วันต่อมา...
หลังจากที่เธอตื่นนอนในเวลาเจ็ดโมงเช้าก็รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านเพื่อจะเตรียมตัวทานอาหารเช้ากับครอบครัว
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณแม่" พอเธอเดินเข้ามาในห้องอาหารเห็นแม่ของตัวเองที่กำลังยืนกำลังสั่งงานแม่บ้านอยู่
"ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจังเลยลูก วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ"
"หยุดก็จริงค่ะ แต่ว่าต้องรีบตื่นขึ้นมาทำงาน"
"ครูสั่งงานเยอะเหรอลูก"
"ก็ไม่เยอะหรอกค่ะ แต่พอดีว่าอยากทำให้เสร็จก่อนถึงกำหนดวันส่ง"
"แม่กับลูกคุยอะไรกัน"
เธอที่กำลังยืนคุยกับแม่ของตัวเองอยู่ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา ซึ่งนั่นเป็นเสียงของพ่อของเธอนั่นเอง
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อ"
"คุยอะไรกันอยู่เหรอลูก"
"คุยเรื่องเรียนค่ะ" เธอตอบพ่อออกไปแล้วเดินมานั่งลงในที่ประจำของตัวเองในโต๊ะอาหาร
"อีกไม่นานลูกสาวของพ่อก็ต้องไปอยู่ในที่แสนไกลแล้ว ไม่ลองคิดดูอีกทีเหรอลูก"
"คิดดีแล้วค่ะ หนูอยากไปเรียนที่มหาลัยนั้นจริง ๆ พอจบออกมาแล้วจะได้มาช่วยงานคุณพ่อไงคะ"
"พ่อไม่ได้คิดให้ลูกมาช่วยทำเลยนะ ถ้าหนูไม่ชอบงานสายนี้พ่อก็ไม่ได้บังคับ"
"หนูเต็มใจค่ะ"
"ลูกสาวของพ่อน่ารักจริง ๆ ถ้าหนูไปพ่อต้องคิดถึงหนูแน่ ๆ เลย"
"ถ้าคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไปหาหนูสิคะ ที่นั่นไม่ไกลจากไทยมากเท่าไหร่ นั่งเครื่องก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง"
"แล้ววันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอคะ ทำไมยังไม่แต่งตัว"
"คุณลืมแล้วเหรอวันนี้วันเสาร์นะ จะให้ผมไปทำงานทุกวันก็คงไม่ไหว"
"ขอโทษทีค่ะพราวก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย ก็ปกติเห็นคุณจะวันไหนก็ไปทำไม่ได้หยุดสักวัน"
"พอดีช่วงนี้งานไม่ค่อยหนักเท่าไหร่เสาร์อาทิตย์ก็เลยไม่ต้องไป"
"แล้วนี่ลูกรู้หรือยังว่าตาสิบจะไม่เรียนต่อ"
"คะ นับสิบแล้วเหรอคะคุณแม่"
"ใช่ลูก เมื่อวานป้าของหนูโทรมาเล่าให้แม่ฟังว่าตาสิบบอกว่าไม่อยากเรียนต่อ จนโดนคุณลุงดุใส่อย่างแรงเลย"
"เมื่อวานก็อยู่ด้วยกันจนดึก ทำไมไม่เห็นบอกเรื่องนี้หนูนะ แล้วทำไมนับสิบถึงไม่อยากเรียนต่อคะเขาได้บอกเหตุผลไหม"
"ก็แค่บอกว่าไม่อยากเรียนแค่นั้น ป้าของหนูเลยอยากจะให้หนูเกลี้ยกล่อมตาสิบเรียนต่อให้หน่อย"
"เดี๋ยวหนูจะลองคุยกับเขาดูค่ะ แต่ไม่รู้นะว่าเขาจะยอมฟังหนูหรือเปล่า"
"จ๊ะลูก"
หลังจากที่คุณแม่พูดเสร็จเธอก็นั่งทานข้าวตรงหน้าพร้อมกับพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ให้กับพ่อกับแม่ฟังอย่างสนุกสนาน
.....
ครืดดด ครืดดด
เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือไปควานหาโทรศัพท์หลังจากที่ได้ยินเสียงของมันดังขึ้น พอเห็นแล้วก็หยิบขึ้นมาเปิดดู พบว่ารายชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอคือแม่ของเขา เขาจึงยิ้มออกมาพร้อมกับกดรับสายทันที
"ครับม๊า โทรมาอะไรแต่เช้าครับ"
(ไม่เช้านะเจ้าลูกชาย ตอนนี้สิบโมงกว่าแล้วยังไม่ตื่นอีกเหรอเนี่ย)
"เพิ่งตื่นตอนได้ยินเสียงโทรศัพท์จากม๊านี่แหละครับ แล้วโทรมามีอะไรเอ่ย"
(แค่จะถามว่าอีกไม่ถึงเดือนปิดเทอมแล้ว จะกลับมาหาม๊าที่บ้านไหม)
"ขอดูก่อนได้ไหมครับ เดี๋ยวใกล้ ๆ ผมจะให้คำตอบอีกที"
(ปิดเทอมตั้งนานยังต้องขอดูก่อนอีกเหรอลูก)
"ผมว่าจะหาที่เรียนต่อครับ"
(แล้วไม่กลับมาเรียนที่เชียงใหม่เหรอ ที่นี่ก็มีมหาลัยดัง ๆ และดีอยู่มากนะ)
"แต่ผมชอบใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มากกว่าน่ะสิครับ"
(ถ้าได้ที่เรียนแล้วก็อย่าลืมบอกม๊านะ)
"ครับ แล้วนี่พี่พีทกับป๊าไปไหนครับ ได้อยู่กับม๊าไหมผมขอคุยกับทั้งสองคนหน่อยสิ"
(ไม่อยู่ทั้งสองคนเลยลูก พอดีเมื่อเช้าตรู่มีคนโทรให้ไปดูการประมูลไม้ที่แม่ฮ่องสอน อีกสองวันกว่าจะกลับกัน)
"ม๊าทำไมไม่ไปด้วยครับ อยู่คนเดียวเหงานะ"
(ม๊าแก่แล้วลูก ไม่อยากเดินทางไกล)
"ม๊าไม่แก่นะครับ ยังสวยและสาวอยู่เลย"
(ปากหวานจังลูกคนนี้ งั้นม๊าขอวางสายนะ ลูกก็ไปหาข้าวกินได้แล้วนะลูก)
"ครับ"
หลังจากที่ปลายสายตัดสายไป เขาก็กดเข้าไปในแอพสั่งอาหาร แล้วกดเลือกเมนูที่ตัวเองอยากกินพอสั่งเสร็จก็กดออกมาเปลี่ยนเป็นแอพโซเชียลมีเดียแทน พร้อมกับเลื่อนหน้าจอเปิดอ่านข่าวต่าง ๆ จนไปสดุดกับเพจที่เพื่อนเขาแชร์เอาไว้เป็นข่าวของไอ้ที่คนที่แข่งรถกับเขาเมื่อคืนนับแฟนของมัน
"จะบอกว่าเขาเพิ่งรู้จักกันก็คงไม่ใช่ เพราะหลังจากมีผู้หวังดีส่งรูประหว่างนับสิบกับแฟนมาให้เดี๊ยนดูแล้ว พวกเขาทั้งสองคนน่าจะรู้จักกันมานานพอสมควรเพราะว่ามีรูปสมัยม.ต้นด้วย แล้วก็รูปทานข้าวกับครอบครัวฝ่ายชาย แถมยังมีรูปไปไหนมาไหนด้วยกันตามลำพังอีกมากมาย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะอิจฉาระหว่างนับสิบหรือว่าแฟนเขาดี ทั้งสองคนสวยหล่อเพอเฟคกันมาก เดี๋ยวถ้ามีรูปมาเพิ่มเติมทางแอดมินจะเอามาลงให้ทุกคนชมนะคะ"
พออ่านข้อความที่แอดมินเพจเขียนเอาไว้แล้ว ก็รู้สึกแปลกใจเพราะยอดแชร์และยอดกดโกรธค่อนข้างเยอะ แถมยอดแสดงความคิดเห็นยังปาไปกว่าพันคอมเม้น เขาจึงเข้ากดไปอ่านดูว่าคนอื่นเขาคิดยังไงกัน
จริณยา : หน้าตาผู้หญิงก็บ้าน ๆ ไม่รู้ว่านับสิบชอบไปได้ยังไง
ทิฟฟานี่ : ทั้งสองคนสวยแล้วก็หล่อเหมาะสมกันมากเลยค่ะ
อิงฟ้า : ถ้าหน้าตาอย่างแฟนนับสิบเรียกหน้าบ้าน ๆ แล้วหน้าของฉันเขาจะเรียกอะไรกันเนี่ย ด่าคนอื่นก็ชะโงกดูหน้าตัวเองด้วยนะคะ@จริณยา
ใจดี : เมื่อคืนฉันได้เห็นหน้าของแฟนพี่นับสิบแล้ว อยากจะบอกว่าโคตรสวยแล้วก็น่ารักมากเฟรนด์ลีสุด ๆ พอดีว่าตอนที่กำลังแข่งรถกันอยู่เผอิญว่ารถของพี่นับสิบเกิดอุบัติเหตุ แฟนของพี่เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันทีด้วยความเป็นห่วง แต่ดีหน่อยที่พี่นับสิบไม่ได้เป็นอะไร แต่
ทิฟฟานี่ : ใช่ ๆ ฉันก็อยู่ในเหตุการณ์เหมือนกัน แฟนพี่เขาร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จนพี่นับสิบต้องปลอบ เขาสองคนกอดกันกลมมากอบอุ่นสุด ๆ @ใจดี
หิ่งห้อย : ผู้หญิงคงจะขี้แยมาก อะไรนิดหน่อยก็ร้องไห้ ตอแหลจริง ๆ
วดี : เธอมีสิทธิ์อะไรไปว่าเขาแบบนั้น เดี๋ยวฉันจะส่งที่เธอพิมพ์ไปให้พี่นับสิบดู เผื่อพี่เขาจะฟ้องเธอ จะได้ไม่มาเก่งพิมพ์ด่าคนอื่นไปทั่ว
ทิฟฟานี่ : เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอส่งให้พี่นับสิบเหมือนกัน@วดี
วารินทร์ : แต่เมื่อวานพอพี่นับสิบประกาศเปิดตัวแฟน ก็มีคนไปสืบว่าเป็นใคร จนเขารู้มาว่าแฟนพี่นับสิบไม่ใช่คนดีเลย แต่เป็นเด็กที่มีเสี่ยแก่ ๆ เลี้ยง แต่เรื่องนี้ฉันไม่รู้ว่าเป็นความจริงไหม
ทิฟฟานี่ : ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องเป็นจริงหรือไม่จริง ก็ไม่ควรที่จะมาแสดงความคิดเห็นเพื่อกระจายข่าวแบบนี้ เธอน่าจะเป็นรายที่สองที่ฉันจะแคปส่งพี่นับสิบ@วารินทร์
วารินทร์ : อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะฉันไม่กลัวหรอก@ทิฟฟานี่
ทิฟฟานี่ : งั้นก็รอรับหมายศาลเลย ยัยหน้าปลวก@วารินทร์
วารินทร์ : อีบ้า@ทิฟฟานี่
พอเขาอ่านไปสักพักก็เริ่มรู้สึกเหมือนจะมีคนทะเลาะกันจึงกดปิดโทรศัพท์วางเอาไว้ "ทำไมเธอต้องเป็นแฟนของมันด้วยนะ แต่ฉันก็ไม่สนหรอก ฉันจะหาทางทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเลิกกับมันแล้วมาคบกับฉันแทน...อายตา"
ครืดดด ครืดดด
แต่พอวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมได้ไม่นาน เสียงของมันก็ดังสนั่นขึ้นทั่วห้อง เขาจึงหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง พบว่าเป็นเบอร์แปลก ซึ่งเดาได้ว่าน่าจะเป็นเบอร์ของไรเดอร์ส่งอาหาร เขาจึงกดรับสาย
"ครับ"
(ตอนนี้ผมมาถึงที่คอนโดของคุณแล้วนะครับ ลงมาเอาได้แล้ว)
"ได้ครับเดี๋ยวผมจะรีบลงไป"
เขากดตัดสายพร้อมกับรีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะเดินลงไปเอาอาหารที่ชั้นล่างของตึก