“ฉันเจ็บ!”
เธอพยายามยื้อแรงเอาไว้ แต่คนป่าเถื่อนตัวใหญ่ก็ไม่สน เขาลากเธอเข้าไปในบ้านได้สำเร็จ คีตามองรอบ ๆ ภายในบ้านที่เงียบสงัดราวกับเขาอยู่บ้านคนเดียว ขุนภาคลากคีตาไปยังด้านหลังของห้องครัว มีประตูอยู่หนึ่งบาน เขากระชากประตูออกก่อนจะเหวี่ยงร่างเล็กเข้าไปภายในห้อง
กลิ่นเหม็นอับตีขึ้นจมูก คีตามองรอบห้องที่สกปรก เต็มไปด้วยขี้ฝุ่นและหยากไย้ ทั้งตู้เก่า ๆ และของใช้มากมายที่อยู่ในนี้ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นห้องเก็บของ เธอตวัดสายตาหันมองขุนภาค เขาไม่เข้ามา อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าห้อง
“อยู่ในที่ที่ฉันให้อยู่”
“...”
“หน้าที่ของเธอต่อจากนี้คือทำงานที่ท่าเทียบเรือ เข้างานแปดโมงครึ่ง เลิกงานห้าโมงครึ่ง นอกจากเวลานั้นก็ต้องทำงานที่บ้านหลังนี้ แทนแม่บ้านคนเก่า”
“อะไรนะ!”
“...”
“ทำงานที่ท่าเทียบ ฉันพอเข้าใจนะ แต่ทำงานแทนแม่บ้านคนเก่า ฉันไม่เข้าใจ”
คีตาตวาดกร้าวออกมา จ้องหน้าเขาอย่างเกลียดชัง ไม่ต่างกับขุนภาค อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อกดสายตาดูแคลนมองเธอ
“ไม่เข้าใจก็เรื่องของเธอ หน้าที่ของเธอคือทำตามที่ฉันสั่ง”
“ฉันไม่ทำ! –โอ้ย!”
แต่ยังพูดไม่ทันจบ ฝ่ามือหนาก็พุ่งเข้ามาบีบสันกรามของเธอ สองมือของคีตายกขึ้นจับข้อมือหนาทันที ดวงตาสั่นระริกสบกับเขา แรงบีบเพิ่มมากขึ้นจนเจ็บที่แก้มเหมือนกระดูกแตกร้าวอย่างไรอย่างนั้น
ใบหน้าของขุนภาคจากที่ราบเรียบก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม เขาไม่ผ่อนแรงที่มือ และยิ่งเห็นหยาดใส ๆ คลอที่เบ้าตาของเธอ เขายิ่งสะใจ
“อย่าทำตัวเรื่องมาก ถ้าไม่อยากเดือนร้อน”
“อึก!”
เธอจับข้อมือของอีกฝ่ายแน่น ก่อนจะผลักออกได้สำเร็จ หญิงสาวหอบหายใจถี่รวนด้วยความโกรธ เธอเงยหน้ามองเขาเพราะความสูงของเราต่างกันมาก
“ถ้าคุณเกลียดฉันเพราะคำพูดของน้องสาวคุณ ก็จงรู้ไว้ว่าไม่มีอะไรเป็นความจริงเลยสักอย่าง”
คีตากำสองมือจนสั่นเกร็ง พ่นคำพูดยาวเหยียดออกมา ขุนภาคได้ยินแบบนั้นก็กระตุกยิ้มทันที เขาย่างกรายสองเท้าเข้าไปหาเธอ ร่างบางถอยหลังเรื่อย ๆ
“ไม่มีอะไรเป็นความจริงงั้นเหรอ?”
“...”
“ยังมีหน้ามาพูด”
เขาเปล่งเสียงรอดไรฟัน จ้องหน้าเธอ นัยน์ตาอำมหิตจนคีตาขนลุก แต่เธอก็เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่กลัว
“ใช่ ที่ใบบัวพูดไม่มีอะไรเป็นความจริงเลย น้องสาวของคุณต่างหากที่สร้างเรื่องทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องที่ตัวเองท้อง!”
และประโยคนี้ทำให้เจ้าของท่าเทียบเรือประมงฟิวส์ขาด เขาพุ่งเข้าไปผลักเธอจนร่างบางกระเด็นถอยหลังไปชนกับตู้เสื้อผ้าดังสนั่น ความเจ็บปวดแล่นปราดที่ร่างกายหญิงสาว คีตามองกำปั้นหนาของขุนภาคที่กำแน่นจนสั่นเกร็งราวกับอดกลั้นอารมณ์เดือดพล่านอยู่ข้างใน
ดวงตาสั่นไหวหลุบมองกำปั้นของขุนภาคอย่างหวาดกลัว ทว่าเขาไม่คิดจะเงื้อมันขึ้นมา ขุนภาคทำเพียงกำหมัดเอาไว้ข้างลำตัว
“เลวและยังไม่สำนึก คนอย่างเธอ ฉันไม่แปลกใจที่พ่อแม่จะไม่ยกอะไรให้สักอย่างเดียว”
และคำพูดนั้นจุดประกายไฟโทสะที่สุมแน่นอยู่ในอกปะทุออกมาทันที คีตาเกลียดเขา เกลียดที่ผู้ชายคนนี้พูดออกมาหน้าตาเฉยทั้งที่เขาไม่รู้อะไรเลย คีตากัดฟันตัวเองแน่น ดวงตาแดงก่ำแข็งกร้าว ขุนภาคเห็นแบบนั้นก็เหยียดยิ้มและพูดต่อ
“แทงใจดำเหรอ? จะว่าไปเธอก็น่าเห็นใจนะ”
“...”
“เป็นลูกแท้ ๆ ซะเปล่าแต่พ่อแม่ไม่รัก ยกสมบัติทั้งหมดให้ลูกบุญธรรม แล้วถ้าพ่อแม่ของเธอมองลงมาเห็นลูกสาวตัวเองเป็นฆาตกรฆ่าเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร ทั้งสองคงคิดถูกที่เขียนพินัยกรรมแบบนั้น—”
เพียะ!!!
คีตาไม่ปล่อยให้ขุนภาคพูดจบ เธอพุ่งเข้าไปและสะบัดฝ่ามือไปยังใบหน้าอีกฝ่ายเต็มแรงจนเขาหน้าหันไปอีกทาง ร่างกายของคีตาสั่นเทาเพราะโทสะ ทว่าขุนภาคหันหน้าค้างไว้แบบนั้นหลายวินาที
“ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่ามาพูด มันดูโง่—กรี้ด!!!”
ร่างบางลอยหวืดเหนือพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องดั่งสนั่น ร่างกำยำกระชากเธอและจับพาดบ่าตัวเองก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มราวกับมีเพลิงโทสะพวยพุ่งออกมาอย่างน่ากลัว มุมปากของเขามีเลือดซิบเพราะถูกตบเธอตบ สีหน้าเหี้ยมเกรียมไร้ความปราณีใด ๆ แม้อีกคนจะดีดดิ้นและร้องโวยวายแค่ไหนเขาก็ไม่ได้ยิน
เพราะความเจ็บที่ซีกแก้มทำให้ขุนภาคโกรธจนหูอื้อดับไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงลมหายใจที่ถี่รวนของตัวเอง เขาอุ้มคีตาพาดบ่า ศีรษะเธอห้อยลงพื้น ร่างกำยำเดินไปคว้าเชือกไนล่อนเส้นยาวหนามาไว้ในมือ ก่อนจะตรงดิ่งออกไปนอกบ้านและเปิดประตูรถกระบะคันใหญ่ของตัวเองก่อนจะยัดอีกฝ่ายเข้าไปเบาะหลัง
คีตาร้องไห้อย่างช่วยไม่ได้ เธอยอมรับว่ากลัวเขา รถยนต์ขับออกไปจากรั้วบ้านด้วยความเร็ว มุ่งหน้าไปยังท่าเทียบเรือ
“ฮึก จะทำบ้าอะไร ไอ้คนชั่ว ปล่อยฉัน!!!”
เมื่อถึงที่หมาย ขุนภาคเปิดประตูเบาะหลังและกระชากข้อเท้าของคีตาเมื่อเธอถอยหลังกรูดไปอยู่อีกฝั่ง ร่างเล็กถลาไปตามแรงทันทีเมื่อถูกลาก เขาใช้พละกำลังที่มีมากกว่าเพื่อให้ได้อยู่เหนือเธอ ขุนภาคอุ้มคีตาพาดบ่าตัวเองอีกครั้งและย่างกรายลงไปยังชายหาด พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำยิ่งทำให้ทะเลกว้างแห่งนี้ดูน่ากลัว
สายลมแรง ๆ พัดกระทบร่างกายของทั้งคู่ คีตาหัวห้อยลงพื้นแต่ก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกพาไปที่ไหน ขายาวของชายหนุ่มก้าวลงน้ำทะเลเรื่อย ๆ เขาอุ้มเธอและเดินลงไปในทะเลที่ลึกขึ้นจนหญิงสาวส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“ไม่นะ จะทำบ้าอะไร!!”
น้ำตาของเธอไหลย้อนกลับ ก่อนคีตาจะถูกเหวี่ยงร่างลงไปในน้ำทะเล เธอจมน้ำครู่หนึ่งและพาตัวเองลุกขึ้นยืนได้ เนื้อตัวเปียกโชกไปหมด ความลึกตรงนี้ประมาณหน้าอกของเธอ หญิงสาวจ้องหน้าอีกคนที่มองมาเช่นกัน
“คุณจะทำอะไร”
“สั่งสอน”
“ว้าย!”
เธอถูกกระชากข้อมือให้เดินตามเขาไปจนถึงเสาของสะพานปูนที่คีตาลงจากเรือเมื่อกลางวัน สะพานที่ยื่นออกไปนอกทะเล คลื่นแรง ๆ กระทบร่างกายของทั้งคู่ และความเหน็บหนาวของอุณหภูมิน้ำตอนกลางคืน เธอยื้อสุดแรงเท่าที่มีแต่ขุนภาคก็ลากคีตาไปถึงเสาต้นนึงของสะพานทันที
“จ...จะทำอะไร!”
เขาไม่ตอบ จับเธอหันหลังให้กับเสาและเอาเชือกไนล่อนที่ถือมาด้วยมัดร่างของหญิงสาวไว้กับเสาปูนของสะพาน เนื้อปูนที่ขรุขระบาดผิวเนื้อที่แขนและขาบอบบาง คนตัวใหญ่มัดลำตัวรวบกับสองแขนของคีตาไว้กับเสาจนแน่น ก่อนเขาจะก้าวถอยหลังและมองผลงานตัวเองอย่างพอใจ
“ฮึก ไอ้โรคจิต!! ปล่อยฉันนะ”
“โรคจิตกับฆาตกรปากดีมาเจอกัน มันก็สมน้ำสมเนื้อไม่ใช่เหรอ”
เขาพูดนิ่ง ๆ คีตาส่ายหน้าทั้งน้ำตา ขยับร่างกายไม่ได้เพราะถูกมัดแน่น คลื่นทะเลลูกใหญ่ซัดเข้าใบหน้าของเธอและถ้าดึกกว่านี้...น้ำมันต้องสูงขึ้น
“ฉันไปทำอะไรให้คุณ”
“ทำน้องฉัน ก็เหมือนทำฉัน”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรใบบัว! ฮึก”
น้ำตาของเธอไหลพราก ท้องฟ้ามืดสนิท ขุนภาคจ้องหน้าผู้หญิงที่เขาเกลียด และเขาสัญญากับน้องสาวตัวเองว่าจะทำให้คีตาหายไปจากอีกฝ่ายตลอดกาล และยิ่งนึกถึงคำพูดของคีตา...เธอบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรใบบัวก็นับว่าเลวแล้ว แต่ไอ้ประโยคที่บอกว่าน้องสาวของเขาไม่ได้ท้องตั้งแต่แรก ขุนภาครับไม่ได้ เขาจ้องหน้าเธอที่เอาแต่ร้องไห้ ก่อนจะหันมองน้ำทะเลที่ขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของท่าเทียบเรือประมงที่เปรียบเสมือนมาเฟียในพื้นที่ เขายกยิ้มก่อนจะเอ่ยออกไป
“ปล่อยให้จมน้ำตายแล้วค่อยมาแกะเชือก ส่วนร่างของเธอก็จมลงไปข้างล่าง กว่าจะลอยขึ้นมาก็อีกนาน”
“...”
“โชคดีล่ะ เผื่อจะจมลงไปเจอกระเป๋าของตัวเอง”
เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็หมุนตัวเดินขึ้นฝั่งโดยมีเสียงตะโกนของคีตาที่ห่างออกไปเรื่อย ๆ เธอส่ายหน้าและร้องไห้เหมือนจะขาดใจ ความหวาดกลัวเข้ากัดกิน แผ่นหลังของขุนภาคที่ไกลออกไปจนลับสายตาในที่สุด
“ฮึก ช่วยด้วย!!!”
เธอตะโกนสุดเสียง ทว่าในตรงนี้ไม่มีใครเลยนอกจากคลื่นทะเลและพระจันทร์บนฟ้า คีตากวาดมองผืนน้ำสีดำกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
เธอทำอะไรผิดนักหนา...หญิงสาวได้แค่คิดในใจอยู่แบบนั้น