“แกยิ้มหน่อยสิเจ้าลูกชาย นี่เป็นวันที่แกสมควรที่จะต้องมีความสุขที่สุดนะ”
“จะให้ผมยิ้มมีความสุขได้ยังไงกัน ก็ผมไม่ได้ยินดีที่จะแต่งตั้งแต่แรก”
“ยังไงก็แต่งกันแล้ว ยอมรับความจริงเถอะนะลูก”
“เฮ้อออ น่ารำคาญที่สุดเลย” วิศหรือภวิศคือชื่อของเขานั่นเอง เขาถอนหายใจออกมาพรืดยาวด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ หลังจากที่วันนี้เขาเพิ่งผ่านการแต่งงานมาสดร้อน ๆ เพราะเขาถูกแม่บังเกิดเกล้าบังคับให้แต่งงานกับลูกสาวแม่บ้านของตัวเอง ถ้าใครรู้เรื่องนี้เข้าเขาคงอายจนไม่มีที่ซุกแน่ ๆ เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าเขานั้นเป็นคาสโนว่าตัวพ่อ ชาตินี้เขาจะไม่มีวันแต่งงาน แต่อยู่ดี ๆ กลับโดนคลุมถุงชนให้มาแต่งงานกับลูกแม่บ้าน พระเจ้าช่างเล่นตลกกับชีวิตเขาเสียจริงเลย
“ถึงจะไม่เต็มใจขนาดไหน ก็อย่าแสดงสีหน้าออกมาให้แม่แกเห็นเด็ดขาด”
“พ่อก็รู้ว่าผมถูกบังคับ”
“พ่อขอร้อง”
เขาไม่สนใจที่พ่อตัวเองกำลังพูด แต่หันไปมองเจ้าสาวของตัวเองที่กำลังคุยกับแม่เขาอย่างออกรสออกชาติ
“ช่วยดูแลตาวิศแทนแม่ด้วยนะลูก ถึงลูกแม่จะเกเรบ้างแต่หนูก็ทน ๆ หน่อยนะ มีอะไรก็ค่อย ๆ ปรับจูนเข้าหากัน”
“ค่ะคุณท่าน”
“ไม่เรียกคุณท่านแล้วสิ ตอนนี้หนูเป็นลูกสะใภ้แม่แล้ว ต้องเรียกแม่ว่าแม่นะ”
“แต่หนูไม่ค่อยถนัดเลยค่ะ เรียกคุณท่านมาตั้งนาน หนูเรียกเหมือนเดิมดีกว่า”
“ไม่ได้จ้ะ เรียกคุณแม่บ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินเอง ถ้าหนูไม่ยอมเรียกสักที มันจะชินได้ไง”
“ค่ะคุณแม่”
“ดีมากลูกสะใภ้แม่ ตาวิศมานี่สิลูก ไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น”
เขาได้ยินเสียงแม่ตัวเองเรียกก็จำใจเดินไปหาท่านที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“ตอนนี้แกไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว มีเมียเป็นตัวเป็นตนก็หัดทำตัวดีกว่าเก่า อย่าเอานิสัยเหลวไหลที่เคยเป็นมาใช้นะ”
“ครับ”
“ต่อไปมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วก็อย่าลืมกลับไปหาแม่ด้วยนะ แม่ก็คิดถึงลูกคิดถึงสะใภ้แม่เหมือนกัน”
“ครับแม่”
“แล้วอีกอย่าง รีบมีหลานให้แม่เร็ว ๆ ด้วย แม่อยากเป็นคุณย่าแล้ว”
“ผมยังไม่คิดเรื่องนั้นเลยครับ อีกอย่างลูกสะใภ้แม่เพิ่งเรียนอยู่ปีสี่เองนะ จะรีบมีลูกไปทำไม”
“อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วนะลูก”
“แม่ครับ”
“งั้นแม่ไปก่อนดีกว่า ลูก ๆ จะได้....”
“คุณแม่ เหนื่อยขนาดนี้ผมไม่มีอารมณ์เอายัยนี่หรอกนะ”
“เดี๋ยวแม่ตีเลย เรียกน้องว่ายัยนี่ได้ยังไง ห้ามให้แม่ได้ยินอีกนะ”
“ครับ~~” เขาตอบแม่ของตัวเองแบบส่ง ๆ ไป พร้อมกับเดินมาส่งท่านที่หน้าห้อง
“เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะคะคุณแม่”
“จ้ะลูก เออแม่ลืมเลย” ขณะที่แม่ของเขากำลังเดินออกจากห้องเขาไป อยู่ดี ๆ ท่านก็หยุดเดินพร้อมหันกลับมาหาเขา
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“หลังจากพ่อกับแม่ออกไป ทั้งสองคนห้ามออกมาจากห้องเด็ดขาดเข้าใจไหม จนกว่าจะถึงเช้าถึงจะออกมาได้”
“ทำไมครับ ทำไมผมจะออกไปไม่ได้”
“ก็โบราณเขาถือไงลูก ช่วยทำตามที่แม่ขอร้องด้วยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแม่มาหานะ”
“ครับ”
“แม่กลับจริง ๆ แล้วนะ”
พ่อแม่ของเขาก็ทยอยเดินตามออกจากห้องไป เขาจึงรีบกระชากปิดประตูจนเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับรีบเดินผ่านเจ้าสาวตัวเองที่ยืนก้มหน้าอยู่มานั่งลงบนปลายเตียง ใช้มือกระชากเนกไทที่ผูกอยู่ที่คอออกและโยนมันทิ้งอย่างไม่ไยดี
เธอที่เห็นแบบนั้นจึงลุกขึ้นเดินไปหาเขา เพื่อจะช่วยถอดชุด แต่เขาดันผลักเธอออกอย่างแรงจนเธอเซถลาไปด้านหลังเกือบล้มลงพื้น แต่ดีที่เธอทรงตัวได้เลยกลับมายืนดี ๆ “จะอาบน้ำเลยไหมคะ ไอจะไปเตรียมน้ำให้”
“สมใจเธอแล้วใช่ไหม ที่ได้แต่งงานกับคนรวย ๆ แบบฉัน”
เธอก็ยังไม่ยอมตอบคำถามของเขาเอาแต่ยืนก้มหน้าอยู่ จนเขาที่รู้สึกหัวเสียก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปกระชากแขนเธออย่างแรง
“โอ๊ยยยย”
“ฉันถามเธอไม่ได้ยินหรือไง ทำไมไม่ตอบคำถามฉัน”
“คุณวิศก็รู้ว่าไอปฏิเสธคุณแม่ไม่ได้”
“นี่เธอกำลังโทษว่าฉันไม่เก่งพอที่จะปฏิเสธเอง จนได้แต่งงานกับเธออย่างนั้นเหรอ”
“มันก็ใช่ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าคุณปฏิเสธตั้งแต่แรกเราสองคนก็คงไม่ได้แต่งงานกัน”
“ปากดีจริง ๆ งั้นวันนี้ฉันจะทำให้เธอปากดีแบบนี้ไม่ได้อีกเลยไอยรินทร์”
พรึ่บบ!!