ของขวัญกลับเข้าห้องมาด้วยความรู้สึกสับสน ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าศรัณคิดอย่างไรกับเธอแต่เพราะที่ผ่านมาเธอคิดกับเขาแค่พี่ชาย เธอคิดมาตลอดว่าผู้ชายคนเดียวที่อยู่ภายในใจคือกรวิช แต่ตอนนี้เวลานี้เธอเองก็เริ่มไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน
หลังจากวันนั้นของขวัญพยายามเลี่ยงที่จะเจอศรัณเพราะยังสับสนในความรู้สึกของตัวเอง อยากอยู่เงียบๆเพื่อทบทวนหัวใจตัวเองดีก่อน
"ขวัญเรากลับมาแล้วนะ เย็นนี้เดี๋ยวไปหานะ"กรวิชโทรหาของขวัญทันทีที่กลับมาถึง
"อืม"เสียงตอบรับสั้นๆของเธอทำให้กรวิชรู้สึกแปลกใจ เพราะน้ำเสียงไม่มีความตื่นเต้น ดีใจเหมือนที่เขากลับมาทุกครั้ง แต่เขาก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจจะเป็นเพราะเธอแค่เหนื่อย
"เซอร์ไพรส์ คิดถึงจังเลย"กรวิชยื่นดอกไม้ช่อโต มืออีกข้างหอบหิ้วของโปรดของของขวัญเต็มมือ
ของขวัญรับดอกไม้จากมือเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยและเปิดประตูให้เขาเข้าห้อง กรวิชแปลกใจกับท่าทางของเธอในวันนี้ที่แปลกไปจากเดิม เพราะปกติเธอจะโผเข้ากอดเขาด้วยความดีใจและบอกคิดถึงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ขวัญเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่ยิ้มเลย ไม่คิดถึงเราหรอ"
"ไม่ได้เป็นอะไร เราแค่เหนื่อยแล้วก็เครียดเรื่องเรียนนิดหน่อย"ของขวัญตอบปัดเขา
มื้ออาหารค่ำวันนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัด กรวิชพยายามชวนของขวัญคุยและให้กำลังใจเธอเรื่องการเรียน ไม่ใช่ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เธอเรียนหนักและต้องการกำลังใจที่สุด เรื่องที่เธองอนที่เขาไม่อยู่ในช่วงที่เธอต้องการใครสักคนอยู่ข้างกายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เพราะครั้งนี้เขาจำเป็นต้องไปค่ายจริงๆ เพราะต้องการพิสูจน์ให้แน่ใจว่าหลังจากเรียนจบแล้วเขาจะตัดสินใจเรียนต่อด้านป่าไม้ตามใจตัวเองหรือต่อยอดธุรกิจของครอบครัว เขาอยากถามตัวเองให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขากำลังจะตัดสินใจจะไม่ทำให้ตัวเองเสียใจภายหลัง
คืนนั้นไม่ว่าเขาจะถามอะไรเธอก็จะตอบกลับมาเพียงสั้นๆซึ่งไม่ใช่นิสัยของของขวัญคนที่เขาเคยรู้จักเลย
"ขวัญงอนกรอยู่ใช่มั้ย หายงอนนะครับ กรขอโทษที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้เลย"กรวิชใช้เสียงเล็กเสียงน้อยและส่งสายตาวิบวับง้อแฟนสาว
"ขวัญไม่ได้งอน ดึกแล้วกรกลับก่อนนะขวัญจะอ่านหนังสือต่อ"
เมื่อได้ยินแฟนสาวบอกให้กลับกรวิชยิ่งรู้สึกถึงความไม่ปกติของเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่เดินออกไปเงียบๆ
ทันทีที่ประตูห้องปิดลงความไม่สบายใจฉายชัดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของกรวิช ใบหน้าเมินเฉย แววตาว่างเปล่าจากเธอเขาไม่เคยเห็นอาการแบบนี้มาก่อน แม้จะโกรธหรืองอนกันขนาดไหนเธอก็ไม่เคยทำตัวเมินเฉยแบบนี้ ตรงกันข้ามเธอต้องโวยวายและต่อว่าเขายกใหญ่ไปแล้ว
"คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง มึงน่ะแค่คิดมากไปเองไอ้กร"กรวิชบ่นพึมพำกับตัวเอง
ผ่านเวลามาหลายวันแล้วที่กรวิชตามง้อของขวัญจนถึงตอนนี้แฟนสาวสุดที่รักก็ยังไม่ค่อยพูดกับเขา ไม่ชวนไปนั่นมานี่เหมือนเมื่อก่อน ไม่ว่าเขาจะชวนไปไหน ทำอะไรก็โดนปฏิเสธทุกครั้งไป ยิ่งทำให้กรวิชไม่สบายใจไปใหญ่
"ไงไอ้กรช่วงนี้มีเวลามาอยู่กับเพื่อนบ่อยนะมึง ไม่ไปหาแฟนสาวแสนสวยรึไง"หนึ่งในสมาชิกของชมรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและป่าไม้ถามกรวิชเมื่อเห็นเขาเปิดประตูเข้าห้องชมรมมา
กรวิชไม่ตอบเพื่อนได้แต่เดินเงียบมานั่งข้างๆเพื่อน สีหน้าท่าทางของกรวิชตอนนี้พลอยทำให้เพื่อนๆเป็นห่วงไปด้วย เพราะปกติเขาจะเป็นคนอารมณ์ดีทักทายเพื่อนฝูงก่อนตลอด แต่พักหลังมานี้กลับเงียบกว่าปกติ
"เอ่อ กูไม่รู้ว่าควรพูดไหมคือว่า...เอ่อ..."
"เอ่ออะไรของมึงวะ มีอะไรก็รีบพูดมา"
เพื่อนอีกคนทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด จนคนอื่นๆต้องบอกให้รีบพูด
"กูก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ยนะ คือช่วงที่เราไปออกค่ายมีคนเห็นแฟนไอ้กรไปไหนมาไหนกับนักศึกษาแพทย์รุ่นพี่ที่ชื่อศรัณ มีวันหนึ่งแฟนกูไปเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อนเห็นทั้งสองคนไปเที่ยวด้วยกันด้วย"
จบประโยคเพื่อนทุกคนต่างนั่งเงียบมองกรวิชด้วยความเป็นห่วง ส่วนตัวเขาเมื่อได้ฟังสิ่งที่เพื่อนพึ่งบอกเมื่อครู่ถึงกับไปไม่เป็น ตอนนี้สมองของเขาไม่ประมวลผลใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่เขากำลังกลัวในที่สุดก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ
"ไอ้กร ไอ้กร มึงโอเคหรือเปล่าวะ"เพื่อนๆถามเขาเมื่อเห็นกรวิชนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
"กูไม่เป็นไร กูโอเค"
"โอเคบ้าอะไรของมึงวะ หน้ามึงตอนนี้ยิ่งกว่าผีตายซากอีก ไม่ไหวก็บอกไม่ไหว เห็นมึงเป็นแบบนี้พวกกูก็ไม่สบายใจ"
"ไม่โอเคแล้วกูทำอะไรได้วะ ตอนนี้แค่หน้ากูเค้ายังไม่อยากจะมองเลย"
"มึงออกจากชมรมไปตามง้อเธอก่อนดีกว่ามั้ย มานั่งเสียใจอยู่ตรงนี้เธอจะรู้มั้ย"
"มึงคิดว่ากูไม่ทำหรอ กูชวนไปไหนก็บอกแต่ไม่ว่างต้องอ่านหนังสือ กูไปหาก็ไม่อยากต้อนรับ"
"แล้วมึงจะทำยังไงต่อวะ"
"กูก็ไม่รู้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ที่ผ่านมากูก็ละเลยเธอจริงๆ ถ้าจะโดนทิ้งก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ"
อีกหลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากสอบเสร็จ กรวิชนัดของขวัญออกมาทานข้าวที่ร้านอาหารวันนี้เขาอยากเคลียร์ทุกอย่างให้จบถ้าวันนี้เธอตัดสินใจจะปล่อยมือเขาก็ไม่ห้ามอะไร จะเคารพในการตัดสินใจของเธอเพราะเขาเองก็อยากเห็นเธอมีความสุข ถ้าเธออยากไปคบกับคนที่เหมาะสมกว่าเขาก็คงจะดีใจด้วย
"เป็นยังไงบ้างสอบผ่านพ้นไปได้ด้วยดีมั้ย"
"ก็ดีแล้วกรล่ะ"
"อืม ไม่มีปัญหาอะไร ขวัญเราตัดสินใจแล้วนะว่าจะเรียนต่อด้านป่าไม้"
คำพูดของเขาทำให้ของขวัญที่กำลังตักอาหารเข้าปากถึงกับชะงัก ในที่สุดเขาก็เลือกทำตามความฝันตัวเองแม้ต้องย้ายไปเรียนที่อื่นที่ห่างจากเธอเขาก็ไม่สนใจ ยิ่งทำให้ของขวัญน้อยใจไปใหญ่ที่เขาไม่ให้ความสำคัญกับเธอ
"อืม ดีใจด้วยนะที่ตัดสินใจได้เสียที"
"ต่อไปเราอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆแบบนี้อีก ขวัญ......"
"เราเลิกกันเถอะ"ยังไม่ทันที่กรวิชจะพูดจบของขวัญชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน แม้จะเตรียมใจมาแล้วแต่เมื่อถึงเวลาจริงๆสิ่งที่กรวิชคิดว่าตัวเองจะรับได้กลับไม่เป็นแบบนั้น ตอนนี้ใจเขาเจ็บปวดมาก มือชาตัวชา สมองหนักอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก อยู่ดีๆน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลลงมาอาบแก้ม
"ขวัญคิดดีแล้วใช่มั้ย"กรวิชรวบรวมสติอยู่พักหนึ่งก่อนเอ่ยถามเธอ
"เราต่างก็มีทางเดินของตัวเอง นี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ขวัญต้องการแฟนที่สามารถอยู่ข้างๆและเป็นกำลังใจให้กันได้ เป็นที่ปรึกษาในเวลาที่เจอปัญหา ไม่ใช่แฟนที่ต้องมานั่งลุ้นว่าวันนี้จะติดต่อเขาได้มั้ย กรเองก็คงต้องการคนที่พร้อมจะเข้าใจในสิ่งที่กรเป็นซึ่งไม่ใช่ขวัญ"
"เราเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะที่บอกกันตรงๆ กรขอให้ขวัญเจอคนคนนั้นเร็วๆนะ ดีใจด้วยล่วงหน้าเลยแล้วกันเพราะหลังจากนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก"
"งั้นขวัญขอตัวก่อนนะ"
หลังจากของขวัญเดินจากไปกรวิชฟุบหน้าลงกับโต๊ะปล่อยน้ำตาไหลพราก ความเจ็บปวดทรมานเอ่อล้นเต็มหัวใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาไม่ดีพอสำหรับเธอจริงๆ