ตื่นมาก็ตายแล้ว

1455 Words
2 วันถัดมา “คุณนมขา...หนูนิ่มหิว” “ตายแล้ว!! คุณหนูยอมคุยกับนมแล้วเหรอคะ หิวเหรองั้นเดี๋ยวนมลงไปซื้อของกินที่คุณหนูชอบให้ รอนมอยู่ที่นี่ก่อนนะคะ” “ค่า~” คนที่ถูกหลอกล้อว่าจะได้ของกินที่ชอบกว้างอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนที่มองอดยิ้มก่อนเดินออกจากห้องมา แต่อีกฝ่ายหารู้ไหมว่าเพียงแค่ประตูปิดลงใบหน้ายิ้มแย้มก็เรียบเฉย “เฮ้อ~ คงต้องรีบออกไปก่อนที่นมสาจะกลับมา” เธอพยุงร่างเล็กของนิ่มลงจากเตียงอย่างลำบากเพราะร่างกายเด็กคนนี้อ่อนแอและเหนื่อยง่ายมากเกินไป จะทำอะไรก็ไม่ทันใจเธอเลยสักนิด แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ต้องหาคำตอบที่อยากรู้ให้ได้ ขาเล็กก้าวผ่านประตูห้องคนไข้ออกมา เธอไม่ลืมที่จะหันกลับไปดูเลขห้องเพื่อตอนกลับมาไม่เข้าผิด “คุณคนสวยคะ...ฉันขอรบกวนยืมโทรศัพท์หน่อยได้หรือเปล่า พอดีฉันตามหาญาติไม่เจอ จะไปที่เคาน์เตอร์บริการก็เดินลำบาก” หลังจากเดินออกมาสักพักเธอก็เห็นผู้หญิงแต่งตัวดูดี ไม่คุ้นตาในความทรงจำของนิ่ม เลยคิดว่าไม่น่าจะใช่คนรู้จุก เธอเลือกผู้หญิงคนนี้ในการหาความจริงอะไรบางอย่างโดยการใช้คำพูดจาหวานเพื่อหว่านล้อมให้เธอยอมช่วยเหลือ “ได้ค่ะ...นี่ค่ะ” นารันมองโทรศัพท์แบบพับได้ในมือตัวเองก่อนเธอถูกลอบทำร้ายยังไม่มีอะไรแบบนี้เลย เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ดูล้ำสมัยขนาดนี้คงไม่สามารถผลิตได้ในหนึ่งหรือสองปี เพียงแค่คิดหัวใจเธอก็เต้นแรง เธอเลือกที่จะกดเข้าแอปพลิเคชันหาข้อมูล #ปีปัจจุบัน -ปัจบันพุทธศักราช 2568 หรือ คริสต์ศักราช 2025 เพียงแค่เห็นคำตอบจากแอปพลิเคชันค้นหา ขาที่อ่อนแรงอยู่แล้วก็แทบจะยืนไม่อยู่ ”คุณมีอะไรให้ช่วยอีกหรือเปล่าคะ” ”เปล่าคะ ขอยืมอีกสักหน่อยนะคะ” #นางสาวนารัน เวสิกา -นางสาวนารัน เวสิกา ผู้นำตระกูลหญิงคนแรกของเวสิกาถูกลอบทำร้ายจนเสียชีวิตระหว่างอยู่ที่บ้านของตัวเอง มรณะ 15 มีนาคม 2561 -ข่าวคนร้ายที่ลอบฆ่าได้เงียบหายไร้ร่องรอยนางสาวนารัน เวสิกา พรืบ!! จู่ ๆ ขาเธอก็ไร้เรี่ยวแรงดีที่มีแขนแกร่งของใครไม่รู้มาโอบรอบเอวไว้ไม่ให้เธอทรุดลงนั่งที่พื้น [นี่เธอหลับไป 7 ปีตื่นมาก็มีประวัติกลายเป็นคนตายเลยเหรอ] “ขอโทษนะครับที่เธอสร้างความเดือดร้อนให้ ถ้ามีอะไรเสียหายเดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง” น้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นหูทำให้คนที่ถูกกอดเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าหล่อเหลา จมูกคมสันและดวงตาที่สีดำสนิท ที่เธอเผลอสบตาด้วยทำให้ใจเต้นแรงแบบไม่เคยเป็นมาก่อน 'อย่าดื้อได้ไหมครับรู้ไหมการทำแบบนี้ จะทำให้คนอื่นยิ่งมองเราไม่น่ารัก' ภาพบรรยากาศเด็กหญิงกับชายหนุ่มที่นั่งกินขนมหวานด้วยกันโผล่เข้ามาในหัว แม้ว่าจะเป็นการต่อว่าแต่ชายหนุ่มกับหยิบกระดาษทิชชูเช็ดปากที่เปื้อนอาหารให้เด็กหญิง แววตาของเขาในความทรงจำมันเต็มไปด้วยความห่วงใยมากกว่าประสงค์ร้าย [เขาเป็นอะไรกับเจ้าของร่างนี้ ความทรงจำเกี่ยวกับเขาน้อยมาก] “เอ่อ ไม่มีอะไรเสียหายหรอกค่ะ เธอแค่มายืมโทรศัพท์ฉันบอกจะติดต่อหาญาติ” หญิงสาวพอเห็นความหล่อของชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึง ก็แสดงท่าทางขวยเขิน “เธอนะเหรอยืมโทรศัพท์?” คำถามของพายุทำให้นารันในร่างนี้ใจเต้นแรง คงไม่ใช่ว่าจะถูกจับได้วันนี้หรอกนะ “ศัพท์ ขอศัพท์หน่อย จะโทรหานมสา...แงงงง ขอศัพท์หน่อย” เธอพยายามจะเรียนแบบเจ้าของร่างเดิม เวลาที่ทำอะไรไม่ได้ตั้งใจมักจะโวยวาย “เอามา!! หนูนิ่มจะเอาฮือออ” “ต้องขอโทษด้วยนะครับ อันนี้โทรศัพท์ของคุณ” พายุแย่งโทรศัพท์ออกมาจากมือเล็กแล้วยื่นให้เจ้าของ ก่อนที่ตัวเองจะช้อนร่างผอมแห้งไว้ในอ้อมแขนแล้วก้าวขาออกจากตรงนี้แล้วเดินไปที่ห้องพักคนไข้ทันที ส่วนคนที่ถูกอุ้มก็ได้แต่นิ่งไม่กล้าจะทำอะไรแปลกๆ กลัวว่าจะถูกจับได้ [แต่ว่านานแค่ไหนแล้วนะไม่ได้ถูกผู้ชายอุ้มแบบนี้ แถมที่สำคัญกล้ามหนุ่มๆ นี่มันแน่นปึกจริงๆ] “คนบ้าเหรอ แต่เมื่อกี้ไม่เห็นเหมือนเลย” หญิงสาวที่ยืนมองพูดกับตัวเองเบาๆ VP 301 (นางสาวนิสรา อัครสกูลวงศ์) ขายาวของพายุเดินผ่านประตูห้องมาหยุดข้างเตียงแล้ววางคนที่ตัวเองอุ้มมานั่งลงบนเตียง “ออกไปข้างนอกได้ยังไงครับ” คนที่ถูกถามมองตาอีกฝ่ายครั้ง ทำไมกันนะเหมือนเธอจะรู้จักคนตรงหน้าตอนที่ยังเป็นนารันเลย “หนู...หนูนิ่มจาไปหาคุณนมสา โทรหาคุณนมสา...ศัพท์ ของศัพท์ ตู๊ด ๆ โทรหน่อย” ในที่สุดเธอก็ต้องยอมเอ่ยปากพูดและแสดงบทบาทนิ่มในความทรงจำเพราะไม่อย่างนั้นเธอถูกเขาจับได้แน่ “หนูนิ่มครับ เฮียบอกกี่รอบแล้วว่าจะไปขอของจากคนแปลกหน้าไม่ได้....เข้าใจที่เฮียพูดไหมครับ” พายุตำหนิเล็กน้อยแต่น้ำเสียงกลับฟังดูอ่อนโยน “ศัพท์จาเอาศัพท์ ฮือออออ” [ให้ตายเถอะ!! ถ้าเธออยู่ในร่างนี้ต่อ คงต้องหาวิธีทำให้ตัวเองหาจากโรคที่เจ้าของร่างคนเดิมเป็น ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ใช้ชีวิตอย่างลำบากแน่] ตายแล้วเกิดอะไรขึ้นคะ!!” สาที่เพิ่งเดินกลับมาถึงก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคุณหนูของตัวเองร้องไห้โวยวายอยู่ “จาเอาศัพท์แงงงง” “ไม่ร้องนะคะคุณหนูของนม” “ม่ายยยยย จาเอาศัพท์” “เอาของเฮียก็ได้” นารันมองอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหญิงสาวคนนี้จะมีอิทธิพลต่อเขาไม่น้อยเลย “ม่ายอาว หิว...หนูนิ่มหิว” “นมสาซื้อของที่คุณหนูชอบมาแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปแกะมาให้นะคะ” ระหว่างที่สาไปจัดการเรื่องอาหารการกินของคนไข้ สายตาของพายุก็มองเธอไม่วางตาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย แต่ถึงแบบนั้นก็เลือกที่จะแกล้งเล่นตุ๊กตาเก่าๆ ตรงหน้า “มาแล้วค่ะคุณหนู” “เย้ๆ มาแล้วววว หนูนิ่มหิว” มือเล็กลูบท้องตัวเองไปมาเพื่อสื่อว่าตัวเองหิวมาก “ค่อยๆ กินนะคะ เดี๋ยวนมขอไปคุยกับคุณพายุก่อน” “ค่า~” “คุณพายุมีอะไรหรือเปล่าคะ” สาเดินเข้าไปถามชายหนุ่มที่ยืนมองคุณหนูตัวเองไม่ละสายตา “หมอบอกว่าอาการของนิ่มเป็นยังไงบ้าง” “ไม่มีอาการแทรกซ้อนค่ะแค่กล้ามเนื้ออ่อนแรง อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวได้” “แล้วนี่จะกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นเหมือนเดิมเหรอ” “ใช่ค่ะเพราะคุณผู้หญิงไม่ยอมให้คุณไปอยู่ที่บ้านคุณหญิงย่าค่ะ” นารันแม้ว่าจะดูเหมือนตั้งใจกินของอร่อยตรงหน้าแต่ความจริงเธอกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่ทั้งคู่คุยกัน ถ้าเธอจำไม่ผิดในความทรงจำของนิ่ม คุณหญิงย่าที่ทั้งสองคนพูดถึงดูเหมือนจะเป็นคนดี ถ้าเธอได้ไปอยู่ด้วยคงจะไม่ต้องปวดหัว [ปัญหาอยู่ที่เป็นเมียแต่งพ่อของนิ่มสินะ] “เดี๋ยวฉันจะลองพูดกับคุณอาดูอีกที” พายุเองก็ไม่อยากให้นิ่มอยู่บ้านหลังนั้นต่อเพราะฟังจากคนของเขาที่ให้ไปสืบเรื่องจมน้ำของนิ่มไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุธรรมดา “ขอบคุณมากๆ นะคะ” สารีบตอบกลับอย่างดีใจ ถ้าให้นับทุกคนในชีวิตคุณหนูของเธอ นอกจากคุณหญิงย่าแล้วคงมีชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้แหละ “หนูนิ่มเป็นเด็กดีนะครับ ห้ามออกไปข้างนอกคนเดียวอีก...เดี๋ยวเฮียจะมาเยี่ยมใหม่” มือใหญ่วางบนหัวเล็กเบาๆ แล้วยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย นารันรับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายที่มีต่อนิ่มเป็นอย่างดี แม้ว่าเจ้าของร่างเดิมคนนี้จะสติไม่สมประกอบแต่เขาก็ไม่ได้ดูรังเกียจเลยสักนิด เธอไม่ได้ตอบอะไรเขากลับนอกจากแกล้งกินข้าวตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD