ตอนที่1

981 Words
เธอชื่อบุษบามินตรา ใช่ๆ ‘นางสาวบุษบามินตรา วรารัตน์’ ที่ชื่อโคตรเชยแถมยังยาวจนทำให้ใครๆ สับสนว่าไหนชื่อไหนนามสกุลเหมือนนางเอกในละครน้ำเน่าหลังข่าวที่แม่เสพติดตอนท้องเธอนั่นแหละ และตอนนี้ชีวิตของเธอก็เปรียบเหมือนละครน้ำเน่า ต้องเป็นละครน้ำเน่าภาคค่ำช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เสียด้วยเธอมั่นใจ! เน่ากว่าละครช่องน้อยสีมากสีก็ชีวิตเธอตอนนี้นี่แหละ บุษบามินตราสูดลมหายใจเข้าปอดลึกในยามที่นั่งกำชายผ้าห่มนวมสีขาวแนบอกตนเองแน่น แน่นอน... ภายใต้ผ้าห่มนั่นเป็นร่างกายเปลือยเปล่า เปลือยแบบไม่ใส่อะไรเหมือนเพิ่งเกิดของเธอเลย! สมองเธอขาวโพลน ว่างเปล่า เซลล์สมองที่มีน้อยนิดของเธอนั้นคาดว่าน่าจะโดนแอลกอฮอล์ที่ซัดไม่ยั้งเมื่อคืนนี้ทำลายไปจนหมดสิ้น เพราะมันทำให้เธอจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ตอนนี้นอกจากร่างกายที่เมื่อยขบ อ่อนล้าไปทั่วร่างแล้ว เธอก็ไม่สามารถจำได้ว่าอะไรนำเธอมาสู่สภาพเช่นนี้ได้ ที่จำได้ก่อนจะมาลงเอยอย่างนี้ บุษบามินตรากำลังนั่งดื่มเหล้าคนเดียวในคลับของโรงแรม หลังจากที่ยืนยิ้มเป็นนางงามและทำหน้าที่เพื่อนที่แสนดีด้วยการส่งให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเพื่อนสนิทของเธอทั้งคู่เข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างมีความสุข ขณะที่เธอหน้าชื่นอกตรมขื่นขมไส้ไหม้ ทำตัวเป็นเพื่อนสนิทที่แสนดีจนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีและต่อด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แต่เธอไม่อยากอยู่ร่วมสนุก หรือดูเจ้าบ่าวเจ้าสาวโชว์หวานใส่กัน เลยหลบมุมไปนั่งกินเหล้าเคล้าน้ำตาเงียบๆ ในคลับบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม แน่นอนเธอไม่กลัวเมา เจ้าบ่าวเจ้าสาวออกเงินจ่ายค่าห้องพักที่นี่ให้เธอ หมดปัญหาเมาแล้วคลานกลับบ้านไม่ได้จนอาจนำไปสู่การเกิดเหตุการณ์ร้ายไปชั่วชีวิต แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิด เพราะสุดท้ายชะตาชีวิตแบบนั้นก็วิ่งเข้ามาหาเธอโดยไม่ทันตั้งตัว! “เลิกทำหน้าแบบ...” น้ำเสียงทุ้มที่ดังขึ้นมาจากข้างๆ และนั่นทำให้บุษบามินตราที่เพิ่งรู้ตัวว่าเวลานี้เธอไม่ได้อยู่บนเตียงเพียงลำพังหันขวับไปมองคนพูดทันที ทว่าอีกฝ่ายไม่สนใจเธอ เขาบีบเสียงแกล้งดัดเลียนแบบลักษณะการพูดของเธอแล้วจีบปากจีบคอเอ่ยต่อไปว่า “...ตายแล้ว ทำไมฉันถึงได้มาอยู่ตรงนี้ แล้วเสื้อผ้าของฉันหายไปไหนกัน เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่เนี่ย” “...” “นี่มันหมดยุคสมัยละครน้ำเน่าแล้วนะ” เขากลับมาพูดด้วยน้ำเสียงปกติของตัวเอง “อายุก็ตั้งขนาดนี้แล้วจะมาทำตัวไม่รู้อะไรๆ ได้ยังไง” แล้วอายุยี่สิบหกมันต้องรู้อะไรๆ ขนาดไหนกันล่ะ! “เอ๊ะ!” บุษบามินตราร้องขึ้นอย่างทนไม่ไหว สำหรับผู้ชายคนนี้ เธอไม่เคยมีความเกรงใจเคารพอะไรเขาทั้งสิ้น ถึงจะห่างกันไปหลายปี แต่เธอก็จำเขาได้ไม่ลืม บนโลกใบนี้ถ้าเปรียบเธอเป็นนางเอก หมอนี่ก็เป็นตัวร้าย ตัวร้ายสุดโฉด! ต้นแบบผู้ร้ายของโลกใบนี้เลย! ทั้งปากหมา หน้าด้าน ไร้มารยาท แถมยังเอาแต่ใจตัวเอง หนำซ้ำยังเป็นโคตรพ่อโคตรแม่จอมเผด็จการ ก็หมอนี่นี่แหละ ศัตรูตัวร้ายที่เธอหมายหัวเกลียดขี้หน้าเขาไปตลอดกาล! พี่ชายคนโตของคนที่เธอแอบชอบมาแสนนาน...พอๆ กับที่เธอมองเขาเป็นอริมานานยิ่งกว่า ...วชรวรรธ! “ไม่พอใจอะไร ก็พูดความจริง” เขาไหวไหล่ ขณะที่บุษบามินตราขึงตาดุใส่เขา ก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเป็นหรี่ตามองแคบลงด้วยความแปลกใจเมื่อสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเปลือยท่อนบน แผงอกขาวๆ และตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อทำให้ใจเธอเต้นกระหน่ำโครมครามขึ้นมาทันที ไม่ใช่ว่าเธอหวั่นไหวนะ เธอกำลังหวาดกลัวต่างหาก อย่าบอกนะว่าเธอกับหมอนี่... “นี่ฝีมือพี่หรือเปล่าเดย์” เธอถามเขาเสียงห้วน ขณะที่กอดอกตัวเองแน่น และนั่นทำให้คนถูกถามแสร้งทำสีหน้าตกอกตกใจใส่เธอ เขาเอนตัวออกห่างขณะกอดอกล่ำๆ ของตนเองแน่น ซ้ำยังกวนตีนเธอด้วยการทำสีหน้าหวาดผวาอีกด้วย “ทำไมไม่ลองถามตัวเองล่ะว่าทำอะไรพี่กันแน่มิ้นต์ ร่างกายอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของพี่ เกิดมาจนจะสามสิบพี่ไม่เคยถูกผู้หญิงข่มขืนมาก่อนเลย พี่อาจจะต้องไปแจ้งความ ถึงเธอจะเป็นน้องสาวแถวบ้าน แต่อาชญากรก็คืออาชญากร คนผิดจะต้องได้รับการลงโทษ ถอยไป ไม่ต้องมาแตะต้องร่างกายพี่! คิดจะทำลายหลักฐานหรือไง!” ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งเสียงดัง ประหนึ่งกำลังเมามันในอารมณ์ “นี่!” เธอตะคอกเสียงดังใส่คนที่ยังเอาเรื่องซีเรียสมาล้อเล่น ไอ้คนหน้าด้านตอแหล เธอไม่เชื่อที่หมอนี่พูดหรอกว่าเธอเป็นคนข่มขืนเขา ในกรณีนี้จะต้องสลับกันอย่างแน่นอน! “คนที่เสียหายมันคือมิ้นต์นะ พี่เดย์จะมาโวยวายอะไร คนอะไรกันเห็นมิ้นต์เมาแล้วไม่มีสามัญสำนึก แถมยัง...แถมยัง... โอ๊ย!” บุษบามินตราร้องลั่นอย่างสติแตก มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นขยี้ผมตัวเองแรงๆ และดึงทึ้งอย่างไม่กลัวเจ็บ “คนอย่างพี่นี่ชั่วจริงๆ พี่ทำกับมิ้นต์อย่างนี้ได้ยังไง มิ้นต์กับพี่รู้จักกันมาทั้งชีวิต พี่ยังทำอะไรมิ้นต์ลงได้ยังไงกัน นี่มิ้นต์เป็นน้องพี่นะ” “ก็แค่น้องสาวแถวบ้าน คนละสายเลือดกันเลยอะ...” เขาพึมพำแก้ตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD