เป็นของพี่นะครับ

1631 Words
สงคราม... ผมกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนเพราะตอนนี้ง่วงหนักมากมึนๆหัวด้วย แต่ยังไม่ทันจะหลับตานอนก็มีสายโทรเข้ามา ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับคู่หมั้นของผมเองไม่รู้จะโทรมาทำไม ผมดูเวลาตอนนี้เกือบตีสี่แล้วซึ่งที่เกาหลีคงน่าจะหกโมงเช้าแล้วผมถอนหายใจก่อนจะทำใจก่อนกดรับ "พี่ครามคะ" "ว่าไงเอม" ผมถามกลับไปอย่างเซ็งๆเพราะไม่อยากคุย "ทำไมพี่ทำเสียงไม่ค่อยโอเคเลยคะหรือว่าเอมโทรมารบกวนพี่" "ก็ตอนนี้มันกี่โมงเอมไม่ดูเวลาเลยหรือไง"  "ขอโทษค่ะ คือเอมกำลังจะบอกข่าวดีพี่" "ข่าวดี??ข่าวดีอะไร" "เอมจะกลับไทยมะรืนนี้แล้วนะคะ เอมคิดถึงพี่ครามแล้วก็รู้ว่าพี่ครามคิดถึงเอมด้วยเหมือนกัน เอมรู้สึกไม่ดีเลยอ่ะค่ะที่ไม่ได้ไปรับพี่ที่สนามบินวันนี้เอมก็เลยขอแม่กลับก่อน" "ไหนบอกกลับอาทิตย์หน้า แล้วธุระล่ะเสร็จแล้ว??" ผมพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้แค่ได้ยินได้ฟังเสียงของเอมอรผมก็ยิ่งเกลียดไม่อยากได้ยินไม่อยากเห็นหน้า "ธุระ?? อ่อสะเสร็จแล้วค่ะ"  "เรียบร้อยดีใช่ไหมธุระที่เอมรีบไปทำที่เกาหลี" อันที่จริงผมอยากจะถามว่าที่รีบไปทำแท้งไกลถึงเกาหลีเรียบร้อยดีใช่ไหมแต่ยั้งปากเอาไว้ได้ก่อน "ค่ะ" "ที่โทรหาพี่มีแค่นี้ใช่ไหมที่จะบอกพี่ง่วงจะนอนต่อ" "ค่ะ แต่มีอีกเรื่องนึงไว้กลับไปเราค่อยคุยกันนะคะรับรองพี่ต้องดีใจอีกแน่ๆ" "เรื่องอะไร" "ไม่บอกค่ะไว้กลับไปก่อนดีกว่าเอมเชื่อว่าพี่ต้องดีใจยิ่งกว่ารู้ว่าเอมจะรีบกลับไปหาพี่" "เรื่องอะไรก็บอกมาเลย เอมก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบอะไรที่มันคาราคาซังจะบอกก็บอกถ้าไม่บอกก็ไม่ต้องบอกแค่นี้นะ" ผมกำลังจะกดวางสายด้วยความหงุดหงิดแต่เสียงของเอมอรดังขึ้นมาในสาย "เดี๋ยวค่ะพี่ครามอย่าเพิ่งวาง" "ถ้ายังไม่ให้วางก็บอกมาว่าเรื่องอะไร" "เอม คิดว่าเราควรจะแต่งงานกันได้แล้วคือพี่ก็เรียนจบแล้วแล้วเอมก็เรียนจบแล้วเอมรอพี่มานานหลายปีเอมว่ามันควรถึงเวลาแล้วที่เราต้องแต่งงานกันสักที" "เหมือนเอมรีบนะ" "ก็ไม่ได้รีบนี่คะ คือเอมรักพี่รอพี่มานานหลายปีแล้วพอพี่กลับมาเอมก็อยากดูแลพี่อยากอยู่กับพี่ทุกๆวัน" หึรักพี่รอพี่มานานปลายปีอย่างนั้นเหรอ แม่งโคตรตอแหลโกหกทั้งนั้น ผมอยากพูดออกไปแบบนี้แต่ต้องเงียบไว้ผมคิดว่าเอาไว้พูดต่อหน้าน่าะสะใจกว่า "เอางั้นเหรอ" "ค่ะ พี่ครามว่าไงคะโอเคมั้ย" "เอมว่าไงพี่ก็ว่างั้นแล่ะเอาที่เอมสบายใจละกันอยากทำอะไรก็ทำ" "พี่ครามยังน่ารักตามใจเอมเหมือนเดิมเลย แบบนี้จะไม่ให้เอมรักพี่ได้ยังไงคะไว้เอมกลับไปเราไปดูฤกษ์ไปเลือกแหวนเลือกชุดเลือกบริษัทออแกไนซ์จัดงานแต่งกันนะคะ" "อืม" ผมโยนมือถือลงกลางเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ  ของขวัญ.... หลังจากออกมาจากห้องคุณสงครามฉันก็มาทำอาหารที่ห้องครัวเพราะฉันคงนอนไม่หลับ ฉันเผลอเอามือแตะปากตัวเองที่ถูกเขาขโมยจูบก่อนหน้านี้ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจูบฉันทั้งที่เขาเกลยดฉันยังกับอะไรไหนจะให้ฉันเรียกเขาว่าพี่อีก ยิ่งสายตาของเขาที่มองมันทำให้ฉันรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  "ขวัญทำไมตื่นเช้าจังเลยลูกนี่เพิ่งตีห้าเองนะ"  "อากาน!!" ฉันตกใจเมื่อได้ยินเสียงอากานจากทางด้านหลัง "เป็นอะไรทำไมหน้าแดงแบบนี้ลูก ร้อนเหรอหรือไม่สบาย" อากานเดินมาเอามือแตะหน้าผากฉัน "ก็ไม่ร้อนนี่นาทำไมหน้าแดงหูแดงขนาดนี้ลูก" "ปะ ปล่าค่ะขวัญไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่ทำไมคุณอาถึงตื่นเช่าจังเลยคะเพื่งตีห้าเอง" ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที "ว่าแต่อาตื่นเช้าเราเองก็ตื่นเช้ายิ่งกว่าอาอีก คืออาเป็นห่วงตาสงครามน่ะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าออกไปเที่ยวข้างนอกไม่รู้กลับมาหรือก็เลยลุกขึ้นมาเปิดกล้องวงจรปิดดูเห็นรถจอดอยู่ก็เบาใจ แต่จะให้กลับไปนอนต่อก็คงนอนไม่หลับอาก็เลยกะว่าจะมาทำอะไรในครับเพื่อฆ่าเวลาแต่พอดีเห็นเราอยู่ในครัว ว่าแต่ขวัญกำลังทำอะไรอยู่จ๊ะหอมมากเลย" "ขวัญกำลังทำไข่พะโล้ค่ะเห็นมีไข่อยู่ในตู้หลายฟอง" "อื้มมม ขอบใจนะลูก ว่าแต่ทำเยอะมั้ย" "ก็เยอะค่ะเผื่อเป็นอาหารเช้าด้วย" "ดีลูกเพราะไข่พะโล้ของโปรดตาสงครามเลย" พอได้ยินชื่อเขาฉันก็รับหันกลับมาทำอาหารหน้าเตาต่อ คือตอนนี้แค่ได้ยินชื่อของคุณสงครามใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว ไม่นะฉันต้องห้ามเป็นแบบนี้เขาเป็นใครฉันเป็นใครห้ามหวั่นไหวกับเขาเด็ดขาดแค่เขาจูบแค่นี้อย่าคิดอะไรเกินเลยเป็นอันขาดและที่สำคัญไปกว่านั้นเขาเป็นคู่หมั้นคุณเอมอรพี่สาวของฉันอีก ฉันคงต้องอยู่ห่างเขาไว้ หลังจากที่ฉันกับอากานและแม่บ้านอีกสองคนช่วยกันทำอาหารเพื่อนำไปทำบุญที่วัดเสร็จอากานก็ไล่ให้ฉันขึ้นมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปวัด โดยที่อากานให้แม่บ้านไปเอาชุดของฉันจากบ้านมาให้แล้ว ฉันยืนอยู่หน้าประตูห้องแต่ไม่กล้าเข้าไปเพราะคิดว่าคุณสงครามน่าจะยังนอนอยู่ข้างในยังไม่น่าจะตื่น แล้วฉันจะทำยังไงดี "อ้าวขวัญยืนทำอะไรหน้าประตู" "พี่ศึก" เป็นพี่ชนะศึกที่เดินออกมาจากห้องนอนของเขาซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง "เอ่อ ขวัญเพิ่งไปทำอาหารเช้ามากำลังจะขึ้นมาอาบน้ำค่ะ" "อื้ม ถ้างั้นพี่ลงไปรอข้างล่างนะเสร็จแล้วรีบลงไปล่ะ" "ค่ะพี่ศึก" หลังจากพี่ชนะศึกเดินลงบันไดไปแล้วฉันก็ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปอย่างช้าๆและเบาที่สุด แต่พอเดินเข้ามาปรากฏว่าเขาไม่อยู่บนเตียงแล้ว เขาคงจะกลับห้องของเขาไปแล้วแน่ๆ ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะรีบปิดประตูแล้วพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำ  ระหว่างที่ฉันกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แกร๊ก  แอร๊ดดด แกร๊ก เสียงเปิดปิดประตู??  ฉันรีบเอาผ้าเช็ดตัวพันรอบตัวแล้วยื่นหน้าออกไปดูที่หน้าประตูและมองไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ สงสัยฉันจะหูฝาดไปเอง ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินไปที่เตียงทีมีชุดของฉันพาดอยู่ แต่.... หมับ!!! เสียงกอด ฟอด ฟอด "หอมจังเลยครับ" ฉันหันหลังไปดูด้วยความตกใจ คือฉันจำเสียงของเขาได้ปรากฏว่าเป็นคุณสงครามจริงๆที่ฉันไม่รู้ว่าเขาเข้ามาในห้องตอนไหน หรือจะเป็นเสียงเปิดปิดประตูเมื่อครู่ แต่เมื่อกี้ฉันส่องดูทั่วห้องแล้วทำไมไม่เห็นเขาเลย "ปล่อยขวัญนะ" ฉันพยายามดึงแขนของเขาที่โอบเอวฉันเอวไว้แน่นแต่ยิ่งดึงเขาก็ยิ่งกอดรัดแน่นกว่าเดิม "ไม่อยากปล่อยเลยพี่อยากกอดขวัญเอาไว้แบบนี้นานๆเลย" "พี่ไม่ควรทำแบบนี้กับขวัญนะคะ" "ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อพี่...ชอบขวัญ ชอบมานานแล้ว" "........." เขาพูดว่าไงนะ ฉันหูฝาดฟังผิดใช่ไหม  "พี่อาจจะเคยแกล้งขวัญทำเหมือนเกลียดขี้หน้าขวัญแต่จริงๆแล้วพี่ชอบขวัญแต่พี่ไม่กล้าบอกเพราะพี่กล้วว่าขวัญจะถูกเอมอรกลั่นแกล้งเพราะเอมหวงพี่มากพี่ก็เลยต้องแกล้งทำเป็นโกรธเกลียดขวัญต่อหน้าเอมอรและทุกคน พี่ขอโทษนะครับที่เคยแกล้งขวัญตั้งแต่เด็ก" "พี่คราม" "พี่ดีใจจังที่ขวัญเรียกพี่แบบนี้ ขวัญจ๋าาา พี่อยากให้ขวัญเป็นของพี่ พี่สัญญาว่าจะรับผิดชอบแต่งงานกับขวัญ" "ไม่ได้..อื้ออออออ" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าไม่ได้ฉันไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นกับฉัน ฉันไม่อยากเป็นคนเนรคุณทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าคุณสงครามกับคุณเอมอรซึ่งเธอมีศักดิ์เป็นพี่สาวของฉันเป็นคู่หมั้นกันและมีแพลนจะแต่งงานกัน  จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ เขาจูบอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลฉันจนฉันแข้งขาอ่อนไปหมดไม่มีแรงที่จะผลักไสเขาออก ในขณะที่ฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจเพราะฤทธิ์จูบของเขาจู่ๆผ้าเช็ดตัวที่ฉันใช้พันตัวออกมาจากห้องน้ำก็ถูกเขาดึงจนหลุกร่วงลงไปกองที่พื้น อิสงครามแกอย่าทำอะไรลูกสาวช้านนนนนน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD