14.40 น.
บิ๊กไบค์ดูคาติสีดำคันหรูจอดหน้าร้านคาเฟ่ที่พึ่งเปิดใหม่ ร่างกำยำที่คร่อมรถอยู่ไม่ถอดหมวกกันน็อคออก ทว่าใช้สายตาสอดส่องมองเข้าไปผ่านกระจกใสในร้านที่เต็มไปด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับเขา เป็นเพราะคาเฟ่แห่งนี้พึ่งเปิดทำให้คนแน่นร้าน มาร์ตินไม่ได้ตั้งใจจะมา เขาแค่ขับผ่านและจอดดูว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้างก็เท่านั้นเอง นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองเข้าไปภายในร้าน มองหน้าผู้คนทีละคนก็ไม่พบคนที่เขารู้จัก ชายหนุ่มถอนหายใจออกพลางคิดว่าตัวเองกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ทำท่าจะสตาร์สรถเพื่อไปจากตรงนี้ แต่สายตากลับไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กที่กำลังผลักประตูร้านและมุ่งตรงไปนั่งลงที่โต๊ะริมกระจก...ที่มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อน
แววตาดุดันฉายความเรียบนิ่งเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือมิเกล และเธอกำลังนั่งตรงข้ามกับนักศึกษาชายหน้าตาหล่อเหลา มือหนาเผลอกำแน่นเมื่อเห็นรอยยิ้มน่ารักส่งให้คนตรงหน้าของเธอ ทั้งคู่ดูท่าจะสนิทสนม ส่งผลให้มาร์ตินเบือนใบหน้าไปทางอื่นและสตาร์สรถ ก่อนจะเบิ้นคันเร่งดังสนั่นและขับออกไปจากตรงนี้
หลายวันผ่านไป
“พี่มาร์ติน!!”
ทันทีที่เจ้าของชื่อได้ยินเสียงใสมาแต่ไกล เขาก็รีบสาวเท้าเดินจากตรงนี้ ปาร์คและเตย์ทำหน้างุนงงเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองทำท่าจะเดินหนี ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังวิ่งเหยาะๆ เข้ามาคือมิเกล ใบหน้าของเธอเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นมาร์ตินเดินหนีไปแล้ว และวันนี้ก็คืออีกวันที่เขาหลบหน้าเธอ ปกติถึงจะไม่ได้ยินดีที่เจอกัน แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยตั้งใจหนีหน้ากันแบบนี้ มิเกลยู่ปาก แต่เธอก็ไม่ลดละความพยายาม อยากจะรู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร...
“พี่มาร์ติน”
ในที่สุดหญิงสาวก็วิ่งตามอีกฝ่ายมายังลานจอดรถของมหาวิทยาลัย มาร์ตินถือกุญแจบิ๊กไบค์ทำท่าจะคร่อมรถของตัวเอง ทว่ามิเกลยืนดักหน้าบิ๊กไบค์คันใหญ่ ใบหน้าน่ารักกังวลเล็กน้อย อีกใจก็ไม่กล้าจะตื้อไปมากกว่านี้ เพราะใบหน้าหล่อของเขาฉายความไม่พอใจอย่างชัดเจน
แต่เธอก็อยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดนี่นา
“พี่มาร์ตินโกรธอะไรเกลเหรอคะ”
เธอถามเสียงอ่อน มาร์ตินขึ้นคร่อมรถของตัวเองแล้ว แววตาแข็งกระด้างจ้องหน้าผู้หญิงที่เข้ามาปั่นป่วนหัวใจของเขา
รำคาญจนไม่อยากจะมองหน้า
“หลบไป”
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิคะ เกลทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ”
เพราะท่าทางของมาร์ตินดูว่าเกลียดเธอมาก มันแย่ลงตั้งแต่วันที่เธอชวนเขาไปคาเฟ่เมื่ออาทิตย์ก่อนและอีกฝ่ายก็ปฏิเสธ
ทว่าวันนั้นมิเกลเห็นมาร์ตินจอดรถอยู่หน้าร้าน เพียงไม่นานเขาก็ขับอกไป
“จะยืนอยู่ตรงนั้นก็ตามใจ”
หญิงสาวกลืนน้ำลายดังอึก เพราะเขาสตาร์สบิ๊กไบค์ เครื่องยนต์เสียงดังตามจังหวะการเบิ้นคันเร่งที่มือขวา
สองขาเรียวทำท่าจะก้าวหลบไปอีกทาง ทว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาหาเธอ มิเกลหันไปมองก็พบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอเอง อีกฝ่ายคงจะพึ่งมาถึงมหา’ ลัย
“มิเกล มายืนทำอะไรตรงนี้”
เอกกี้ เพื่อนชายแต่หัวใจเป็นหญิง เพราะภายนอกที่เหมือนผู้ชายแท้ทุกอย่างทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่ามิเกลกับเอกกี้เป็นแฟนกันบ่อยๆ มิเกลหันมองเอกกี้ก่อนจะหันไปมองมาร์ตินอีกครั้งก็เห็นอีกฝ่ายไม่เบิ้นเครื่องยนต์แล้ว แถมยังดับเครื่องจนเกิดเสียงเงียบกริบอีกต่างหาก แววตาดุร้ายเมื่อครู่ผ่อนลง มิเกลไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า แต่เธอก็เอ่ยขึ้น
“นี่เอกกี้ เพื่อนสนิทเกลเองค่ะ”
เอกกี้ยิ้มหวานให้มาร์ติน ทว่าเขามองทั้งสองก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น พลางคิดในใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นในคาเฟ่ นั่นก็แปลว่า...
“พี่มาร์ตินยังโกรธเกลอยู่ไหมคะ?”
“...”
“...”
“หลีก”
มาร์ตินเอ่ยขึ้นก่อนจะเอาหมวกกันน็อคมาสวม มิเกลและเอกกี้หลบไปอีกทางให้บิ๊กไบค์คันหรูได้ขับออกไป
“แกก็นะ อึด ถึก ทน จริงๆ”
เอกกี้พูดขึ้นในขณะที่ทั้งสองเดินไปตที่ตึกคณะของตัวเอง มิเกลและเพื่อนสนิทเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ตอนนี้อยู่ปี 2 ซึ่งเธออายุน้อยกว่ามาร์ตินสองปี คนตัวเล็กถอนหายใจเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น
“ก็ฉันชอบพี่เขาอะ”
“ผู้ชายมีเป็นฝูงหมา ทำไมมึงถึงไปชอบคนประหลาดแบบนั้นยะ?”
“...”
“หรือเพราะคำท้าของอีน้ำฝนเมื่อเดือนก่อน?”
“...”
มิเกลสบตากับเพื่อนตัวเอง พลางนึกย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้า เธอและเอกกี้ไปเที่ยวร้านเหล้าด้วยกัน และคืนนั้นก็บังเอิญเจอเพื่อนในคณะที่ชื่อน้ำฝนและมิวก็ไปร้านเดียวกับพวกเธอ ทั้งสี่คนจึงนั่งโต๊ะเดียวกันเพราะคิดว่าดื่มหลายๆ คนน่าจะสนุกกว่า และยิ่งดึกก็ยิ่งเมา เกมสนุกๆ จึงได้เริ่มต้น โดยมีคำท้าคือคนที่แพ้ต้องทำตามคำสั่งของคนที่ชนะ ก่อนเล่นเกมนี้ได้ตกลงกันแล้วว่าคำสั่งที่คนแพ้ต้องทำห้ามอันตรายหรือพิศดาลจนเกินไป เกมง่ายๆ ก็คือใครเมาจนฟุบหลับก่อนแพ้ โชคร้ายที่คนแพ้คือมิเกล เธอเมาจนภาพตัดเป็นคนแรก บทลงโทษที่น้ำฝนเป็นคนคิดนั่นก็คือตามจีบรุ่นพี่ปี 4 คณะรัฐศาสตร์ให้ติด และรุ่นพี่ที่ว่าก็คือ มาร์ติน บุคคลที่ฮอตปรอทแตก ชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความหล่อเหลาและปากร้ายไม่มีใครเกิน หน้าที่คือจีบให้ติด ถ้าหากมิเกลยอมแพ้กลางคันเธอจะต้องเลี้ยงเหล้าเพื่อนๆ ทั้งสามเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม!
คนที่เหลือเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ มิเกลจำใจจะต้องทำตามอย่างช่วยไม่ได้...ในทีแรกเธอหน้าชาทุกครั้งที่เข้าหาผู้ชายคนนั้น ผ่านไปแค่สองวันก็แทบจะขอยอมแพ้และไถ่โทษโดยการขอเลี้ยงเหล้าเพื่อนๆ คืน ทว่าเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หญิงสาวกลับรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อได้เจอหน้ามาร์ติน น่าแปลกเพราะเขาไม่มีอะไรดึงดูดเธอนอกจากสายตาโหดๆ กับคำพูดห่ามๆ ตรงไหนที่มิเกลไปชอบผู้ชายคนนั้นได้ลงคอ อาจเป็นเพราะเธอรู้มาว่า ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ตามตื้อเขา ยังมีผู้หญิงอีกเยอะที่จีบมาร์ติน คอยส่งน้ำส่งขนม ผู้หญิงบางคนทั้งสวยทั้งรวยกว่าเธอ จะเน็ตไอดอลหรือดาวคณะแต่มาร์ตินก็ไล่ตะเพิดมาหมดแล้ว นั่นอาจทำให้มิเกลรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ชอบคนที่หน้าตา เขาไม่ชอบใครเลย (และก็ไม่ชอบเธอด้วย) เพราะงั้นความน่าค้นหาของผู้ชายคนนั้นทำให้มิเกลตกหลุมรักละมั้ง...
แต่ก็ไม่ได้อกหักถึงขั้นจะเป็นจะตายหากอีกฝ่ายไม่รับรักกันจริงๆ หรอกนะ
“พอเถอะยัยมิเกล เดี๋ยวฉันช่วยออกเงินเลี้ยงเหล้าสองคนนั้นก็ได้ แค่เดือนเดียวเอง ขนหน้าแข้งคุณหนูอย่างแกไม่ร่วงหรอก”
เอกกี้ยังคงตะล่อม มิเกลยู่ปากเล็กน้อย จะบอกให้ว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้เล่นตามเกมแล้ว
เธอทำตามหัวใจตัวเองต่างหาก!
“แต้งกิ้วแก แต่ไม่เป็นไร ฉันยังไหว”
“เห้อ”
“ฉันดูออกว่าพี่เขาก็มีใจให้ฉัน แกเชื่อเหอะ อีกไม่นานฉันจะได้รวบหัวรวบหางพ่อหนุ่มเย็นชาแน่นอน!”