อวี่หรันมองสำรวจไปรอบห้องอย่างหดหู่ใจ ถึงจะเป็นเรือนที่สร้างใหม่ แต่ก็ไม่ได้ดูแข็งแรง อีกอย่างเจ้าของร่างเดิมคงจะเป็นคุณหนูตกยากอย่างแน่นอน ดูจากเครื่องประดับกับตั๋วเงินที่นางไปหยิบออกมาจากที่เก็บเมื่อครู่แล้ว
ก็นับว่ามีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่อวี่หรันก็ไม่รู้ว่าข้าวของในยุคนี้มีราคาเท่าไหร่ หากนางคิดจะทำการค้าหรือหางานทำก็คงต้องรออีกนาน กว่าจะทิ้งเจ้าตัวน้อยไว้ให้คนอื่นช่วยเลี้ยงได้
อวี่หรันหลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย แต่เพียงสองชั่วยาว (1ชั่วยาม=2ชั่วโมง) นางก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะหยุนซีร้องหิวนมอีกแล้ว
อวี่หรันงัวเงียลุกขึ้นมาป้อนนมเขาอย่างอยากลำบาก หยุนซีที่ถูกเต้านมของมารดาปิดจมูกก็กรีดร้องออกมาเมื่อหายใจไม่ออก
“เอ่ออ ขอโทษ ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” อวี่หรันสะดุ้งตกใจกับเสียงร้องของเขา เมื่อเห็นว่านมของนางไม่ได้เข้าไปที่ปากก็จับให้เข้าไปใหม่
นางเพิ่งจะรู้ว่าเจ้าตัวเล็กหยุนซี ร้องทุกสองชั่วยามเพื่อตื่นขึ้นมากินนม
รุ่งเช้าเมื่อป้าฉีนำข้าวมาให้อวี่หรันก็ต้องตกใจกับสภาพของนาง เหมือนนางจะดูย่ำแย่กว่าสตรีนางอื่นคลอดบุตรที่เขาเคยเห็นมามากนัก
“ท่านป้า ข้าฝากซีซีก่อนเจ้าค่ะ ข้าอยากไปอาบน้ำ”
“ไม่ได้” อวี่หรันสะดุ้งตกใจ เมื่อได้ยินเสียงแหลมของป้าฉีที่ร้องห้ามนาง
“มีอย่างที่ไหน เพิ่งคลอดบุตรก็จะอาบน้ำเสียแล้ว เจ้าเพียงเช็ดตัวเล็กน้อยได้ แต่ห้ามอาบน้ำหนึ่งเดือน”
“ห๊า” อวี่หรันร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตนเอง
นางจะทนไม่อาบน้ำถึงหนึ่งเดือนได้อย่างไร แล้วก็ทำได้เพียงเช็ดหน้ากับเช็ดจุดซ่อนเร้นของนางเท่านั้น
เมื่ออวี่หรันได้ยินว่านางต้องอยู่ไฟ เพื่อไม่ให้ร่างกายของนางได้รับผลกระทบหลังคลอดจนเกิดโรคเรื้อรัง นางก็ได้แต่ทำใจแล้วพยักหน้ารับแต่โดยดี
การที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง แล้วจัดการกับเด็กเล็กที่พูดไม่ได้ ทำได้แต่ร้องไห้ อวี่หรันเกือบจะเสียสติ มีหลายครั้งที่นางเกือบจะร้องไห้ไปพร้อมกับหยุนซี เพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการสิ่งใด
ป้าฉีก็ต้องคอยมาช่วยนางเลี้ยงหยุนซีที่เรือนทุกวัน เพราะนางไม่รู้วิธีเลี้ยงเด็กเลยสักนิด ผ่านมาได้เกือบเจ็ดวันนางจึงเริ่มรู้ว่า การที่เขาร้องเช่นนี้เป็นเพราะหิวหรือปวดท้อง หากปวดท้อง ท้องอืดนางก็อุ้มพาดบ่าพาเดินอยู่ในห้อง หรือนวดที่ท้องให้เขาเบาๆ
ในยุคนี้อะไรก็ล้วนไม่สะดวกสำหรับนาง ผ้าอ้อมที่นำมาทำก็ต้องคอยเปลี่ยนอยู่เสมอ เพราะช่วงแรกหยุนซีขับถ่ายไม่เป็นเวลา จะถ่ายหรือฉี่นางก็ตั้งรับไปทันสักครั้ง จนที่นอนเปียกเละเทะไปหมด
หากไม่ได้ป้าฉีคนดีคนเดิม นางคงได้กระอักเลือดตายไปเสียแล้ว
“ท่านป้า ท่านรู้จักช่างไม้หรือไม่เจ้าคะ”
“เสี่ยวตง บุตรชายของป้าอย่างไรเล่า เจ้ามีอันใดหรือ”
อวี่หรันมุมปากกระตุก เมื่อได้ยินชื่อของบุตรชายของป้าฉี แต่นางคิดว่าชื่อโหลๆ เช่นนี้ไม่ว่ายุคใดก็คงต้องมี
“ข้าอยากให้เขาทำที่นอนให้หยุนซีเจ้าค่ะ” นางคิดจะทำเปลขึ้นมา จะได้เบาแรงนางไม่ต้องคอยอุ้มเขาอยู่บ่อยๆ
“เช่นนั้นหากเสี่ยวตงกลับมาจากในเมืองข้าจะให้เขามาพบเจ้า”
“เจ้าค่ะ”
ตอนนี้อวี่หรันนางออกไฟเรียบร้อยแล้ว จึงได้อาบน้ำเสียที นางจึงยอมที่จะพบผู้อื่นได้ โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
ตอนเย็นเมื่อเสี่ยวตงกลับมาที่หมู่บ้านแล้ว เขาก็เดินมาที่เรือนของอวี่หรันตามคำบอกของมารดา
“แม่นางถาน ข้ามาแล้ว” เสี่ยงตงร้องเรียกอวี่หรันอยู่ที่หน้าเรือน
เมื่อได้ยินเสียงอวี่หรันก็อุ้มหยุนซีขึ้น แล้วเดินออกมาหาเสี่ยวตงที่ด้านนอก
“มาแล้วเจ้าค่ะ” เมื่อประตูเรือนถูกเปิดออก อวี่หรันก็หยุดนิ่งอย่างตกตะลึง ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อแล้วที่เหมือน แม้แต่ใบหน้าก็เหมือนราวกับคนคนเดียวกัน
“เป็นอันใดไปแม่นางถาน” เสี่ยวตงที่เห็นใบหน้าของอวี่หรันที่เปลี่ยนไปก็เอ่ยถามนางขึ้น
“อ้อ ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่บอกว่าเจ้าอยากให้ข้าทำสิ่งใดให้หรือ”
“ข้าอยากให้ท่านทำที่นอนให้ซีซี ไม่รู้ว่าท่านทำได้หรือไม่”
อวี่หรันส่งกระดาษที่นางวาดในมือให้เสี่ยวตงเพื่อดูว่าเขาทำได้หรือไม่
“เจ้าคิดเองอย่างนั้นหรือ” เสี่ยวตงเอ่ยถามอวี่หรันอย่างตื่นตะลึง
“เจ้าค่ะ ท่านทำได้หรือไม่” อวี่หรันเริ่มมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ยิ่งใบหน้าที่เหมือนกับมือขวาของนาง นางยิ่งอยากจะเข้าไปทุบสักสองสามทีให้หายแค้น
“ทำได้ แต่ข้าคิดว่าเถ้าแก่ของข้า เมื่อเห็นแบบในมือของข้าแล้วคงต้องขอซื้อจากเจ้าเป็นแน่”
อวี่หรันขมวดคิ้วคิด หากนางลงทุนให้เสี่ยวตงทำการค้าเองเช่นนี้ ไม่ดีกว่าหรือ ถึงอย่างไรแบบในมือของนางก็มีอีกหลายอย่าง
“หากข้าลงทุนเปิดร้านให้ท่าน แล้วท่านทำออกมาขาย โดยแบ่งกำไรที่ได้กับข้า จะได้หรือไม่”
“เจ้าพูดจริงหรือ” เสี่ยวตงก็ไม่คิดอยากจะเป็นเพียงลูกจ้างของร้านไม้ไปตลอด แต่เพราะเขายังมีทุนไม่มากพอที่จะเปิดร้านจึงต้องหยุดความคิดลง
อีกอย่างหากได้แบบจากนางมาวางขายในร้านของเขา คงจะทำให้กิจการของเขาดีเป็นแน่
“ใช่ ข้าเหมือนคนล้อเล่นหรืออย่างไร” นางถลึงตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์
อวี่หรันนางจึงเขียนสัญญาออกมาด้วยตนเอง แล้วให้เขาประทับมือในสัญญา
อย่างน้อยร่างเดิมของนางก็ยังมีความรู้เรื่องตำราและอักษรอยู่
นางลงทุนให้เสี่ยวตง พร้อมทั้งเขียนแบบให้เขา เมื่อค้าขายได้กำไรที่เหลือจากการหักทุนจะถูกแบ่งให้ทั้งสองอย่างละเท่าๆ กัน
“ไม่ต้องแบ่งให้ข้ามากเพียงนี้ก็ได้ ให้ข้าเพียงสามส่วนก็พอ” เสี่ยวตงเอ่ยบอกอย่างเกรงใจ
“ข้าลงเงิน ท่านลงแรง ทั้งยังต้องออกหน้า นับว่าไม่มากเกินไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านคิดจะหักหลังข้า ข้าไม่เก็บท่านไว้แน่” อวี่หรันมองเขาอย่างดุดัน ไอสังหารออกมาจากร่างของนาง โดยที่เสี่ยวตงก็คาดไม่ถึง
“ข้าจะกล้าได้อย่างไร ตอนที่เจ้าลอยติดน้ำมาก็เป็นข้าที่พากลับมาที่เรือน” เสี่ยวตงเอ่ยอย่างน้อยใจ ที่นางคิดว่าเขาจะหักหลังนาง
หากเขาคิดไม่ดีกับนางคงไม่ช่วยเหลือนางไว้ในครั้งนั้น
“อ้อ เช่นนั้นก็ตามนี้เจ้าค่ะ” อวี่หรันเสียงอ่อนลง เพราะถึงอย่างไรเขาก็เคยช่วยร่างนี้กับบุตรในท้องของนางไว้