ระหว่างทางกลับโรงเรียนกรวิชเห็นของขวัญเดินเล่นคนเดียวอยู่ข้างลำธาร เขาก้มมองนาฬิกาข้อมือเห็นว่าห้าโมงกว่าแล้วและตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดจึงเป็นห่วงเธอแต่ไม่กล้าเข้าไปทัก ทำได้เพียงคืนมองเธออยู่ห่างๆ
"ยัยนี่คิดอะไรอยู่นะ ค่ำมืดขนาดนี้มาเดินเล่นคนเดียว ไม่รู้จักกลัวบ้างรึไง"
กรวิชยืนมองของขวัญอยู่อย่างนั้นจนเธอเดินกลับโรงเรียนจึงเดินตามเธอไป ไอ้กรนะไอ้กรทำไมต้องเป็นห่วงยัยนี่ด้วย
“สวัสดีทุกคนอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ ผมขอเป็นตัวแทนชาวบ้านที่นี่กล่าวต้อนรับทุกท่านที่มีจิตอาสามาช่วยเหลือพวกเราใจครั้งนี้ด้วยใจจริงครับ พวกเราขอต้อนรับทุกคนด้วยอาหารมื้อใหญ่มื้อนี้นะครับ แม้จะไม่หรูหราแต่พวกเราตั้งใจทำด้วยใจเลย ไม่พูดมากแล้วเชิญทุกท่านทานให้อร่อยได้เลยครับ”
บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับผู้มาเยือนในค่ำคืนนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น แม้จะเรียบง่ายแต่กลับทำให้หัวใจของทั้งผู้ให้และผู้รับมีความสุข
หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จแล้วกรวิชจึงถือโอกาสช่วงที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาจึงถือโอกาสประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อนจะเริ่มลุยงานกันในวันพรุ่งนี้ การประชุมผ่านพ้นไปได้ด้วยดีชาวบ้านต่างให้ความร่วมมือกับทีมของพวกเขาเป็นอย่างดี
ตลอดการประชุมของขวัญแอบมองและชื่นชมกรวิชอยู่ในใจจนเผลอยิ้มออกมาหลายครั้ง ผู้ชายที่ยิ่งโตยิ่งหล่อ บุคลิกภาพดี ทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว เวลาพูดน่าเชื่อถือและน่าฟังมากทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่หลงใหลไปตามๆกัน
คนอะไรยิ่งแก่ยิ่งดูดี ทำไมนายถึงได้รบกวนจิตใจฉันจังนะ
"คุณหมอของขวัญมีอะไรจะเพิ่มเติมมั้ยครับ คุณหมอของขวัญ"กรวิชเรียกของขวัญซ้ำๆเพราะเธอนั่งนิ่งไม่ยอมตอบ
"คะ"ของขวัญสะดุ้งตื่นจากภวังค์
"ไม่มีค่ะ ขอให้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ เรามาช่วยดูแลคนอื่นอย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ"
"แค่มีคุณหมอแสนสวยอยู่ด้วยพวกเราก็ไม่ห่วงอะไรแล้วครับ"หนึ่งในทีมแซวของขวัญก่อนที่คนอื่นๆจะแซวบ้าง แต่กลับมีใครคนหนึ่งทำหน้าบึ้งไม่พอใจพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ข้างใน
"ถ้าทุกคนไม่มีอะไรแล้วคืนนี้แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้เลยครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ"กรวิชเลิกประชุมปล่อยให้ทุกคนได้พักผ่อน
วันถัดๆมาหลังจากแบ่งงานเรียบร้อยแล้วทุกคนแยกย้ายไปปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตนเอง แม้ถนนหนทางที่เดินทางไปแต่ละที่จะลำบากแต่ทุกคนมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือชาวบ้าน ถึงจะพบเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคใดๆก็สู้ไม่ถอยจนเวลาล่วงเลยมาถึงสองอาทิตย์แล้วภารกิจที่ตั้งเป้าไว้ดำเนินมาเกือบเสร็จเรียบร้อย กรวิชเห็นว่าทุกคนเหนื่อยล้ามาหลายวันจึงให้ทุกคนได้หยุดพักผ่อน
ช่วงบ่ายหลังจากนอนพักผ่อนกันเต็มอิ่มบรรดาหนุ่มๆสาวๆขอให้ลุงกำนันพาไปเที่ยวน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เพราะมีชาวบ้านบอกว่าน้ำตกแห่งนี้สวยมาก ของขวัญตามเพื่อนไปเที่ยวด้วย ส่วนกรวิชเดิมทีเขาอยากอยู่ที่พักสรุปงานต่อแต่โดนเพื่อนๆลากให้ไปด้วยจึงปฏิเสธไม่ได้ นอกเหนือเวลางานเวลาอยู่กับเพื่อนๆกรวิชจะอัธยาศัยดีกับทุกคนมาก จนสาวๆแอบปลื้มกันเป็นแถว จะมีก็แต่เวลาที่คุยกับของขวัญเท่านั้นที่เขาวางมาดเข้มทำหน้าบึ้งตึงไม่คุยเล่นด้วย
ในขณะที่ทุกคนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานกรวิชนั่งรอบนฝั่งกับกำนัน สายตาของเขาจับจ้องไปที่อดีตคนรักอย่างไม่วางตา เวลาเธอยิ้มและหัวเราะพลอยทำให้เขาอมยิ้มตามไปด้วย
“มองอะไรขนาดนั้นล่ะพ่อหนุ่ม ชอบก็จีบเขาไปเลยมัวนั่งมองอย่างนี้คนอื่นเอาไปกินก่อนพอดี”กำนันมองตามสายตาของกรวิชก็พอจะเดาได้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่อคุณหมอคนสวยน่าจะไม่ธรรมดา
“จีบใครครับ ผมแค่มองเรื่อยเปื่อย”กรวิชรีบปฏิเสธ
“ลุงเห็นคุณมองคุณหมอคนสวยไม่วางตา คนสวยและเก่งแบบนี้ถ้าไม่รีบจีบระวังจะเสียใจทีหลังนะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นครับลุง ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”
“เอ้อ ลุงอาบน้ำร้อนมาก่อนเรื่องพวกนี้ลุงรู้ดี หนุ่มสาวสมัยนี้มันยังไงกันนะ ชอบเค้าก็ไม่ยอมรับ”
กรวิชไม่พูดต่อแต่นั่งมองของขวัญนิ่งภายในใจสับสนไปหมดเพราะสิ่งที่ลุงกำนันพูดมาถูกต้องทั้งหมด แต่เพราะทางเดินชีวิตของทั้งคู่เหมือนคู่ขนานดูอย่างไรก็ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ อีกอย่างตอนนี้เธออาจจะมีคนรักแล้วก็เป็นได้คนที่พร้อมทุกอย่างอย่างเธอคงมีหนุ่มๆมาจีบมากมายหรือเธออาจจะยังคบกับเขาคนนั้นอยู่ก็ได้
“เรื่องบางเรื่องเราจะทำตามใจตัวเองทุกอย่างไม่ได้ครับ”อยู่ๆกรวิชก็พูดขึ้นมาหลังจากนั่งนิ่งอยู่นาน
“เฮ้อ เรื่องของหนุ่มๆสาวๆเข้าใจยากจริงๆ ไปนู่นกำลังขึ้นมากันแล้วไปรับสาวๆขึ้นฝั่ง”
กรวิชเดินไปรอรับทุกคนขึ้นฝั่งเพราะทางขึ้นค่อนข้างชันและลื่นจึงต้องอาศัยคนบนฝั่งดึงขึ้นทีละคน เมื่อทุกคนขึ้นฝั่งหมดแล้วเหลือของขวัญเป็นคนสุดท้ายทั้งคู่ยืนสบตากันนิ่ง
“ขวัญขึ้นเองก็ได้ค่ะ”ของขวัญเห็นท่าทางที่ดูอึดอัดของเขาเอ่ยขึ้นเพราะไม่อยากทำให้เขาลำบากใจ
“ขึ้นมา”กรวิชยื่นมือไปรับเธอ ของขวัญจึงยื่นมือไปจับเขา
เพราะคนก่อนหน้านั้นตัวเปียกจึงทำให้หยดลงพื้นหญ้าบริเวณนั้นจนเปียกทำให้ทั้งคู่ลื่นขณะที่กรวิชดึงของขวัญขึ้นมาบนฝั่งพอดี จนทั้งสองคนล้มลงของขวัญตกใจหลับตาปี๋นอนทับอยู่บนตัวเขา ส่วนกรวิชกอดเธอไว้แน่นเพราะกลัวเธอจะได้รับบาดเจ็บ
“ขวัญเป็นอะไรมั้ย”กรวิชลืมตัวเผลอเรียกชื่อเธอและถามด้วยความเป็นห่วง
คำถามเพียงสั้นๆทำให้ของขวัญหัวใจเต้นแรง นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ยินเสียงเรียกชื่อที่อบอุ่นแบบนี้
“ขวัญเป็นอะไรมั้ย”
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ คุณล่ะคะเจ็บตรงไหนมั้ย”ของขวัญได้สติรีบลุกขึ้นจากตัวเขาทันที
“ผมไม่เป็นอะไร แค่คุณไม่เจ็บตัวก็ดีแล้ว”
“ขอบคุณนะคะ”
“มันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องดูแลทุกคนอยู่แล้ว”
คำพูดของกรวิชเพียงสั้นๆกลับทำให้ของขวัญรู้สึกใจหวิวๆ เหมือนเขากำลังบอกเธอว่าต้องดูแลทุกคนเท่ากันหมดเธอไม่ได้มีความพิเศษไปกว่าใคร
หลังกลับจากน้ำตกของขวัญสังเกตเห็นกรวิชจับไหล่อยู่บ่อยครั้งจึงนึกเป็นห่วงกลัวจะโดนแผลเก่าของเขา หลังทานมื้อค่ำเสร็จเธอเห็นเขาเดินไปนั่งดูดาวอยู่คนเดียวจึงหยิบกล่องปฐมพยาบาลเดินเข้าไปหาเขาเพื่อตรวจเช็กอาการว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ขอขวัญดูไหล่คุณหน่อยได้มั้ยคะ ขวัญเห็นคุณจับไหล่บ่อยๆหลังจากล้มที่น้ำตก”
“ผมไม่เป็นไร แค่กระแทกกับพื้นเลยเจ็บนิดหน่อย ไม่ได้สำคัญอะไร”
“คุณไม่ใช่หมอนั่งนิ่งๆหันหลังมาค่ะขอขวัญดูหน่อย”
“ผมบอกว่าไม่เป็นอะไรก็คือไม่เป็นอะไร คุณจะเซ้าซี้ทำไม กลับไปพักได้แล้วผมอยากอยู่คนเดียว”
คำพูดของเขาทำเธอเจ็บปวดหัวใจมากแต่คนอย่างคุณหมอของขวัญมีหรือจะยอมง่ายๆ เมื่อเธอตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ