เข้าเมืองซื้อร้านค้า

1241 Words
เมื่อฟังคำของเสี่ยวตงนางก็เข้าใจได้ทันที ระยะทางแม้จะใกล้ แต่การเดินทางในภพนี้ก็ยังมีอย่างจำกัด อวี่หรันพาบุตรชายในยามนี้ที่สามเดือนแล้วเข้านอน หลังจากที่นางรู้ใจหยุนซีเขาก็ไม่เคยงอแงอีกเลย นับว่าเป็นเรื่องดีของนางที่พบเจอเด็กเช่นนี้ หากเขาดื้อรั้นเสียหน่อย นางคงได้ออกไปประกาศหาบิดาของเขาให้มารับเขาไปเลี้ยงดูเสียเอง รุ่งเช้าอวี่หรันก็ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างนางจัดการบีบน้ำนมใส่ชามไว้ให้ป้าฉีป้อนหยุนซีตอนที่นางไม่อยู่ด้วย เพราะรู้ปริมาณที่บุตรชายกินในแต่ละครั้ง นางจึงได้บีบออกมาถึงสามชาม หลังจากที่อาบน้ำ เตรียมตัวแล้ว อวี่หรันก็กลับมาป้อนนมบุตรชายที่เพิ่งจะตื่น ยังดีที่น้ำนมของนางต่อให้บีบออกไปแล้วสามชามก็ยังพอให้เขากินได้อีกหนึ่งมื้อ เสี่ยวตงก็มารับนางที่เรือนตามเวลาที่เขาแจ้งนางไว้ อวี่หรันจึงพาหยุนซีไปส่งให้ป้าฉีที่ออกมายืนรอรับอยู่ที่หน้าเรือน “ท่านพาข้าไปที่ร้านรับจำนำก่อนเจ้าค่ะ” อวี่หรันเอ่ยบอกเสี่ยวตงเมื่อนางขึ้นไปนั่งบนเกวียนเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อวันนี้ออกมาแล้วนางก็อยากจะดูความเป็นอยู่ของชาวเมือง เมื่อเสี่ยวตงจ่ายค่าผ่านทางแล้วเขาก็นำเกวียนวัวไปจอดที่จุดรับฝาก ก่อนจะพาอวี่หรันนางไปที่ร้านรับจำนำตามที่นางบอกไว้ “ไม่ทราบว่าแม่นางต้องการแลกเงินหรือจำนำของขอรับ” เสี่ยวเอ้อหน้าร้านเดินเข้ามาหานางแล้วเอ่ยถามอย่างนอบน้อม “ข้ามีสิ่งของมาจำนำ ช่วยดูได้หรือไม่เจ้าคะ” เสี่ยวเอ้อพาอวี่หรันนางไปพบหลงจู๊ด้านในร้าน เพื่อประเมินราคาของของนาง “แม่นาง เจ้าเอาสิ่งนี้มาจากที่ใด” หลงจู๊เมื่อรับหยกพกมาจากอวี่หรัน เขามองเพียงครู่เดียวก็เงยหน้าถามนางอย่างสงสัย “ข้าคงขโมยมากระมัง ท่านจะรับจำนำหรือไม่” นางเอ่ยถามเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจ “แม่นาง เช่นนั้นเจ้ารอข้าสักครู่” หลงจู๊ด้านหายเข้าไปในห้องด้านหลังอย่างรวดเร็ว เสี่ยวตงมองมาที่อวี่หรันอย่างสงสัย ว่านางนำสิ่งใดมาจำนำกันแน่ หลงจู๊ถึงได้มีท่าทางเช่นนั้น อวี่หรันนางไม่ได้รู้ความหมายของหยกที่นางนำมาจำนำเลยว่าสิ่งนั้นคือเครื่องยืนยันตัวตนของนาง เพียงไม่นานหลงจู๊ก็เดินออกมาจากห้อง พร้อมทั้งนำตั๋วเงินห้าพันตำลึงทองยื่นให้นาง นางรับมานับแล้วมองหน้าหลงจู๊อยู่ครู่ เพื่อสังเกตว่าเขาโกงนางหรือไม่ แต่เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้กับหลงจู๊อย่างมาก ที่นางไม่มีทีท่าจะตกตะลึงกับจำนวนเงินที่ได้รับมามากมายเช่นนี้ “ขอบคุณ” นางเก็บเข้าอกเสื้อก่อนจะเดินออกจากโรงรับจำนำไปอย่างสบายใจ “นายท่านให้ตามไปหรือไม่ขอรับ” หลงจู๊เดินเข้าไปถามคนที่อยู่ด้านในห้อง “ให้คนสืบมาว่านางอยู่ที่ใด” เขาเล่นหยกพกสีดำในมือ พร้อมกับครุ่นคิดว่านางมีเรื่องจำเป็นใดถึงได้นำของสำคัญเช่นนี้มาจำนำ อวี่หรันเมื่อออกจากโรงรับจำนำนางก็ไปดูร้านที่เสี่ยวตงดูไว้ทันที “ข้าว่าที่นี่ก็ดีเจ้าค่ะ” ทำเลที่ตั้งก็มีผู้คนเดินกันมากมาย ทั้งยังอยู่ใกล้เหลาอาหาร เหลาสุรา หน้าร้านก็กว้าง หากจะนำของออกมาวางให้ลูกค้าดูก็ได้ อีกอย่างยังมีอีกห้องที่หากนางจะนำสบู่หรือการค้าอย่างอื่นมาขายก็ทำได้เช่นกัน “ข้าซื้อที่นี่เจ้าค่ะ” “เงินเจ้าพอหรือไม่” เสี่ยวตงเอ่ยถามอย่างกังวล ของที่นางนำไปจำนำ เขาก็ไม่รู้ว่านางได้เงินมามากเพียงใด “ข้ามีหน้าที่หาเงิน ท่านจัดการเรื่องของท่านก็พอ” อวี่หรันนางยังไม่ทิ้งนิสัยเดิมของนาง ที่ไม่ชอบให้ผู้ใดวุ่นวายในส่วนงานของนาง เสี่ยวตงรับเงินมาจากอวี่หรันแล้วไปจัดการเรื่องซื้อขายร้านค้าทันที อวี่หรันนางเดินเล่นอยู่ในเมืองเพื่อดูของต่างๆ ระหว่างที่นางเดินเล่นอยู่นั่น มีบุรุษรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าขาวราวกับกระเบื้องเคลือบชั้นดี ดวงตาหงส์เรียวยาวสวยได้รูป แต่อวี่หรันนางเบี่ยงตัวหลบได้ทันทำให้บุรุษผู้นั้นเสียหลักเกือบล้มลง เขาหันมามองหน้านางอย่างประหลาดใจ แล้วยิ่งเห็นนางมองใบหน้าของเขาอย่างเรียบเฉยราวกับไม่เคยพบกันมาก่อนก็อดที่จะแปลกใจได้ “ขออภัย แม่นางท่านเป็นอันใดหรือไม่” อวี่หรันมองหน้าเขาพร้อมกับขมวดคิ้วสงสัย เหตุใดนางถึงได้รู้สึกเจ็บหัวใจมากเพียงนี้ แต่สีหน้าของอวี่หรันก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติใดออกมา “ไม่ ข้าขอตัว” นางรู้สึกว่านางไม่สมควรพบเจอบุรุษผู้นี้ ไม่รู้ด้วยเหตุใด แต่สัญชาตญาณบอกนางเช่นนั้น “ประเดี๋ยวก่อน เจ้าจำข้าไม่ได้หรือ” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ ท่านมีเรื่องใดอีกหรือไม่” นางหันกลับไปมองเขาด้วยแววตาที่เย็นชา “หรันหรัน ข้าเฉิงอี้ ญาติผู้พี่ของเจ้าอย่างไรเล่า” เขามองนางด้วยสายตาที่เจ็บปวด คงมีเพียงแต่สวรรค์ที่รู้ว่าเขาดีใจมากเพียงใดที่เห็นหยกพกของนาง ตอนที่อยู่โรงรับจำนำ นางหายตัวไปจากเมืองหลวงเป็นปี โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าอยู่ที่ไหน ทั้งบิดามารดาของนางออกตามหาก็ไม่อาจพบตัวนางได้ แต่เขากลับพบนางอยู่ที่เมืองเหอหนาน ห่างจากเมืองหลวงเกือบสามพันลี้ (1ลี้=500เมตร) หลังจากที่นางแต่งเข้าจวนตระกูลหวัง เขาก็ไม่ได้รับรู้เรื่องของนางอีกเลย จนเมื่อปีที่แล้วเขาเดินทางกลับไปเมืองหลวง ท่านน้าจึงได้บอกข่าวเรื่องที่นางหายตัวไป เมื่อตู้เฉิงอี้ไปที่จวนของสหายเพื่อถามว่าเหตุใดญาติผู้น้องของตนจึงหายไปได้ ก็พบว่าหวังเหว่ยกงพาญาติผู้น้องของเขาเข้ามาอยู่ในจวนเสียแล้ว หลังจากแต่งอวี่หรันได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่ตัวหวังกงเหว่ยมิได้อยู่ที่จวน เขาเดินทางไปจัดการเรื่องกองทัพที่ชายแดนเหนือ หลีหรูอวี้ ญาติผู้น้องของเขา เพียงบอกว่าทั้งคู่หย่าขาดกันแล้ว อวี่หรันนางบอกจะกลับตระกูลถาน เรื่องอื่นนางไม่รู้เรื่องด้วย “ข้าจำไม่ได้เจ้าค่ะ แล้วข้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าท่านเป็นญาติผู้พี่ของข้าจริง” อวี่หรันเอ่ยถามเขาออกมา “หากเจ้ากลับไปที่เมืองหลวงกับข้า เจ้าก็จะรู้เรื่องราวทุกอย่างเอง” “ไม่ ข้าอยากอยู่ที่นี่” นางเอ่ยปฏิเสธทันที เพราะไม่มีความทรงจำของร่างเดิม นางจึงไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าของร่างที่ควรจะอยู่เมืองหลวงถึงได้มาอยู่ที่เมืองเหอหนานได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD