ตอนที่ 6
เด็กของพี่
แม้จะโกรธเคืองอย่างไรที่เจ้าตัวบุกมารอยังลานจอดรถด้านล่างสำนักงาน แต่เมื่อเจอหน้าหล่อเหลาทิ่ยิ้มจนแก้มบุ๋มยืนอยู่ข้างพอร์ชคันงาม เกวลิน ก็ถอดถอนลมหายใจออกมาเล็กน้อย แต่ยังคงเอ่ยเสียงสูงอย่างตำหนิ
“ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย แล้วนี่เอารถใครมาขับ”
ชินชะงักมือที่เปิดประตูรถ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมายิ่งกว่าเดิม “รถของที่ผับครับ ใครทำยอดดื่มได้สูงสุดจะได้ขับฟรีเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
มีอย่างนี้ด้วยรึ?
“ไหนบอกว่าพี่เป็นลูกค้าคนแรก แล้วจะมียอดดื่มสูงสุดในร้านได้ยังไง” เธอถามกลับอย่างไม่จริงจังนัก เพราะรู้ว่ายังไงเจ้าเด็กโฮสต์นี่ก็ประจบไปงั้นแหละ ทั้งหล่อและเอาใจเก่งแบบนี้ไม่มีทางที่จะมีเธอเป็นลูกค้าคนแรกคนเดียวแน่นอน
“ว้า โดนพี่จับได้เลย”
ชิน หัวเราะแก้เก้อแล้วปิดประตูรถเบาๆ ก่อนจะอ้อมมานั่งฝั่งคนขับ แล้วจับมือนิ่มมาจรดริมผีปากกดจูบลงไปอย่างหนักหน่วง “คิดถึงพี่จะแย่ ไม่เจอแค่ไม่เท่าไหร่ใจผมเหมือนจะขาด”
...ปากหวานเหมือนเดิม
“คราวหลังอย่ามาที่นี่อีกนะ ยังไงเดี๋ยวพี่จะไปหาเอง”
เสียงรองประธานสาวเข้มขึ้น และชักมือกลับด้วยเกรงว่าคนข้างนอกจะผ่านมาเห็น แม้กระจกรถจะเป็นฟิลม์ดำก็ตาม
“ทำไมละครับ กลัวคนอื่นรู้เหรอว่าผมเป็นเด็กของพี่”
เจ้าเด็กโฮสต์เอ่ยเสียงอ่อยคล้ายตัดพ้อน้อยใจ
“ใช่”
“พี่ลินใจร้ายจัง”
ดูเอาเถอะ เขาคิดถึงจะเป็นจะตาย “แค่สองวันที่ไม่ได้เจอผมก็แย่แล้วนะ แล้วนี่พี่เล่นไม่รับสายไม่อ่านไลน์ผมเลย จะให้ผมทนรอได้ยังไงละครับ”
“ชินไม่เอาน่า อย่างอแงพี่กำลังเครียด”
นั่นแหละหน้าหล่อเหลาถึงได้ปรับสีหน้าใหม่ มือหนายอมละจากต้นขาขาว แล้วสตาร์ทรถเพื่อเคลื่อนตัวออก
“โอเคครับ เดี๋ยวไปหาอะไรอร่อยๆกัน พี่จะได้หายเครียด”
ปรับโทนเสียงได้เร็วดีชะมัด...
“ว่าแต่เอารถหรูของผับมาขับแบบนี้จะดีเหรอ ไม่ใช่ของตัวเองเผื่อไปเฉี่ยวชนอะไรขึ้นมา ทางร้านจะไม่ว่าเอาเหรอ?”
เธอหันมาถามต่อ นั่นทำให้ชินอมยิ้มออกมา
“ไม่เป็นไรนิครับ รถมีประกันอยู่แล้ว”
“คราวหลังถ้าจะรับพี่เอารถตัวเองมาดีกว่านะ ไม่งั้นพี่ไม่นั่งนะ หรือถ้าไม่สะดวกก็นั่งแท็กซี่มาแล้วมาเบิกกับพี่ก็ได้”
เอารถตัวเองมางั้นเหรอ? ชินครุ่นคิดเล็กน้อย
“ได้ครับ”
กระนั้นเขาก็ตอบรับสั้นๆ เพื่อให้แม่เสือสาวสบายใจ
“.....”
เกวลินลอบมองหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม วันนี้ชินอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตฟ้าสะอาดกับกางเกงยีนส์สีเข้มดูสุภาพและยังคงความหล่อเหลาน่ามอง เพราะเพียงนาฬิกาเรือนหรูที่ประดับบนข้อมือนั้นก็บ่งบอกรสนิยมได้เป็นอย่างดี
“ขอถามเรื่องส่วนตัวได้มั้ย?”
“ครับ”
“ทำไมถึงมาทำงานแบบนี้?”
ชายหนุ่มอึ้งไปอีกครั้ง ดวงตาคู่สีนิลภายในแว่นกันแดดสีชาครุ่นคิดอยู่เพียงครู่ “ผมอยากมาหาประสบการณ์ทางด้านนี้ครับ พอดีเพิ่งเรียนจบระหว่างรอศึกษางานก็ลองทำดูก่อน”
เขาไม่ได้โกหกเสียหน่อย....
“อืม ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินใช่มั้ย?”
ลูกค้าสาวทวนคำถาม เพราะปกติแล้วคำตอบยอดฮิตของเด็กแนวๆนี้ส่วนใหญ่จะต้องใช้เงินในการรักษาพ่อแม่ที่ป่วย หรืออาจต้องการเงินก้อนไปใช้หนี้ที่บ้าน หรือต้องการเงินเก็บ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด
เพราะนี่ก็คืองานสุจริต ไม่ได้ไปโกงใครมาเสียหน่อย ลูกค้าที่จ่ายก็เต็มใจที่จะให้ และเกวลินก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีตรงไหนเลย เพียงแต่เหตุผลของชินฟังดูแตกต่างจากคนอื่นๆ
“ก็มีส่วนบ้างเล็กน้อย”
ชินตอบสั้นๆอย่างเสียไม่ได้
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องมาดูแลพี่ขนาดนี้ก็ได้นะชิน มันจะทำให้ชินเสียเวลาในการไปดูแลลูกค้าคนอื่นๆเปล่าๆ และจะเสียรายได้ตรงอื่นโดยใช่เหตุเพราะพี่”
เธอเริ่มจะห่วงเขาขึ้นมา เพราะเกรงว่าเขาจะต้องมีดูแลและเสียเวลากับเธอมากเกินไป ทว่าชินกลับหัวเราะออกมา
“ไม่หรอกครับ บอกแล้วไงผมรับลูกค้าทีละคน ตอนนี้ผมดูแลพี่อยู่ และอยากจะดูแลพี่คนเดียว ..อย่าคิดแทนผมเลยครับ ถ้าผมทำให้พี่ลินสบายใจไม่ได้ ผมเองนั่นแหละจะถูกหักเงินเดือน"
นี่น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะหญิงสาวอึ้งไปสักพัก
“งั้นเหรอ?”
“ครับ”
“แอดร็อคเคี่ยวกับพนักงานขนาดนั้นเลยเหรอ? อยากจะเห็นหน้าผู้บริหารที่นั่นจัง”
เกวลินรู้สึกคันปากขึ้นมา แม้จะเคยคุยกับผู้จัดการผับแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยหน้าค่าตาของเจ้าของเลยสักครั้ง พอรู้ว่าการบริหารผับลักษณะนี้ต้องเคี่ยวลากดินพอควรไม่งั้นไปไม่รอด และเหมือนเจ้าของเองน่าจะทำธุรกิจสีเทาที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลพอควร
ชินหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“อยากเจอเขาขนาดนั้นเชียวเหรอครับ”
ถ้าเจอ ...แล้วเธอจะทำสีหน้ายังไง เขาอยากจะรู้เหมือนกัน
“พูดไปยังงั้นแหละไม่อยากเจอหรอก”
“อ้าวทำไมละครับ”
ชายหนุ่มหน้าเจื่อนลงอีกครั้ง เหมือนเด็กน้อยที่โดนผู้ใหญ่ปฎิเสธ นั่นทำให้ลูกค้าสาวคนสวยหัวเราะออกมา
“ก็ได้ข่าวว่าเขาน่าจะเป็นพวกมาเฟีย และคนทำธุรกิจแบบนั้น....”
คำพูดของเธอชะงักไปเพียงเท่านั้น นั่นทำให้ชินเอียงหน้ากลับมามองเล็กน้อย
“ทำไมเหรอครับ?”
“ไม่รู้ซิ บางครั้งพี่เองก็อยากใจแข็งในการทำธุรกิจเหมือนกันนะ รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอและใจดีเกินไปทำให้เรื่องบางเรื่องมันสะดุดและไม่เด็ดขาดเท่าไหร่”
น้ำเสียงของเธอตึงเครียดขึ้น เมื่อหวนกลับมานึกถึงเรื่องของตัวเอง คงเป็นอย่างที่เขาว่ากันไว้ อะไรก็ตามขาวสะอาดเกินไปย่อมไม่ดี บางครั้งเราต้องเทาๆบ้าง
“กริลล่าเอสเตทเป็นธุรกิจที่ดีอยู่แล้วครับ”
ชินเอ่ยอย่างจริงจัง จนหญิงสาวต้องหันกลับไปมองอย่างชื่นชม ด้วยพอรู้ว่าคนที่จะมาเป็นเด็กโฮสต์นั้นอย่างไรก็ต้องมีความรู้รอบตัวพอสมควร จึงจะคุยกับลูกค้ารู้เรื่อง
และเด็กโฮสต์ระดับท็อปก็คงจะเป็นเช่นนั้น
“ขอบใจนะชิน ที่ให้กำลังใจพี่”
แม้คำพูดนี้ของเขาจะเพียงเพื่อปลอบใจก็ตาม แต่เธอก็รู้สึกดีและผ่อนคลายขึ้นจริงๆ อาจเป็นเพราะความสดใสและใส่ใจในเรื่องราวของเธอด้วยส่วนหนึ่งทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดในการจะเล่าหรือระบายออกไป
“ผมพูดจริงครับ เชื่อซิ! เดี๋ยวจะมีพันธมิตรดีๆเข้ามาเสนอโปรเจคและเงินทุนให้พี่อย่างแน่นอน”
น้ำเสียงเขาหนักแน่น จนหญิงสาวต้องยิ้มออกมา
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พี่จะฉลองใหญ่กับชินเลย”
ชินอึ้งไปสักพัก ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“....พี่พูดแล้วนะครับ”
*****************