรอบ ๆ ห้อง เห็นเพื่อน ๆ หลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอไปกินข้าว ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเล่นบ้าง แต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับข้อความไลน์ที่ส่งเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้… แปลกตรงที่ข้อความนั้นเป็นไลน์จากใครก็ไม่รู้ที่ฉันไม่รู้จัก แถมรูปโปรไฟล์ก็ยังเป็นรูปท้องฟ้า ทำให้ฉันเลื่อนขึ้นลงอ่านข้อความด้วยความสงสัย ใจเต้นนิด ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าใครส่งมา ฉันเลื่อนอ่านข้อความบนหน้าจออีกครั้ง สายตาจดจ่อกับตัวอักษรเล็ก ๆ บนหน้าจอ ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะข้อความนั้นมาจากใครก็ไม่รู้ รูปโปรไฟล์เป็นเพียงภาพท้องฟ้าสีฟ้าเรียบ ๆ ไม่มีชื่อ ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย “ใช่ไลน์นุ่นไหม” ข้อความเด้งขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย นิ้วฉันเกือบจะสั่น แต่สุดท้ายก็รวบรวมความกล้า พิมพ์ตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง “ใช่ค่ะ… นี่ใครคะ” ฉันกดส่งข้อความไปแล้วมองหน้าจอรอ หัวใจเต้นแรงผิดปกติ รู้สึกเหมือนมีความตึงเครียดเล็ก ๆ อยู่รอบตัว แม้เพื่อน ๆ จะพากันคุยเล่นกันเบา ๆ ในห้องเรียน แต่สำหรับฉัน ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนเงียบไปหมด มีเพียงแสงหน้าจอโทรศัพท์ที่สะท้อนบนหน้าของฉัน ฉันกัดริมฝีปากเล็กน้อย ความอยากรู้กับความกังวลผสมกันอย่างประหลาด… ใครกันนะที่จะส่งข้อความมาให้ฉันแบบนี้ ทำไมไม่ระบุชื่อให้ชัดเจน แล้วทำไมเลือกใช้รูปโปรไฟล์เพียงภาพท้องฟ้าเรียบ ๆ ฉันมองหน้าจอรอข้อความตอบกลับ หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่ มือกุมโทรศัพท์แน่น รู้สึกเหมือนเวลาชะงักไปชั่วขณะ ไม่นาน ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมา “สวัสดีครับ… พี่แม็กนะ” ฉันเบิกตากว้างเล็กน้อย ใจเต้นแรงทันที แต่ก็พยายามตั้งสติ “อ่อ… พี่แม็กนี่เอง ไลน์พี่หรอคะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปด้วยความระมัดระวัง นิ้วสั่นเล็กน้อยขณะที่กดส่ง ความรู้สึกประหลาดปนตื่นเต้นวนเวียนอยู่ในใจ ฉันเงยหน้ามองรอบ ๆ ห้องเรียน แอบกลัวว่าเพื่อน ๆ จะเห็นความตื่นเต้นนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้าจอรอคำตอบต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD