“คาน”
“ครับบอส”
“ไปสืบมาว่ามือขวาของหัวหน้าแก๊งพายัพมาทำอะไรถิ่นเรา”
พายุที่เพิ่งเดินชนกับชายที่เป็นมือขวาคนสำคัญของแก๊งนั้นถึงกลับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ปกติแล้วพวกมีตำแหน่งจะไม่ค่อยมาเองแบบนี้หรอก แปลว่าต้องมีเรื่องสำคัญแน่ ๆ
“ครับบอส”
“นายไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปเยี่ยมนิ่มคนเดียวได้”
“ครับ”
คานตอบรับและเดินออกไปทันที ส่วนพายุก็มาที่ห้องพักผู้ป่วยน่าแปลกใจที่พอเดินเข้ามาแล้วไร้ร่างนมสานั่งอยู่ใกล้ ๆ คนป่วยเช่นทุกที เขาก้าวขามาหยุดยืนข้างเตียงคนป่วยแล้วมองคนที่หลับอย่างเหนื่อยใจ เขามองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้งสายตาก็ไปสะดุดกับหญิงวัยกลางคนนอนหลับอยู่ มันทำให้เขาอดแปลกใจไม่ได้เพราะขนาดเขาเดินมาหยุดใกล้ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร เขาเลยใช้นิ้วไปจ่อตรงจมูก ลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้เขาโล่งใจ
“นมสาหลับค่า”
พายุหันไปมองตามเสียงก็เห็นหญิงสาวที่หลับเมื่อกี้ ลุกนั่งกอดตุ๊กตาตัวโปรดไว้แน่น
“คุณนมทำไมหลับลึกขนาดนี้ครับคนเก่ง”
“นมสาเหนื่อยยยย หนูนิ่มก็เหนื่อยยยยเย้ยนอนหลับสบาย~”
ท่าทางน่าเอ็นดูของเธอทำให้พายุอดยิ้มไม่ได้ เขานั่งลงบนเตียงข้างๆ คนป่วย แล้ววางมือใหญ่ลงบนหัวเธอแบบที่ชอบทำบ่อยๆ แต่คนที่เพิ่งเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ครั้งแรกถึงกลับใจเต้นแรง
[เด็กสมัยนี้จะแพรวพราวอะไรขนาดนั้น...แต่เขาก็หล่อมากนะ ดูแน่นไปหมดดี]
“หนูนิ่มก็เหนื่อยเหรอครับ เล่นซนอะไรมาหรือเปล่าทำไมถึงเหนื่อย”
“หนูนิ่มไม่ซน หนูนิ่มเป็นเด็กดีค่า~”
“ถ้าเป็นเด็กดีวันหลังเฮียจะซื้อของโปรดมาให้ดีไหมครับ”
[ผู้ชายคนนี้แทนตัวเองว่าเฮียกับนิ่มสินะ]
“ค่า~”
ระหว่างที่เขานั่งเล่นเป็นเพื่อนนิ่มก็คอยลอบมองแม่นมสูงวัยเป็นระยะ อาการของเธอเหมือนโดนยาสลบหรือยานอนหลับมากกว่าการนอนธรรมดา
“หนูนิ่มครับ ก่อนหน้านี้มีใครเข้ามาหรือเปล่า รึว่านมสาได้ไปเจอใคร กินอะไรแปลกๆ ไหม”
[ช่างสังเกตแฮะ ดีนะที่เราเอาขวดน้ำไปเททิ้งก่อนแล้ว]
“ม่ายยยยมีค่า”
“งั้นเดี๋ยวรอเฮียอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ เฮียไปตามหมอมาดูนมสาหน่อยก่อน”
“ค่า~”
นิ่มยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีให้ พอร่างสูงเดินพ้นประตูสีหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นเรียบเฉย สายตามองไปดูร่างแม่นมด้วยความเป็นห่วง
[หวังว่าจะไม่เป็นอะไรนะ]
หลังจากนั้นไม่นานพายุก็เดินกลับมาพร้อมหมอ พอตรวจได้สักพักหมอก็สรุปว่านมสากินยานอนหลับเข้าไป เขาไม่ได้ซักไซ้อะไรมากมาย
“ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ”
“ไม่เป็นอะไรเลยครับ ถ้าคุณพายุมีเรื่องอะไรเรียกผมได้ตลอดเลยครับ”
แม้ว่าหมอจะอายุเยอะกว่าแต่ก็ต้องนอบน้อมให้คนตรงหน้าเพราะอีกฝ่ายคือคนบริจาครายใหญ่ให้โรงพยาบาลตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ยอดเงินแปดหลักกับเครื่องมือทางการแพทย์ใหม่ๆ ในทุกปีทำให้พวกเขาตระหนักว่านี่ไม่ต่างจากนายทุนรายใหญ่
“ให้คนมาพานมสาไปพักผ่อนหาห้องดีให้เธอด้วยครับ”
“ผมจะจัดการให้ครับ”
ไม่นานนมสาก็ถูกพาไปนอนพักผ่อนอีกห้อง ในห้องนี้เลยเหลือแค่พายุกับนิ่ม
“หนูนิ่มง่วงหรือว่าหิวไหมครับ?”
“ไม่ง่วงค่า หนูนิ่มนอนปายแย้ว”
“งั้นเดี๋ยวเฮียปอกผลไม้ให้ดีกว่า”
พายุเดินไปหยิบจานผลไม้พร้อมมีดที่วางเตรียมพร้อมไว้กลับมานั่งใกล้ๆ แล้วลงมือปอกผลไม้
นิ่มมองท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของอีกฝ่ายแล้วเกือบจะอดขำไม่ได้ ตอนนี้เธออยากจะรู้แล้วสิว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ดูใจดีกับนิ่มขนาดนี้ทั้งที่เธอก็เป็นแค่คนไม่สมประกอบ เธอนั่งดูเขาพร้อมกับสำรวจท่าทางอีกฝ่าย ผู้ชายคนนี้นอกจากจะหล่อแล้ว ยังดูเป็นคนบุคลิกแบด ๆ ด้วยอาจจะเพราะรอยสักตามแขน
[ปกตินักธุรกิจธรรมดาไม่ค่อยสักแบบนี้หรอกนะ ถ้าไม่ใช่พวกในวงการมาเฟียแล้วถ้าเป็นจริงอยู่ระดับไหนถึงได้มีลูกน้องคอยตาม...หัวหน้าแก๊งเหรอหรือหัวหน้าทิศ!! แต่ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าเป็นแบบที่ฉันคิดทำไมถึงไม่เคยเห็นหน้าหรือนอกจากทิศเธอแล้ว ยังมีทิศอื่นเปลี่ยนมือผู้นำ]
“เสร็จแล้วครับ กระต่ายน้อยเป็นไงครับน่ากินไหม”
นิ่มที่เห็นกระต่ายตัวบิดเบี้ยวก็ต้องกลั้นขำไม่ให้ส่งเสียงออกมา
“เย้~ กระต่าย ทำมายกระต่ายหนูนิ่มมันม่ายน่ารักเลย”
คำถามนิ่มทำให้พายุยิ้มเล็กน้อยให้เธอ จะให้เขาตอบยังไงละก็มันไม่น่ารักแถมยังน่าเกลียดอีก
[ก็ครั้งแรกที่ทำอะไรแบบนี้นิ]
“ไว้วันหลังเฮียจะทำให้น่ารักกว่านี้นะครับ”
“อือ”
ก๊อก ๆ
“บอสครับ คุณพจน์ คุณเพียงพรกับคุณหนูน่านน้ำมาเยี่ยมไข้คุณหนูนิ่มครับ”
คานที่กลับจากทำงานตามคำสั่งก็มายืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูต่อ พอเห็นผู้มาเยือนใหม่เขาก็รีบเข้ามารายงานทันที พายุมองนิ่มก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องเป็นการตอบรับ
“ไม่คิดว่าหลานจะอยู่ที่นี่ด้วย”
พจน์เดินเข้ามาทำท่าทางนอบน้อม นั่นเลยทำให้นิ่มยิ่งอยากรู้สถานะของอีกฝ่าย ว่าเธอควรเข้าใกล้หรือออกจาก
“ครับพอดีอีกสองวันผมจะไปอังกฤษเลยมาเยี่ยมน้องก่อน”
“ตายแล้ว! น่านน้ำก็จะไปอังกฤษ สองคนนี้นัดกันไว้หรือเปล่า” เพียงพรพูดแทรกขึ้น ความจริงเธอก็รู้แก่ใจอยู่แล้วว่าไม่ได้มีการนัดแนะอะไรกันแบบนั้น
“แม่คะ!!” น่านน้ำจับแขนแม่ไว้แล้วส่ายหัวไปมาเพื่อบอกว่าไม่ใช่แบบที่แม่พูด
“น้องน้ำไปทำอะไรที่อังกฤษเหรอครับ” โดยปกติแล้วเขาจะเรียกน่านน้ำว่าน้ำจนเคยชิน
“น้ำจะไปดูงานแฟชั่นฤดูหนาวของปีนี้น่ะค่ะ ถ้าว่างๆ พี่พายุไปด้วยกันไหมคะ”
“ถ้าว่างพี่จะไปเป็นเพื่อนนะครับ”
ระหว่างบทสนทนาของทุกคน นิ่มก็คอยเก็บรายละเอียดอยู่เงียบๆ แปลกที่เธอมองหน้าทั้ง 3 คนแล้วรู้สึกกลัว พ่อที่ไม่เคยปกป้องลูกสาว เมียแต่งพ่อที่รังเกียจก็พอจะเข้าใจว่านิ่มเก่าอาจจะเคยกลัวจนฟังใจ แต่หญิงสาวคนสวยที่ในความฝันดูใจดีและคอยช่วยเหลือมาตลอดทำไมถึงกลัว
[ดูเหมือนว่าบางอย่างที่สมองนี้จำได้ จะไม่ใช่ทั้งหมดสินะ]
“ตายแล้วหนูนิ่มกินอะไรอยู่เหรอลูก แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง ที่แม่ไม่ได้มาเยี่ยมช่วงนี้”
เพียงพรรีบหันไปพูดจาเอาอกเอาใจนิ่ม เธอก็ไม่ค่อยชอบทำแบบนี้หรอกแต่ต่อหน้าคนอื่นก็ต้องเป็นแม่เลี้ยงที่ดีแม้ว่ามันจะเป็นแค่เด็กปัญญาอ่อนลูกชู้
[ปั้นหน้าเก่งจัง ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องกระตุ้นหน่อย]
“พรูดดด~ แค่ก ๆ”
“ว้ายตายแล้ว!!”
“คุณ!!”
นิ่มพ้นแอปเปิลที่กำลังเคี้ยวในปากใส่หน้าเพียงพรเต็ม ๆ ทำเอาทุกคนต่างพากันตกใจ ส่วนคนที่ถูกทำแบบนั้นพอตั้งสติได้ก็ยกมือขึ้นหมายจะตบสั่งสอน
“อีเด็กบ้าแก!!”
แต่ยังไม่ทันที่จะลงไม้ลงมือ พายุก็เข้ามาจับแขนไว้ก่อน เพียงพรที่โมโหว่าถูกห้ามไม่ให้ตัวเองสั่งสอนนิ่มตวัดสายตาไปมองแต่พอเห็นว่าชายที่มีอำนาจเหลือล้นก็ต้องรีบอ่อนลง
“คุณอาคิดจะทำอะไรคู่หมั้นผมครับ”
'คู่หมั้น'
นิ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้คือใคร ทำไมเขาถึงได้ดูใจดีกับนิ่มขนาดนี้เพราะเขาคือคู่หมั้นนี่เอง...แต่มันยังมีผู้ชายที่ยังยอมรับการหมั้นกับผู้หญิงที่สติไม่สมประกอบด้วยเหรอ
“คืออา...อาแค่จะเช็ดปากให้น้องนะจ๊ะ”
“พวกคุณอามาก็ดีเลยครับ ผมจะให้นิ่มไปพักอยู่บ้านคุณหญิงย่าอรวรรณก่อนระหว่างผมเตรียมเรื่องงานหมั้นอย่างเป็นทางการในอีก 3 เดือนหน้า”
“ได้ยังไงล่ะหลาน จะเอานิ่มไปลำบากคุณหญิงแม่ได้ยังไง อายุท่านก็เยอะแล้วจะให้มาดูแลคนสติไม่สมประกอบจะลำบาก อีกอย่างถ้าเกิดนัง...เกิดหนูนิ่มอาละวาดจะยุ่งนะ จริงไหมคะคุณ”
“จริงหลานคือ...”
“ผมคุยกับคุณหญิงย่าเรื่องนี้เรียบร้อยครับ ท่านไม่ได้มีปัญหาอะไรและผมหวังว่าฝั่งคุณอาก็คงจะไม่มีปัญหา...เพราะไม่งั้นเรื่องเหล้าที่คุณอาหลบภาษีแล้วเอามาใช้ในคลับ ผมคงช่วยอะไรไม่ได้อีก”
แม้ว่าคำพูดของพายุจะดูเหมือนแค่บอกเล่าแต่กลับเหมือนกำลังเตือนว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาคือคำขาด นิ่มมองสถานการณ์ทุกอย่างด้วยความพอใจ ตอนนี้เธอกำลังคิดว่านอกจากคุณย่าแล้ว 'ผู้ชายคนนี้ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะสามารถใช้งานได้'
“มะ...ไม่มีหรอก ถ้าคุณแม่ท่านตกลงอาก็ไม่มีปัญหาอะไร”
พจน์ได้ยินคำพูดพายุก็ต้องรีบตอบตกลงทันที เดี๋ยวนี้ที่กิจการของเขากำไรเยอะเพราะเหตุผลนี้ส่วนหนึ่ง
“คุณคะ!!”
เพียงพรรีบตะคอกสามี ถ้ายัยเด็กคนนี้ไปอยู่กับแม่สามีเธอจริงๆ แผนที่ต้องการกำจัดก็ล้มหมดนะสิ
“เงียบ!!” พจน์ตะคอกภรรยา ปกติไม่ค่อยจะได้มีใครได้เห็นการกระทำแบบนี้หรอกเพราะเขาถือได้เกรงใจภรรยามาก
“แม่คะน้ำว่าเรากลับกันก่อนดีไหม”
น่านน้ำที่สังเกตเห็นสายตาพายุเริ่มไม่พอใจ ก็ต้องรีบพูดกับแม่ ปกติแล้วชายที่เธอแอบรักเป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง ถ้าเขาแสดงสีหน้าแบบนี้แปลว่าไม่ค่อยโอเค
“แต่!”
“นะคะแม่เรากลับกันเถอะ...พี่นิ่มอันนี้เป็นช็อกโกแลตแบบที่พี่ชอบ น้ำซื้อมาฝาก” น่านน้ำหันไปยื่นถุงกระดาษยี่ห้อร้านดังให้แต่พายุเป็นฝ่ายรับแทน เธอเลยสบตากับเขาแล้วส่งความรู้สึกเว้าวอนผ่านสายตาไปให้เขา การที่ต้องเห็นชายที่รักคอยดูแลคนอื่นมันเจ็บแบบนี้เองสินะ
หลังจากบอกลานิ่มกับพายุแล้วน่านน้ำก็พาแม่ของเธอปลีกตัวออกมาทันที เพียงพรกุมมือลูกสาวตัวเองแน่นก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ
“คอยดูแม่จะเอาทุกอย่างของลูกคืนมาให้ได้”