หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนหนานุ่มพร้อมด้วยอาการเมื่อยขบไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะตรงกลางกายสาวที่แค่ขยับก็เท่ากับกระทืบ เจ็บจนแทบกรีดร้อง แล้วไหนจะอาการปวดหนักๆ ไปทั้งศีรษะนั่นอีก เธอยกแขนที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาออก วางนิ้วนวดคลึงบนขมับเบาๆ พลางสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ห้องสีเทาหม่นช้าๆ เดชะกรรมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหน
“อือ....ปวดหัวจัง”
แม้สติจะยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็พอจำได้รางๆว่าเมื่อคืนเธอนั่งดื่มที่ผับกับเพื่อนสนิทนานมาก ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายแวะเวียนมาชนแก้วด้วยหลายต่อหลายคน จากนั้นก็....
“เฮ้ย! โอ๊ย! ภาพตัดไปตอนไหนเนี่ย”
คนตัวเล็กดีดเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที เมื่อความทรงจำต่างๆ นานาเริ่มฉายขึ้นมาทีละฉากทีละตอน พอเปิดผ้าห่มออกดูพบว่าทั้งร่างกายของเธอนั้นเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิด ดวงหน้าตื่นตระหนกเบิกตากว้างกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง ก่อนจะหยุดอยู่ตรงพื้นที่บนเตียงนอนข้างๆ ตัวเอง
บร๊ะเจ้า!
หัวใจดวงน้อยหล่นวูบไปอยู่ปลายเท้าเมื่อพบว่าข้างกายมีชายหนุ่มหุ่นล่ำนอนคว่ำอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ผ้าห่มผืนหนาเลื่อนไปกองอยู่บนเอวสอบของเขา เผยให้เห็นสภาพเปลือยกายไม่ต่างกันกับเธอ โชคดีชะมัดที่เขายังหลับสนิท
‘เอส ใช่เขาชื่อว่าเอส’
แม้ไม่ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ แต่จำได้รางๆ ตอนที่ผู้หญิงสวยคนหนึ่งร้องเรียกชื่อเขา จากนั้นหล่อนก็วิ่งเข้ามาคลอเคลีย ก่อนที่ทั้งคู่จะลากกันออกไป แต่ทำไมเขามาอยู่บนเตียงกับเธอได้เล่า