เจอกันอีกครั้ง

865 Words
แน่นอน หมอนั่นคงไม่คิดหรอกว่าจะเป็นเธอ คนที่มารับเขาในวันนี้ เขาคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีเธออยู่ในโลกใบนี้ เพราะหลังจากวันฝนพรำ พอแสงแห่งรุ่งอรุณของวันใหม่มาเยือน เธอก็หายไปจากชีวิตของเขา เธอลาออกจากโรงเรียน ย้ายตามมารดาไปอยู่อีกจังหวัด สองปีในการเรียนมัธยมปลาย จนกระทั่งเธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในภาควิชาคหกรรม เธอจึงได้เห็นเขาอีกครั้ง ที่นั่น...เขายังคงโดดเด่น สง่างาม เคียงข้างกับแก้วกัลยา ดาวมหาวิทยาลัยฝ่ายหญิงที่ทั้งเก่งและฉลาดจนใครก็อิจฉา ผู้หญิงคนนี้ไง ที่เป็นสาเหตุให้นายไพรัลย์ต้องติดคุกด้วยข้อหาร้ายแรง อนาคตดับสนิทชนิดเจ้าพ่อยังช่วยไม่ได้...และตอนนี้...หมอนั่นคงกำลังรอแก้วกัลยาอยู่กระมัง ไม่มีทาง...เธอมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางมาปรากฏตัวเป็นแน่ นั่นเพราะเจ้าหล่อนกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายอีกคน...ธารเทพ อัศวเดชดำรง ลูกชายบุญธรรมของเจ้าพ่ออินทรีย์ หรือก็คือพี่ชายบุญธรรมของเขาเอง ข่าวลือมากมายกล่าวกันว่าเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่รักนายธารเทพยิ่งกว่าลูกในไส้ ความผิดหวังยังไม่เท่าต้องสูญเสียเมียผู้เป็นที่รักซึ่งตายไปเพราะตรอมใจเรื่องลูกชายตัวร้าย เจ้าพ่อเขียนจดหมายแต่งตั้งนายธารเทพเป็นผู้จัดการมรดกจนกว่านายไพรัลย์จะออกจากคุก และให้เขาดูแลทรัพย์สินและมรดกทั้งหมดในฐานะเดียวกับเจ้าพ่ออินทรีย์ทุกประการ เช่นนั้น ตอนนี้ก็เท่ากับว่าทุกสิ่งทุกอย่างตกเป็นของนายธารเทพแทบทั้งหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งบ้านให้หมอนี่ซุกหัวนอน หรือแม้แต่...คู่หมั้น! ‘จะโทษใครได้ ไม่น่าทำเรื่องเสื่อมเสียให้วงศ์ตระกูลขนาดนั้น เจ้าสัวคงโกรธตานี่มาก คงไม่ให้อภัยตานี่แน่ๆ ถึงไม่ยกอะไรให้เลยแม้แต่แดงเดียว’ ฟ้าอำไพรีบดึงแว่นดำออกจากคอเสื้อ ก่อนจะกวาดเส้นผมให้ลงมาปรกหน้า อำพรางดวงตาตื่นตระหนกและแก้มซีดขาวเอาไว้ เธอจัดแต่งเอี๊ยมขาสั้นสุดกะทัดรัดเล็กน้อยเพื่อความมั่นใจ จากนั้นก็เดินข้ามถนนไปหาเจ้าฆาตกรโหดที่ยังคงยืนสะพายเป้ใบเขื่องเอาไว้ ด้วยท่าทางนิ่งๆ ไม่รู้จักร้อน เมื่อหญิงสาวที่ความสูงแค่ราวอกของเขามายืนอยู่ตรงหน้า เขาใช้สายตาไร้อารมณ์จ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ดวงตาเขายังคมกริบทอประกายยโสเหมือนเดิมเลยละ เจ้าหล่อนขมวดคิ้วมุ่น มองตามสายตาเขาด้วยความไม่พอใจ สายตาดูถูกคนของเขาทำให้ผิวหน้าเธอร้อนวูบ “คุณคือ” เธอพูดเสียงหนักแน่น จ้องถลึง “ไพรัลย์ อัศวเดชดำรงใช่ไหม” เขาไม่ตอบ กลับหาวเสียปากกว้าง ก่อนหันไปมองทางอื่น เธออดคิดไม่ได้ว่าหมอนี่กำลังมองหาคู่หมั้นแสนสวยอยู่ เธออยากจะหัวเราะให้ดังๆ “ถ้าใช่ ฉันมารับคุณ” เขาหมุนใบหน้ากลับมา สายตาเย็นชาทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว “รถฉันจอดอยู่ทางโน้น” “คุณเป็นใคร?” เสียงทุ้มนุ่มเหมือนจะสุภาพ แต่แฝงไว้ด้วยความเยาะหยันบางๆ ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของเขาทำให้เธอสะอึกไปเล็กน้อย ‘นี่ก็แสดงว่าหมอนี่จำเธอไม่ได้จริงๆ’ เธอควรจะโล่งใจใช่ไหม ไม่ใช่รู้สึกหดหู่สิ้นหวังเช่นนี้ โธ่...ผู้หญิงที่ถูกลืม “คือ...ฉัน....” เธอจะแนะนำตัวอย่างไรดี เธอกำลังนึกถึงประโยคสุดท้ายของบิดาที่เขียนไว้ แต่งตั้งเธอเป็นผู้ปกครองของเขาจนกว่าเขาจะแต่งงาน เธออยากจะบ้า ขืนบอกหมอนี่ไป เธอถูกไล่ตะเพิดแน่ๆ “ฉันเป็น...” เขาใช้หางตามองเธอ ก่อนจะหัวเราะในลำคอ “ใครให้คุณมารับผม พี่ธารหรือว่าแก้ว” สองคนนั้นเหรอ...ไม่มีทาง...น่าขำ “เอาเป็นว่าคุณไปกับฉันเถอะ” เขาจ้องหน้าเธอเขม็ง “ไม่” “ขอร้องล่ะนะ ไปกับฉันก่อนเถอะ แล้วฉันจะอธิบายให้คุณฟังทุกอย่าง” ไพรัลย์มองหน้าหญิงสาวแบบเอาเรื่อง ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง หญิงสาวรีบสาวเท้าตาม พอถึงตัวก็คว้าแขนของเขาไว้ เขาหันขวับกลับมา แววตาดุดัน เธอหน้าแดงก่ำ รีบปล่อยแขนชายหนุ่มทิ้ง เธอรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แม้หัวใจจะเต้นรัวเร็วแค่ไหนก็ตาม “ไม่มีใครมารับคุณหรอก นอกจากฉัน ไปกับฉันเถอะนะ” เขาถอนหายใจระอา หันมาจ้องหน้าเธอใกล้ๆ “ให้ผมไปกับคุณ ทั้งที่ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนนี่นะ ปัญญาอ่อนรึไง” เธอถูกเขาด่าว่าปัญญาอ่อนอีกแล้ว มันเหมือนมนต์ดำที่สาปให้เธอกลายเป็นหิน เธอไม่ได้โกรธเขาหรอก เพราะถ้าในทางกลับกัน เธอเองก็คงไม่ไปกับคนแปลกหน้าแน่ๆ แต่ก็แค่รู้สึกสะเทือนใจเท่านั้น...ยัยปัญญาอ่อน! “หยุดตามตื๊อผมซะที แล้วก็ไปไกลๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD