ตอนที่ 9

1175 Words
“แหม…พูดอย่างนั้นเดียวคุณอัญเข้าใจผิดก็แย่สิวะ แต่จะว่าไปก็จริงอย่างที่ชรัมภ์มันว่า อาชีพผมต้องลงเสาเอก ตอกเสาเข็มอยู่บ่อยๆ เพราะผมทำธุรกิจสร้างบ้านจัดสรรขายครับ”           “ดีจัง…แล้วไม่คิดจะทำไร่ส้มอย่างพ่อเลี้ยงบ้างหรือคะ” อัญชันถาม           “งานไร่งานฟาร์มผมคงไม่ถนัดเท่าพ่อหนุ่มลูกทุ่งคนนี้หรอกครับ”           กล่าวพลางชำเลืองมาทางพ่อเลี้ยงชรัมภ์ที่กำลังรินวิสกี้ลงแก้วอย่างใจเย็น “ปล่อยให้มันทำบ้านจัดสรรขายน่ะดีแล้วครับ ผมไม่อยากมีคู่แข่ง” ชรัมภ์ว่าพลางเสือกแก้วเหล้าให้อาทิตย์ จากนั้นจึงหันไปรินอีกแก้วให้อัญชันด้วยท่าทีที่นุ่มนวลต่างกัน “ผมรู้มาว่าคุณอัญเพิ่งกลับมาจากอเมริกา ถ้าสนใจบ้านสักหลัง หรือคิดจะมาลงหลักปักฐานอยู่เมืองไทย…อย่าลืมนึกถึงผมเป็นคนแรกนะครับ” อาทิตย์กล่าวทีเล่นทีจริง อัญชันหารู้ไม่ว่าก่อนหน้าที่ชรัมภ์จะแนะนำให้เธอกับอาทิตย์ได้รู้จักกัน อาทิตย์แอบถามเรื่องของเธอและลูกสาวกับชรัมภ์จนละเอียดยิบ “ดาหลาดื่มได้ใช่มั้ยครับ” ชรัมภ์เลิกคิ้วถามเป็นเชิงขออนุญาติอัญชันไปในตัว “ดื่มได้ค่ะ…ถ้าคุณแม่อยู่ด้วย แต่มีข้อแม้ว่าดื่มได้นิดเดียว” หญิงสาวตอบตามที่ได้ผู้เป็นแม่ได้วางข้อตกลงร่วมกันเอาไว้ “แล้วนิดเดียวนี่กี่แก้วครับ” ชรัมภ์อยากรู้ “สองแก้วค่ะ” หญิงสาวตอบ ชรัมภ์หัวเราะร่วนด้วยความชอบใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ถ้างั้นคืนนี้น้าขออนุญาตแม่ให้เอง…คนกันเองทั้งนั้น ที่นี่ไม่มีอะไรต้องห่วง น้ารับผิดชอบเอง จริงมั้ยอัญ” พ่อเลี้ยงหันไปขอความเห็น “ลงได้พ่อเลี้ยงเอ่ยปากทั้งที ก็คงต้องอนุญาต” ทันทีที่อัญชันกล่าวจบ อาทิตย์ก็ขอชนแก้วกับเธอ จากนั้นเสียงปากแก้วก็กระทบกันเบาๆ ผ่านไปหลายต่อหลายแก้ว ดาหลาเลือกที่จะดื่มไวน์ เพราะรู้ดีว่าตัวเองคอไม่แข็งเหมือนพวกผู้ใหญ่ อีกครู่ถัดมา เสียงเพลงชะชะช่าพาเพลินที่ป้าบัวเป็นคนขอให้กับรุ่นใหญ่หลายคนที่รอวาดลวยลายเปิดฟลอร์เต้นรำ ก็ดังขึ้น อาทิตย์สบจังหวะรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ โค้งคำนับอัญชัน ขอให้เธอออกไปเต้นรำกับเขา “เอ่อ…อัญไม่ได้เต้นมานานแล้วค่ะ เห็นทีจะไม่ไหว” เธอออกตัว ทว่าคนดื้อก็ยังไม่เลิกรบเร้า “น่า…นะ เดี๋ยวผมสอนให้ นานทีปีหนจะมีโอกาสสักที อย่าปฏิเสธผมเลยนะครับ” เขาออดอ้อนทั้งแววตาและน้ำเสียง กระทั่งอัญชันใจอ่อนในที่สุด เมื่อถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังกับดาหลา ชรัมภ์รีบหาเรื่องชวนคุยขึ้นมาทันที “อยากเต้นบ้างมั้ยครับ น้าจะเป็นคู่เต้นให้” พ่อเลี้ยงอาสา “ปล่อยให้คุณแม่วาดลวดลายไปคนเดียวจะดีกว่านะคะ ดาไม่ค่อยถนัดนักค่ะ” เธอรีบออกตัว ชรัมภ์ยกแก้วเหล้าขึ้นเชื้อเชิญให้เธอชนแก้วกับเขา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่ม น่าแปลกที่หญิงสาวคนนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ชรัมภ์ยอมรับว่านับแต่ครั้งแรกที่เขาได้เจอเธอ ดวงหน้าหวานหยาดก็ย้ำอยู่ในความคิดคำนึง ฝังตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาเรื่อยมา มันเป็นความรู้สึกประหลาดล้ำซึ่งไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนใดมาก่อน “หนูมีแฟนหรือยัง?” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้หนุ่มใหญ่ตั้งคำถามกับหญิงสาวรุ่นราวคราวลูก “คุณอาหมายถึง Boyfriend” เธอเอ่ยด้วยคำภาษาฝรั่ง หัวคิ้วโค้งราวคันศรชิดเข้าหากันเล็กน้อย นึกใจในว่า ‘จำเป็นด้วยหรือที่เธอจะต้องแจกแจงรายละเอียดให้เขาฟัง’ “ใช่…น้าหมายถึงคนรัก หมายถึงเพื่อนชาย” “มีคนมาชอบอยู่หลายคนค่ะ” เธอตอบเหมือนไม่อยากตอบ แต่ก็ไม่เชิงว่าเลี่ยง “แล้วมีที่หนูชอบบ้างมั้ย…เอ่อ น้าหมายถึงในบรรดาหนุ่มๆพวกนั้น สวยๆอย่างหนู น้าเชื่อแน่ว่าคงมีหลายคน ตอนนี้หนูคบใครเป็นพิเศษอยู่หรือเปล่า?” เขายังอยากรู้ แอบยิงคำถามล้วงลึก ถามจบก็ตะแคงใบหน้า รอฟังคำตอบ “หนูยังไม่คิด…แล้วคุณน้าอยากรู้ไปทำไมคะ?” คราวนี้เธอเลี่ยงที่จะลงลึกในรายละเอียด ด้วยเห็นว่าไม่ใช่กงการอะไรของเขาเลยสักนิด “ในฐานะที่น้าเป็นผู้ใหญ่กว่าน่ะ” “แต่หนูก็ยี่สิบแล้วนะคะ ไม่เด็กแล้ว” “ข้อนั้นน้าเชื่อ…เรื่องสรีระร่างกายหนูไม่เด็กแล้วจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงวุฒิภาวะและการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆซึ่งควรจะให้ผู้ใหญ่อย่างน้าช่วยเป็นธุระ” ตนตัวโตกล่าวพลางสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว “อย่าโกรธนะ ที่น้าถาม” เขารีบออกตัว เมื่อเห็นเธอนิ่ง “ไม่โกรธค่ะ” เธอหันมายิ้มแห้งๆ “แต่ที่น้าต้องถามเป็นข้อมูลเอาไว้ เอ่อ…คุณแม่บอกแล้วใช่มั้ย” เขาเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเคร่งขรึมอย่างผู้ใหญ่ใจดี เหมือนเพิ่งนึกบางอย่างขึ้นมาได้ น้ำเสียงตอนท้ายประโยคที่ตวัดสูงอย่างจงใจให้รู้ว่าเธอควรรับรู้ในข้อตกลงบางอย่างระหว่างเขากับแม่ของเธอ “คุณแม่ยังไม่ได้บอกค่ะ…เรื่องอะไรคะ?” เธอแหงนหน้าขึ้นมองตาเขาด้วยสายตาสงสัย “ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป อัญชันจะลงไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ระหว่างนั้นหนูต้องอยู่ที่นี่ ช่วงที่แม่ไม่อยู่ น้าคงต้องรับหน้าที่ ‘ผู้ปกครอง’ ของหนูไปพลางๆ” เขาเน้นหนักตรงคำว่า ‘ผู้ปกครอง’ ทำสีหน้าเหมือน ‘จำใจ’ รับภาระ ทั้งที่ลึกๆแล้ว ‘เต็มใจที่สุด’ “หนูไปกับคุณแม่ก็ได้นี่คะ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระคุณน้า” เธอหาทางออกให้กับปัญหาที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “ไม่ได้…” “ทำไมล่ะคะ” “ไปด้วยไม่ได้ บอกแล้วไงว่าคุณแม่มีธุระสำคัญ เป็นเรื่องส่วนตัว ต้องสะสางให้จบก่อนกลับอเมริกา” เมื่อได้ยินที่เขาบอก ชรัมภ์แอบสังเกตเห็นว่าดาหลาทำหน้าง้ำงอ ทำให้เขามองเห็นว่าในบางมุม ดาหลายังมีความเป็นเด็กๆอยู่มาก หากก็น่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกินในสายตาของเขา “หนูว่าน้าแก่เกินไปมั้ย” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวอดก้าที่กระดกลงคอไปหลายแก้ว หรือไม่ก็คงเป็นเพราะความเป็นคนไม่อ้อมค้อมของเขา ทำให้พ่อหนุ่มลูกทุ่งโพล่งออกไปเช่นนั้น “ไม่แก่ค่ะ” เธอส่ายหน้า ไม่เชิงว่าเข้าใจนัก ในจุดประสงค์ของคนถาม “ชอบผู้ชายที่อายุมากกว่ามั้ย” เขาถามอีก “ชอบค่ะ” เธอตอบ “จริงอ่ะ…” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD