“ตัดเธอออกจากของเดิมพันซะค่าย ถ้ามึงไม่ทำกูจะจัดการเอง”
เสียงทุ้มออกคำสั่งคนที่นั่งอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เป็นอย่างที่ชายหนุ่มคิดเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน หลังกลับจากโกดังน้องชายของเขาก็รีบมาบอกด้วยความร้อนใจ
“ทำแบบนั้นไม่ได้ เธอไม่ใช่ของเดิมพันฝั่งเรา” คนบนโต๊ะทำงานตอบตามตรง มันคือกติกาในเมื่อฝั่งท้าวางเดิมพันมา ต่อให้เป็นถึงเจ้าของสนามก็ไม่มีสิทธิ์ตัดรายชื่อออกได้ตามใจ
“กูไม่ให้ใครทั้งนั้น” คนตัวสูงกำมือแน่นตวาดเน้นชัดทุกประโยค สายตาคมจ้องหน้าพี่ชายที่กำลังใช้นิ้วหมุนควงด้ามปากกาด้วยท่าทางที่จริงจัง
“หวงทำไม? มีสติหน่อยก็แค่หน้าเหมือนแต่ไม่ใช่คนเดียวกัน” ค่ายคิดหาวิธีอยู่นานว่าจะทำยังให้ให้ล่ากลับมาลงสนามอีกครั้งกระทั่งเจอกับเธอที่เป็นของเดิมพันจากเดม่อน เพียงแค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าถ้าน้องชายเขาได้เห็นคงอยู่ไม่สุข
“ไม่ได้หวง แต่คนนี้กูต้องได้” ลมหายใจร้อนถูกพ่นออกมานับครั้งไม่ถ้วนอย่างขัดใจ เพราะเขาไม่ต้องการให้เธอไปเป็นของเดิมพันของใครหน้าไหนทั้งนั้น
“ถ้าอยากได้ก็แข่งเอา สำหรับมึงมันไม่ใช่เรื่องยากหรอกล่า เคารพกติกาของสนามหน่อย”
“มึงจงใจ?”
“เธอเป็นของเดิมพันที่เดม่อนเอามาวาง จะให้กูจงใจเรื่องอะไร”
“ได้ค่ายแมตช์นี้กูลง ใส่ชื่อไปด้วย” ทั้งที่อยากครอบครองจนยอมกลับมาลงแข่งในรอบเกือบสองปี ทว่าพอนึกถึงตอนที่ได้มองใบหน้าของเธอใกล้ๆ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่แพ้กัน
“ไม่คิดว่าเด็กนั่นจะถูกใจมึงถึงขนาดทำให้หวนกลับมาลงสนามได้”
“คนที่ไล่ให้กูไปดูของเดิมพันคือมึง สมใจแล้วใช่ไหมที่เห็นกูกลับมาลงแข่ง”
“อ่า! วิธีของกูดันได้ผลซะด้วยสิ”
“แค่แมตช์นี้ค่าย”
ร่างหนานั่งกระแทกลงบนโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์ พลางนึกถึงใบหน้าหวานที่เพิ่งเจอก่อนจะมีภาพของอีกคนทับซ้อนขึ้นมา ล่าได้แต่ขุ่นคิดในใจว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครการที่ได้เธอมาไว้ข้างกายมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
“มึงจะเอาอะไรไปวางเดิมพันกับมัน” ค่ายถามน้องชายที่ทำหน้าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่สักอย่างในหัว คำถามเรียกความสนใจให้เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาตอบเสียงเย็น “RS7”
“มึงจะเอาลูกรักตัวเองไปแลก? คิดใหม่อีกทีดีไหมล่า” ถึงกับต้องรีบเบรกเอาไว้ จริงอยู่ที่อยากเห็นล่ากลับมาลงสนามแต่ค่ายไม่คิดว่าน้องชายของตัวเองจะเอา Audi RS 7 Sportback ที่มีราคามากกว่าสิบล้านยังไม่รวมแต่งยกคันไปวางเดิมพัน
“มึงคิดว่ากูจะแพ้หรือไงค่าย”
“แล้วถ้ามึงแพ้?”
“ในชีวิตกูเคยแพ้แค่ครั้งเดียวด้วยวิธีสกปรกของไอ้เวรนั่น”
ชายหนุ่มพยักหน้าไม่ค้านอะไรต่อเพราะตัวเขาเองก็ค่อนข้างมั่นใจ ถ้าน้องชายเขาอยากจะได้ผู้หญิงคนนั้นมากถึงขั้นยอมลงแข่งแปลว่ามันต้องได้ เพราะไม่มีของเดิมพันชิ้นไหนในสนามที่ล่าอยากได้แล้วไม่ได้
หนึ่งชั่วโมงก่อนลงแข่ง ชายหนุ่มอยู่ในชุดนักแข่งดูดีไร้ที่ติตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังเตรียมตัวเสร็จร่างสูงก็นั่งรอเวลาโดยไม่มีอาการตื่นเต้นหรือกังวล เสียงประตูถูกผลักเข้ามาเรียกความสนใจจากเจ้าของสายตาเย็นชาให้หันมอง ก่อนจะปรากฏร่างสูงของคลื่นน้องชายคนเล็กจากตระกูลทรัพย์หิรัญสกุลเดินเข้ามาภายในห้อง
“มึงคิดจะทำอะไร” ไม่พูดมากความพอเข้ามายืนในห้องคลื่นก็เค้นถามพี่ชายทันที หลังจากได้เห็นผู้หญิงที่เป็นของเดิมพันมาแล้วเขารู้สึกใจคอไม่ค่อยดีสักเท่าไรที่เห็นล่ากลับมาลงสนามเพราะเธอ
“แค่อยากซ้อมตีน” คนถูกถามตอบอย่างไม่ใส่ใจกับท่าทางหัวเสียของน้องชาย
“สาบาน?”
“จะเค้นเอาอะไร” ล่าเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกดเสียงต่ำตั้งคำถามกลับ
“มึงกลับมาลงสนามเพราะผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนพี่เทียใช่ไหมไอ้ล่า” มือหนากำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูนขึ้น ร่างหนาแสดงความไม่พอใจออกมาผ่านสายตาคมที่แข็งกร้าว ก่อนจะถามน้องชายอย่างเอาเรื่อง “ใครให้มึงพูดชื่อนั้น”
ถึงจะเป็นคำต้องห้ามแต่ในเวลานี้คลื่นต้องพูดเพื่อเตือนสติอีกคน เพราะล่าไม่ลงสนามมานานเกือบสองปีการที่ตัดสินใจแข่งแปลว่าอยากได้ของเดิมพันมากพอตัว และคลื่นจะไม่สนใจเลยถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนคนที่เคยทิ้งพี่ชายของเขาไป
“ถึงจะเหมือนแต่คนละคนนะล่า เขาไม่รู้เรื่องของมึงด้วยซ้ำ” คลื่นเตือนสติ
“ทำไม มึงคิดว่ากูจะทำอะไร”
“อย่าทำร้ายผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่หน้าเหมือน เธอน่าสงสารมึงก็เห็น รู้ว่าถูกหลอกมาทำไมถึงไม่ช่วย”
“มึงอย่ายุ่งเรื่องของกูนักคลื่น อะไรที่กูอยากได้ก็ไม่ต้องมาขัด” เสียงทุ้มต่ำบอกด้วยอารมณ์เดือดดาลเมื่อน้องชายเอาแต่เตือนและเอ่ยถึงอดีตของตัวเองซ้ำๆ ทั้งที่เคยห้ามไม่ให้พูดถึง
“มึงไม่ต้องห่วงกูแค่ถูกใจ ไม่ได้เอามาแทนที่ใคร” ล่ากัดฟันกรอดตอบปัดความรำคาญ ทำให้คลื่นถอนหายใจหนักๆ ถึงจะได้ยินคำตอบแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คลายความกังวลเพราะรู้นิสัยพี่ชายตัวเองดี
“เธออุตส่าห์ขอร้องให้ช่วยขนาดนั้น คนดีๆ อย่างกูจะใจจืดใจดำได้ยังไง” พูดจบคนในชุดนักแข่งก็ผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะเอนหลังพิงไปกับโซฟาตัวใหญ่ด้วยท่าทางผ่อนคลายขึ้น เมื่อคิดถึงใบหน้าสวยที่กำลังจะกลายเป็นของเดิมพันของเขา
“ดีกับผี กูสงสารเธอชิบหายที่เจอคนอย่างมึง” คลื่นได้แต่ส่ายหน้ากับประโยคนั้นของร่างหนาบนโซฟา
“พูดเหมือนเจอมึงแล้วจะโชคดี ไม่ว่าจะเป็น มึงหรือไอ้ค่าย ต่างก็เป็นฝันร้ายของเธอทั้งนั้น” ล่าไม่ได้พูดอะไรผิดไป ใครก็มีทั้งด้านที่ดีและเลวกันทั้งนั้น การที่เธอมาอยู่ในสถานที่แบบนี้จะหวังให้เจอคนดีๆ ช่วยคงเป็นเรื่องยาก
“จะทำอะไรก็ทำ แต่ขออย่างเดียวอย่าทำร้ายเธอเพียงเพราะหน้าเหมือนคนที่เคยใจร้ายกับมึง” พอห้ามไม่ได้คลื่นจึงเตือนอีกครั้ง “อีกอย่าง”
“อะไรอีกวะ!!” คนหัวร้อนง่ายสบถถามใส่อารมณ์เพราะคำพูดเตือนวกไปวนมาที่เขาไม่อยากได้ยิน
“อย่าหวั่นไหวเพราะเธอดูคล้ายคนเก่า”
“พูดเหี้ยอะไรเยอะแยะ กูรำคาญ”
“สักวันมึงจะเก็บคำพูดของกูไปคิด”
“ไม่มีทาง” ล่าเค้นหัวเราะในลำคอพลางส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าน้องชายของตัวเองคิดแบบนั้นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอหน้าเหมือนคนในอดีตที่เคยสร้างบาดแผลเอาไว้แล้วมีเหตุผลอะไรที่เขาต้องหวั่นไหว
“ดี ทำเหมือนที่มึงเคยทำ จบที่เตียง ไม่ซ้ำ ไม่ติดต่อ”
“มึงก็รู้ว่ากูกลับมาลงสนามเพราะอยากได้ คิดว่ามันจะจบแค่ครั้งเดียวหรือไง”