“เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ?”
เขาหันมาหรี่ตามองเธอ ทำเอาโรซี่ตาโต นี่เธอแอบนินทาเขาในใจ ก็ยังจะได้ยินหรือ... หูทิพย์เกินไปรึเปล่า?
“เปล่า”
“เธอแอบด่าฉันอยู่ในใจใช่ไหม”
เขาคาดคั้นอย่างเอาเรื่อง หลังเห็นเธอทำหน้าเหวอ จนแน่ใจว่าคิดไม่ผิด
“อย่ามากล่าวหากันง่ายๆ สิคะ”
“เฮอะ! ฉันเหรอกล่าวหา หน้าเธอมันฟ้องอยู่โต้งๆ”
โรซี่ยักไหล่
“ถ้าคุณว่าอย่างนั้น ก็คงเป็นแบบนั้นแหละค่ะ”
“เธอ!”
ดรณ์หันมาถลึงตาใส่เธอ แล้วหักพวงมาลัยเข้าข้างทางกะทันหัน แม้โรซี่จะระวังตัวอยู่บ้าง แต่ก็ยังถลาหน้าคะมำ หัวเกือบโขกกับรถรอบสอง โชคดีที่เธอคาดเข็มขัดไว้แล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้รอยปูดเป็นของที่ระลึกกลับบ้านสักรอยสองรอยแน่ๆ
“คุณขับรถประสาอะไร ซื้อใบขับขี่มารึไง”
คราวนี้เธอหันมาแว้ดใส่เขาด้วยความโมโห
“หุบปาก! เธอเป็นใคร ถึงกล้ามาด่าฉัน”
เขากระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ สีหน้าดุดันเย็นชาน่าสะพรึงชวนให้แก้มหอมคนเก่ากลัวจนตัวสั่น
แต่ไม่ใช่กับเธอในตอนนี้!
โรซี่ยกมือเรียวนุ่มกุมมือเขา ลูบไล้อย่างอ้อยอิ่งยั่วยวน พลางคลี่ยิ้มหวานเซ็กซี่เชิญชวน
“คุณเข้ามาใกล้ฉันแบบนี้ คุณไม่รังเกียจฉันเหรอคะ”
พอหล่อนพูดปุ๊บ กลิ่นหอมของดอกกุหลาบยวนใจก็แผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างงดงามกลมกลึงลอยฟุ้งเต็มคันรถ มันแตะที่จมูกและเขาก็สูดดมเข้าไปจังๆ เต็มปอด ทำให้รู้สึกมึนเมาวูบไหว
ดรณ์ถึงกับผงะ รีบกลั้นหายใจ แล้วผลักหล่อนออกห่างทันทีด้วยความสะอิดสะเอียน
“ตอบมา! เธอกลับมาที่นี่ทำไม”
เขาถามเสียงกร้าวกระด้าง แต่ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสตามธรรมชาติดังขึ้น มันเซ็กซี่น่าฟังอย่างบอกไม่ถูก ท่ามกลางความมืดและเงียบเชียบบนถนนที่ไม่ค่อยมีรถสัญจร
“ฉันก็แค่คิดถึงคุณลุงคุณป้า”
“แค่นั้น?” ดรณ์เลิกคิ้วมองหล่อนอย่างไม่เชื่อ
“ทำไมคะ? คุณกลัวอะไรฉันรึไง”
เขายิ้มเยาะ
“อย่างฉันนี่นะมีอะไรต้องกลัวเธอ เธอมีปัญญาทำอะไรฉันได้อย่างนั้นเหรอ”
“ก็ไม่แน่นะคะ”
หล่อนส่งสายตาอย่างลองดี และดรณ์ไม่ชอบที่จะถูกหล่อนท้าทาย
“เธอมีแผนอะไรกันแน่”
เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าหล่อนจะต้องกลับมาในสักวันหนึ่ง...
ดรณ์เคยจินตนาการถึงตอนที่แก้มหอมกลับมาหลายครั้ง หล่อนอาจจะร้องไห้ฟูมฟาย พร่ำเอ่ยขอโทษและขอให้เขายกโทษ ขอโอกาสจากเขาให้กลับมาแต่งงานกับหล่อนอีกครั้ง หรือบางทีหล่อนอาจจะโกรธแค้น หาเรื่องมาข่มขู่บังคับเพื่อให้เขาคืนหุ้นและทรัพย์สมบัติในส่วนของรุจีรัตน์ ซึ่งเขาก็ได้เตรียมการรับมือเอาไว้หลายอย่าง แต่ไม่มีสักอย่างสำหรับคำตอบที่เรียบง่ายเช่นนี้ของหล่อน แค่... คิดถึง
“คุณจะคิดยังไงก็ตามใจ” โรซี่ยักไหล่ จงใจรวนกลับ
“เธอกลับมาเพื่อจะทวงหุ้นคืนใช่ไหม”
ดรณ์ถามในสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการหมั้นหมายระหว่างกันอีก เพราะหล่อนเพิ่งประกาศถอนหมั้นเองเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
“คุณกลัวฉันจะกลับมาแย่ง ‘ของ’ ที่เคยเป็นของฉันไปจากคุณเหรอคะ”
ชายหนุ่มเหยียดปากอย่างไม่เกรงใจ เอ่ยวาจาเฉียบขาดทำร้ายจิตใจคนฟังอย่างเลือดเย็น
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด”
“ฉันไม่สนหรอกค่ะ ในเมื่อคุณอยากได้ก็เอาไป ฉันถือว่าทำบุญ”
โรซี่บอกอย่างไม่แยแส ไม่มีทีท่าว่าจะเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว
ก็ใช่น่ะสิ... ตอนนี้หล่อนจับเจ้าพ่อสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ได้แล้วนี่ จะต้องกลัวอะไร ไหนจะยังบรรดาผู้ชายรวยๆ ที่ชื่นชมคลั่งไคล้หล่อน พร้อมจะให้หล่อนซูบเลือดซูบเนื้อได้อีกล่ะ หล่อนจึงทำท่าจองหองใส่เขาได้ถึงขนาดนี้
ดรณ์ไม่ชอบที่ถูกคนที่เคยตกเป็นเบี้ยล่างเขามาตลอดชีวิตมองข่มกัน หล่อนมองเขาราวกับเป็นราชินีที่กดหัวข้ารับใช้
เขาเกลียดและไม่ยอม!
“ถ้าเธออยากได้หุ้นคืนละก็ ลองก้มหัวขอร้องฉันดูสิ บางทีฉันอาจจะใจอ่อน ลองคิดดูใหม่ก็ได้นะ”
เสียงหัวเราะของหล่อนยังคงหวานบาดใจเขา แต่คำพูดทุกคำที่พูดกับเขาช่างหนักแน่นมั่นคง จนเขาไม่ค่อยสบายใจพิกล
“ฉันไม่เอา!”
“เป็นเพราะตอนนี้เธอมีเป้าหมายใหม่อย่างแอนโทนี่ ฮอว์ก แล้วงั้นสิ”
โรซี่เลิกคิ้ว แปลกใจนิดๆ ที่เขารู้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอ ถึงจะเป็นข้อมูลกว้างๆ ที่คนทั่วไปรู้อยู่แล้ว แต่สำหรับคนอย่างดรณ์... ถ้าลองว่าเกลียด เขาเคยชายตาแลเสียที่ไหน เขาไม่มีทางเฉียดเข้ามาใกล้ และยิ่งไม่สนใจเรื่องของเธออย่างแน่นอน ต่อให้เธอยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็ยังไม่มองเลย
“ขอไม่ตอบ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันค่ะ”
ทว่าดรณ์ไม่ลดละ อะไรที่เขาอยากรู้ ก็จะต้องรู้ให้ได้!
“เกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าปีก่อนกันแน่ เธอหายไปไหนมา”
โรซี่หรี่ตา รอยยิ้มแปรผันเป็นเยียบเย็นจนน่าขนลุก
“คำถามนี้ คุณน่าจะรู้คำตอบดีกว่าฉันอีกนะคะ”
ดรณ์ชะงักเล็กน้อย
“อย่ามาโยกโย้ เธอไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำไมถึงกลายมาเป็นนางแบบได้”
“คุณอาชวน”
“ใคร?”