วิศวะขย้ำรัก (Engineer’nTaboo)
ตอนพิเศษ : ห้องสมุดปิดปรับปรุง
นามปากกา : ตัวตึงดึงปฐพี
------
ณ มหาวิทยาลัยเอกชน MDL ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์
“ยัยจิ๋ววันนี้เธอดูแปลก ๆ นะ” ขณะที่เดินมาถึงใต้ถุนตึกพันไมล์ก็พูดขึ้น ทำให้คนตัวเล็กเงยหน้ามองคนพูดอย่างสงสัย
“อะไรของพี่น่ะ” ซินย้อนถาม พร้อมหัวคิ้วขมวดมุ่น
“เธอแบบว่า...ปกติส่วนสูงเธออยู่ตรงอกพี่ แต่วันนี้มันอยู่ตรงคอแฮะ” พันไมล์หรี่สายตาคู่คมมองเธอแล้วเอ่ยออกมา ทำให้ซินทำหน้ามุ่ยก่อนมือเล็กจะคว้าปกเสื้อช็อปเขาไว้ แล้วรั้งมันให้พันไมล์ก้มหน้าลง
“นี่ไง!” เธอว่า แล้วพยักพเยิดหน้าให้เขามองต่ำ
“ว้าว! วันนี้บราเธอสีขาวตะขอหน้าเหรอ คิดอะไรถึงชวนดูนมแต่เช้า” พันไมล์เอ่ยออกมาแล้วขยับยิ้มกริ่ม สายตาคู่คมที่สอดส่ายไปยังร่องอกของเธอ ทำให้ซินอดฟาดฝ่ามือใส่ต้นแขนชายหนุ่มไม่ได้
เพียะ!
“ดูนมอะไรเล่า! พี่มองต่ำกว่านั้นสิ ทำไมชอบทำตัวโรคจิตแบบนี้เนี่ย” เธอส่งเสียงเบาดุเขา ทำให้พันไมล์ขมวดคิ้วแล้วมองต่ำลงก็พบว่าวันนี้ยัยตัวเล็กไม่ได้สวมรองเท้าผ้าใบมาเรียน
“อ้อ! เธออัพส่วนสูงว่างั้น” คนที่เพิ่งสังเกตเห็นรองเท้าส้นเข็มสูงสามนิ้วของเธอเอาตอนที่เดินมาถึงคณะเอ่ยเสียงล้อเลียน
“ทีหลังมองให้ครบตั้งแต่ที่บ้านนะ ไม่ใช่ดูแต่ความยาวกระโปรงหนู” เธอว่าเสียงขุ่น แล้วเบือนหน้าหนี
“นี่งอนจริงดิ” นั่นทำให้พันไมล์กระตุกยิ้มน้อย ๆ
“ก็ไม่เชิงหรอก แค่พยายามจะทำความเข้าใจมนุษย์ผู้ชายค่ะ”
“เหรอ...” ชายหนุ่มเลิกคิ้วยียวนใส่
“ควีนครับ! วันนี้สวยเกินไปไหม พี่ไม่โอเคเลย กระโปรงมันไม่มียาวกว่านี้เหรอ” ทว่าขณะที่พันไมล์กำลังกวนประสาทยัยจิ๋วเล่น เสียงขององศาก็ทำให้ซินหันไปมองเขา ก็เห็นว่ารุ่นพี่หนุ่มเดินวนหน้าวนหลังเพื่อนสาวของเธอที่วันนี้ก็เซ็กซี่มาอีกแล้ว ยิ่งควีนสวมรองเท้าส้นเข็มมา เรียวขาของเธอมันก็ยิ่งโดดเด่นเมื่อถูกจับคู่กับกระโปรงสั้นเหนือเข่านั่น
“เฮ้ย! มึงไปวนน้องทำไมวะ เดี๋ยวก็สะดุดล้มกันหรอก” พันไมล์ส่งเสียงปรามเพื่อน ทำให้ควีนกับองศาเดินมาทางเขา
“มึงดูแฟนกูแต่งตัวดิ” องศาเอ่ยเสียงเซ็ง สายตาก็มองดูขาอ่อนนวลเนียนของแฟนสาว ก่อนจะเหลือบมองไปยังเด็กร่วมคณะที่เอาแต่มองมาทางเธอแล้วก็หันไปซุบซิบกัน
“น้องควีนจะเลิกฮอตกี่โมงวะนั่น”
“หุ่นอย่างกับนางแบบเลยว่ะ ทรงนี้หายากในคณะเรา”
“ควีนก็แต่งปกตินะ พี่องศายังไม่ชินเหรอ” ซินอยากจะเห็นใจองศาหรอกนะ แต่เพื่อนสาวคนฮอตของเธอนั้นมีความเป็นตัวเองสูงน่าดู เพราะควีนเธอเป็นเจ้าแม่แฟชั่นจ๋าสุด ๆ ไง
“ถูก! อย่ามาขวางทางความสวยของผู้หญิงค่ะ” เฌอปรางว่า
“พี่เบสท์ว่าใส่กระโปรงกลีบ ๆ ยังน่ารักกว่าค่ะ พี่ไม่ชอบแบบที่มันมีผ่าข้าง ๆ เลย เดี๋ยวกางเกงในออกทำไง” แต่ดูเหมือนว่าปัญหาการแต่งตัวจะไม่ได้มีแค่ควีนแล้วล่ะ เพราะบีเบสท์เองก็ทำหน้างอมาเช่นกัน
“ก็มันเปิดเทอมมานานแล้ว ตอนนี้ปีหนึ่งฟรีสไตล์เรื่องรองเท้ากระโปรงแล้วนะคะ เฌอก็อยากใส่แบบควีนดูบ้างนี่นา...สวยออก”
เฌอปรางให้เหตุผล ซึ่งบีเบสท์ไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น นี่ถ้าเมื่อคืนเธอไม่ได้กลับไปนอนที่บ้าน เช้านี้อย่าหวังเลยว่าเขาจะให้เธอใส่ไอ้กระโปรงสั้น ๆ นั่นมาเรียน ก้าวทีเหมือนกางเกงในจะออกเลย
“ไอ้ไมล์มึงดู! แล้วนี่...ทำไมมีแต่น้องหนูคนเดียวที่ดูเหมือนเดิมเลย” บีเบสท์กำลังจะหาแนวร่วม ทว่าพอหันมาเจอกับยัยตัวเล็กของกลุ่มเขาก็พบว่าวันนี้ซินยังสวมกระโปรงกลีบ ๆ มาอยู่เลย
“ต่างค่ะ พี่เบสท์ดูดี ๆ” ซินได้ยินบีเบสท์พูดมาแบบนั้นก็ให้เขามองเธอใหม่ ทำให้รุ่นพี่หนุ่มหรี่สายตามองเธออีกครั้งอย่างพิจารณา
“อืม...ทำผมใหม่เหรอ หรือแต่งหน้า? แต่ก็ไม่น่าใช่ หน้ายังใสปิ๊งธรรมชาติสร้างอยู่เลย คือ...พี่ว่าก็ปกติไหม พี่ไม่รู้อะ”
“ฮ่า ๆ นั่นไงไอ้เบสท์ยังหาไม่เจอเลย” ซึ่งคำตอบของบีเบสท์ก็ทำให้พันไมล์หลุดหัวเราะชอบใจออกมาทีเดียว
“พี่ไมล์!” ซินส่งเสียงดุ แล้วมองค้อนเจ้าของเส้นผมสีแดงเพลิง
“สรุปคือต่างตรงไหนอะ” บีเบสท์ย้อนถามซินที่ทำหน้าง้ำไม่เลิก
“รองเท้าหนูนี่ไง!” เธอว่าเสียงขุ่น
“อะ! รองเท้าเหรอ เอ้อ! เธอดูแบบว่า...สูงขึ้นนิดหน่อยใช่ไหม”
บีเบสท์ทำไม้ทำมือวัดส่วนสูงเธอ ทำเอาคนฟังถึงกับควันออกหู ยิ่งเหลือบไปเห็นว่าพันไมล์พยายามจะกลั้นขำ ซินก็ยิ่งอยากหยุมหัวเขาจริง ๆ ผู้ชายตาถั่วพวกนี้นี่มันจริง ๆ เลย
“อยู่ตรงนี้ไปเลยนะ ไม่ต้องไปส่งด้วย!” ว่าแล้วยัยตัวเล็กก็เชิดหน้าใส่ แล้วเดินลิ่ว ๆ ขึ้นตึกไปเลย
“อ้าวเฮ้ยยัยจิ๋ว! นี่งอนเหรอวะ ซิน! เธองอนพี่จริงดิ” พันไมล์เห็นว่าเธอไปไม่รอก็ได้แต่สาวเท้าตามไป