ความอับอาย...2

683 Words
“มีแต่เขาอยากได้ลูกสาวแม่กันทั้งนั้นแหล่ะค่ะ มีแค่แม่เท่านั้นแหล่ะที่เป็นก้างขวางคอจนไหมจะขึ้นคานอยู่แล้วเนี่ย” แม้ว่าสภาพจิตใจตอนนี้จะยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่จะทำให้มารดาจับผิดตนเองไม่ได้ เพราะคนอย่างมารดานั้นฉลาดยิ่งกว่าอะไร ถ้ารู้ว่าเธอเพิ่งนอนกับธีธัชมา มีหวังท่านจับเธอกับธีธัชแต่งงานกันแน่ๆ เธอก็เลยต้องเนียนๆ โวยวายตามนิสัยเดิมของตนเองเพื่อไม่ให้มารดาจับได้ “คนไหนดีก็ต้องผ่านด่านไปให้ได้สิ จะมาตกถังข้าวสารลูกสาวแม่ ก็ต้องอดทนสักนิดหนึ่ง หรือถ้าเอาแบบที่ผ่านโดยไม่ต้องทดสอบเลยนะ ก็ตาธัช สนใจมั้ยล่ะ แม่จะไปสู่ขอตาธัชให้ จะได้ลงจากคานทองนิเวศน์หลังนี้เสียที” ผู้เป็นมารดาเอ่ยออกมาอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคำพูดของท่านมันแทงใจดำเธอเหลือเกิน แต่งกับไอ้พี่ธัชเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย เธอก็นึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าระหว่างเธอกับธีธัชจะเป็นคู่รักกันได้ยังไง นี่ถ้ามารดาของเธอรู้เรื่องเมื่อคืน เธอต้องสิ้นอิสรภาพแน่ๆ ท่านจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด มันจะต้องเป็นความลับไปจนตาย ไม่อย่างนั้นชีวิตที่แสนเป็นอิสระของเธอ จะต้องจบสิ้นลงทันที “ไม่เอา ถ้าเป็นพี่ธัช ให้ไหมตายก่อนเถอะค่ะแม่ ไม่มีวันที่คุณแม่จะสมหวัง นี่อยากได้พี่ธัชเป็นลูกเขยจนไปเอาทำเนียมอินเดียมาใช้เหรอคะ ถึงขั้นจะยกขันหมากไปสู่ขอ แต่ไหมไม่มีทางให้แม่สมหวังหรอกค่ะ” ทอไหมเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น แม้ว่าเธอเป็นของเขาแล้ว เธอก็ไม่มีวันจะแต่งงานกับเขา การแต่งงานของเธอต้องเกิดจากความรัก ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดหรือความเหมาะสมเท่านั้น และทอไหมก็มั่นใจว่าธีธัชไม่มีทางเป็นผู้ชายคนนั้นของเธอ เพราะฉะนั้นมารดาอย่างมายุเสียให้ยาก ยังไงเธอก็ไม่มีวันเคลิ้มตาม อยากได้ธีธัชเป็นลูกเขย โดยไม่สนแม้กระทั่งความรู้สึกของลูกตัวเอง เธอรู้สึกงอนมารดาขึ้นมาทันที เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทีไร “ไม่แน่นะ ไอ้ที่กัดกันแบบนี้แหล่ะ ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง พออีกหน่อยกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ลงจากคาน ขี้คร้านจะจีบกันเอง ถ้าเป็นแบบนั้น แม่จะหัวเราะให้ดังๆ เลยล่ะคอยดู” คุณทอฝันเอ่ยเย้าบุตรสาว เพราะต้องการเห็นหน้างอเง้าด้วยความไม่พอใจของเธอ อยากสู้แม่ ก็ต้องโดนแม่สู้กลับแล้วล่ะ “ไม่มีวันค่ะแม่ ดูปากไหมไว้นะคะ ไม่มีวันจริงๆ” ทอไหมชี้นิ้วชี้ไปที่ปากตัวเอง พร้อมกับเอ่ยช้าๆ ชัดๆ ให้มารดาฟัง ซึ่งมารดาก็ได้แต่หัวเราะกับท่าทางของบุตรสาว สงสัยจะเกลียดจริงจัง ชาตินี้ที่ท่านใฝ่ฝันคงไม่มีวันเป็นจริง เสียดายจริงๆ ธีธัชคือคนที่ท่านไว้ใจ อยากจะฝากชีวิตของลูกสาวคนเดียวของท่านไว้ที่เขา แต่มันติดตรงที่บุตรสาวของท่านไม่เล่นด้วยนี่สิ เขาบอกว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แต่นี่ท่านแทบจะเอาลำธารราดรดบนจิตใจบุตรสาวแล้ว แต่กลับไม่แม้แต่จะหวั่นไหว มิหนำซ้ำยังต่อต้านซ้ำเสียอีก “ก็ไม่แน่ ถ้าแม่ยังไม่ตายแม่ก็ต้องหวังต่อไปเรื่อยๆ” คุณทอฝันเอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หระ “ไม่คุยกับคุณแม่แล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า คุยไปก็เหนื่อยใจเปล่าๆ” เมื่อเห็นท่าทางของมารดาที่ไม่ยอมรับความจริงแล้ว ทอไหมก็หลบฉากไปดีกว่า ก่อนที่สายตาอันแหลมคมของมารดา และสมองที่ชาญฉลาดของท่านจะจับสังเกตถึงความผิดปกติของเธอได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD