“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอไม่ได้อยากรับคำขอบคุณของคนไข้สักเท่าไหร่หรอกนะ แต่รู้สึกเห็นใจที่เจ้าหล่อนยังเรียนมหา’ลัยอยู่ เธอต้องมีทุนเรียนต่อ “แต่อย่าลืมนะคะ รักตัวเองและดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด สู้ ๆ นะคะ”
“ค่ะ หนูจะรักตัวเอง จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ”
“ดีมากค่ะ” เธอตรวจดูแผลของคนไข้แล้วเสร็จก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลต่อ จากนั้นก็ไปดูคนไข้ที่ห้อง 102 ซึ่งพักอยู่ถัดกัน เจ้าหล่อนก็ยังคงนอนร้องซี๊ดส์ซ๊าดไม่ขาดปากเช่นเดียวกัน
“ได้นอนบ้างรึเปล่าคะเนี่ย” เธอสอบถามคนไข้ด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นเจ้าหล่อนดูอ่อนเพลียและทรุดโทรมกว่าเมื่อคืน สำหรับสาวสวยคนนี้เธอเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังที่เคยตกเป็นข่าวกับไฮโซหนุ่มนามว่าพีรวัสมาก่อน ผู้ชายที่ทำให้เธอหนีมาอยู่ไกลถึงเกาะมาลาวี ผู้ชายที่ทำให้เธอเจ็บปวดหัวใจจนแทบไม่อยากมีความรักอีกเลยนั่นล่ะ เธอจำเจ้าหล่อนได้ตั้งแต่เมื่อคืนละ นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เจอเจ้าหล่อนที่นี่ แต่พอได้คุยกับคนไข้ก่อนหน้า จึงได้กระจ่างใจ
“นอนไปหลายชั่วโมงเลยค่ะคุณหมอ ทำไมคะ หรือว่าหน้าฉันโทรม...อุ๊ยตาย! ลืมไปเลยว่าหน้าสด ยังไม่ได้แต่งหน้า คุณหมอคงตกใจ งั้นฉันขอทาลิปสติก...”
“นอนนิ่ง ๆ เถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าสดหน้าเต็มอะไรทั้งนั้น ตอนนี้สิ่งที่คนไข้ต้องห่วงคือตรงนี้ต่างหาก หมอขอดูแผลหน่อยค่ะ ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ”
“ทั้งเจ็บทั้งแสบเลยค่ะ ซี๊ดส์!”
“แผลก็โอเคนะคะ”
“ฉันต้องพักรักษาตัวกี่วันคะคุณหมอ กว่าแผลจะหายเป็นปกติและทำงานได้ พอดีคืนนี้ฉันต้องบินกลับกรุงเทพฯเลยน่ะค่ะ”
“คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหานะคะ คนไข้แค่ต้องระวังหน่อย เดี๋ยวรอดูตอนเย็นอีกทีก็ได้”
“แล้วยัยนั่น!” เจ้าหล่อนกระซิบกระซาบราวกับกลัวว่าคนที่ถูกพูดถึงจะได้ยินด้วย “มัน...เอ๊ย...เธอเป็นยังไงบ้างคะ ได้ออกจากโรงพยาบาลรึยัง”
“ยังค่ะ แต่ก็น่าจะได้ออกพร้อมกับคนไข้นั่นแหละ มีอะไรรึเปล่าคะ” รจนารีแสร้งถามทั้งที่รู้แก่ใจว่าเจ้าหล่อนถามถึงอีกคนทำไม
“ฮึ!” ส่งเสียงฮึดฮัดชิชะพร้อมทำหน้าเย้ยหยันดูถูก “ยัยนั่นเป็นดาวมหา’ลัยค่ะ นางตกใจมากตอนเจอฉันที่บ้านพักตากอากาศของนายหัว นางคงกลัวว่าฉันจะเอานางไปโพทะนาค่ะ”
“แล้วตัวคนไข้เองไม่ตกใจหรือคะ”
“ตกใจสิคะ ใครจะไปคิดว่าจะได้เจอศัตรูคู่แค้นในอีเว้นต์ต่างจังหวัด นี่ถ้าไม่เกรงใจนายหัว จะตบให้ ทำเหมือนตัวเองเป็นนางเอก แต่ชีวิตจริงเป็นนางร้ายค่ะ”
เจ้าหล่อนพูดพลางใส่อารมณ์
“คอยดู ฉันจะแฉให้แกหมดอนาคตไปเลย อยากรู้นักว่าเขายังจะกล้าเลี้ยงแกอยู่มั้ย”
“เอ่อ...พูดเบา ๆ หน่อยนะคะ เดี๋ยวแผลจะปริ”
“ขอโทษค่ะคุณหมอ พอดีความแค้นมันสุมอก มันเคยแย่งผู้ชายของฉันน่ะค่ะ”
“หมายถึงแฟนหรือคะ”
“เอ่อ...ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ” เจ้าหล่อนจะบอกได้ไงว่าไม่ใช่หรอกค่ะ ก็แค่คนเลี้ยงดู “ถ้ามันไม่แย่งไป ฉันคงไม่ต้อง...มาทำอะไรอย่างนี้” โทษคนอื่นไปอีก แต่ไม่โทษสันดานตัวเอง
“อย่าไปเสียดายเลยค่ะ ดูเหมือนแฟนคนไข้จะเจ้าชู้ไม่เบานะคะ”
“แต่เขารวยมากค่ะ ระดับหมื่นล้านเลยนะคะ” เจ้าหล่อนพรวดออกมาอย่างอารมณ์เสียแล้วถอนหายใจอย่างเสียอารมณ์ “นึกแล้วก็เสียดาย เสียดายเป็นบ้า ฉันไม่น่า...ไม่น่าไปแฉเขาเลย ไม่น่าส่งข้อมูลให้คู่หมั้นเขาเลย ไม่งั้น...ก็ยังได้อยู่คอนโดหรู”
“อะไรนะคะ?”
“เปล่าค่ะคุณหมอขา ฉันแค่กำลังคิดหาวิธีจะกลับไปคืนดีกับเขาน่ะค่ะ”
“ถ้าเขารักคนไข้ก็ไม่น่ายากนะคะ”