แต่ทั้งสองก็หาได้ใส่ใจไม่ เดินหนีออกมาจากคนพาลทันที
" เจ้าอย่าใส่ใจคำพูดของคนเช่นนั้นเลยนะฮุ่ยหราน "
" ไม่หรอกเจ้าค่ะ คนพาลเช่นนั้นข้าน้อยหาได้ใส่ใจ เพราะถึงอย่างไรข้าน้อยก็จะอยู่ดูแลคุณชายจนหายดีเจ้าค่ะ "
" อืม ข้าได้ยินที่ท่านพี่กับตาของเจ้าคุยกันแล้ว ยังไงก็ขอบใจเจ้าอีกครั้ง ที่เสียสละเวลาดูแลเหยียนจวิ้น "
หลังจากเดินไปส่งฮูหยินที่เรือนใหญ่ ฮุ่ยหรานก็เดินกลับมาที่เรือนเล็กของตนด้านหลังไม่ไกลจากเรือนของคุณชายเหยียน
" ท่านตายัง ปรุงยาอยู่หรือเจ้าคะ "
" อืม เจ้ากลับมาแล้วหรือ พาคุณชายไปถึงไหนกันล่ะ "
" พาไปที่กำแพงเจ้าค่ะ ดูท่าจะตกใจมากที่เห็นทิวทัศน์ภายนอกเช่นนั้น "
" อืม ก็เหมือนเจ้าแต่ก่อนตื่นเต้นจนร้องไห้ "
ฮุ่ยหรานยิ้มให้กับผู้เป็นตา แล้วคิดในใจ
" ใครบอกว่าตื่นเต้นกันล่ะท่านตา "
ก่อนที่จะเดินไปหาอะไรกิน พลบค่ำก็เดินไปดูคุณชายที่ห้องอีกครั้ง
" ไปไหนแล้วล่ะ หรือว่าจะหนีไปอีกแล้ว คุณชาย คุณชายเจ้าคะ ท่านอยู่ที่ไหน "
ฮุ่ยหรานเดินตามหาคุณชายคนเล็กของบ้าน จนไปได้ยินเสียงจากมุมหนึ่งของสวน
" พี่เหยียนจวิ้นเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ข้าได้ยินว่าพี่ล้มป่วยอีกแล้วหรือเจ้า "
ฮุ่ยหรานเดินเข้าไปหาจงฟานที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากคุณชาย หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามท่าทีเรียบร้อยเอ่ยถามอีกคนที่ยังคงมีสีหน้าของคนป่วยอยู่
หลงจวิ้นในร่างของเหยียนจวิ้น ยิ้มอย่างพอใจกับหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าตาสวยมาก แถมหน้าอกคงจะใหญ่มากด้วย ด้วยนิสัยหื่นของหลงจวิ้นที่แก้ไม่หาย แม้จะมาอยู่ในร่างของคนอื่นก็ยังเป็นเหมือนเดิม
" เธอ เออ เจ้าเป็นใครงั้นหรือ คือ เรารู้จักกันใช่ไหม "
" พี่เหยียนจวิ้นเหตใดพูดจาแปลกเช่นนี้เจ้าคะ หรือว่าเป็นเพราะตกน้ำจนทำให้เป็นเช่นนี้ "
คุณหนูโอเนียนเฟยเอ่ยถามคนที่มีใจให้ตน แต่เพราะนึกสนุกกับการปั่นหัวคนที่ไม่เจียมตนเช่นคนขี้โรคผู้นี้ สาเหตุที่คุณชายกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ก็เป็นเพราะว่าคุณหนูโอผู้นี้ แสร้งทำว่ามีใจแต่สุดท้ายก็ไปหมั้นหมายกับพี่ชายอีกคนของตน
" ฉัน ข้ากับเจ้าเราเคยรักกันใช่หรือไม่ ข้าได้ยินคนในบ้านพูดกัน "
" ในบ้าน พี่เหยียนจวิ้นเอ่ยถึงที่จวนนี้หรือเจ้าค่ะ "
" อืม ใช่ๆ ในจวนนี้ ทุกคนบอกว่าข้ากับเจ้าเรารักกัน "
หลงจวิ้นพูดออกไปทันทีเพื่อจะผูกมัดสาวสวยตรงหน้า เพราะคิดว่าอีกคนนั้นก็คงจะหลงในหน้าตาที่หล่อเหลาของตัวเอง แม้จะมีร่างกายที่ซูบผอมก็เถอะ
แต่คุณหนูเนียนฟางกลับหัวเราะออกมา ด้วยท่าทีเย้ยหยัน หลงจวิ้นสีหน้าเปลี่ยนทันที มีหรือที่มาเฟียใหญ่จะไม่รู้จักลูกไม้และท่าทีเช่นนี้ของหญิงสาวตรงหน้า
" คนอย่างข้านะหรือจะไปมีใจให้คนเช่นท่านได้ ฮ่า ฮ่า ชั่งไม่เจียมตัวเลยสักนิด คิดว่าข้าคุณหนูสกุลโอจะลดตัวไปรักกับคนขี้โรค ซ้ำยังไร้ประโยชน์เช่นนี้อย่างนั้นหรือ "
เอ่ยจบเนียนเฟยก็เดินสบัดหน้าออกไปทันที หลงจวิ้นมองตามร่างเย้ายวนนั้นอย่างนึกเสียดาย แต่ก็เพียงเสียดายรูปร่างเท่านั้น
" คุณชายขอรับ อย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะขอรับ "
จงฟานที่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วก็กลัวว่าผู้เป็นนายจะคิดสั้นอีก หลงจวิ้นหันมามองหน้าพี่เลี้ยงของร่างนี้ ก่อนสายตาจะเลยไปที่สาวน้อยที่ยืนมองอย่างวางเปล่า จึงทำทีเอ่ยถามออกไป
" ถึงเวลาต้องกินยาอีกแล้วใช่ไหม "
" เจ้าค่ะ "
ฮุ่ยหรานตอบออกมาสั้นๆ ก่อนที่จะเดินนำไปที่ห้อง อีกคนจึงรีบเดินตามไปทันที แต่เพราะร่างกายนั้นยังไม่แข็งแรงจึงทำให้เหนื่อยง่าย
ฮุ่ยหรานเทยาที่ต้มอยู่บนเตาใส่ถ้วยรอ อีกคนที่เดินเข้ามาโดยมีจงฟานพยุง เมื่อคุณชายนั่งลงฮุ่ยหรานก็ยกถ้วยยาวางที่โต๊ะ
" ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนะ "
" พี่จงฟานยังไม่ได้หาอะไรให้คุณชายทานหรอกหรือ "
" พอดีพี่มาถึงคุณชายก็เดินออกไปจากห้องแล้ว เลยยังไม่ได้หาอะไรให้คุณชายทานเลย "
" ถ้าเช่นนั้นคุณชายรอสักครู่นะเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปดูในครัวว่ามีอะไรที่พอจะทานได้บ้าง "
ฮุ่ยหรานเอ่ยจบก็เดินออกไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับบะหมี่ชามโตที่ส่งกลิ่นหอมจนหนุ่มทั้งสองต่างก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
" ในครัวไม่มีอะไรที่พอจะทำอาหารได้เลยเจ้าค่ะ คงจะทำไปที่เรือนใหญ่หมดแล้ว คุณชายทานได้ไหมเจ้าค่ะ "
" ได้สิ ถ้าเจ้าทำอร่อยพอ "
หลงจวิ้นรับถ้วยบะหมี่จากคนตัวเล็กก่อนที่จะสูดกลิ่นหอมของน้ำซุปแล้วใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมาสูดกินอย่างอร่อย
" พี่จงฟานยังมีบะหมี่เหลืออยู่ ถ้าพี่จะทานพี่ก็ไปตักเอานะ พอดีข้าถือมาไม่ไหว "
จงฟานที่ได้ยินเช่นนั้นก็เดินออกไปทันที
" ทำไมถึงถือมาไม่ไหวล่ะ ถ้วยแค่นี้เอง "
หลงจวิ้นมองคนตัวเล็กก่อนจะเห็นว่ามีผ้าพันมือไว้ หลงจวิ้นรีบจับมือเล็กมาดูทันที
" มือเธอเป็นอะไร ถูกมีดบาดเหรอ ทำไม่รู้จักระวัง "
เสียงเอ็ดจากคนที่นั่งอยู่ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนเจ็บตัว ทำให้ฮุ่ยหรานมองอีกคนนิ่ง ก่อนจะดึงมือกลับมา
" ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ทันระวังมีดเลยตกลงมา ข้าน้อยดันเอามือไปรับมีด มันเลยบาดเอาเจ้าค่ะ แต่ตอนนั้นข้าน้อยทำบะหมี่เสร็จแล้วนะเจ้าค่ะ ไม่มีเลือดป่นแน่นอนเจ้าค่ะ "
ฮุ่ยหรานเอ่ยออกมาด้วยคำพูดติดตลก หลงจวิ้นจึงหันไปทานบะหมี่ต่อ เมื่ออีกคนบอกว่าไม่เป็นไร แต่สายตาก็ยังจับจ้องคนตรงหนัา จงฟานเองก็เดินไปตักบะหมี่ในครัวมานั่งกินไม่ไกลจากผู้เป็นนาย
" มานั่งนี้สิ จะไปนั่งทำไมตรงนั้นล่ะ "
" คุณชายเรียกข้าน้อยหรือขอรับ "
" ในนี้ก็มีกันแค่สามคน ฮุ่ยหรานก็นั่งนี้แล้วฉันจะพูดกับใครได้ "
จงฟานั้นรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะนิสัยของคุณชายนั้นเอาแต่ใจและยังเจ้ายศเจ้าอย่าง แม้ตนจะเป็นคนสนิทที่ดูแลกันมานานแต่คุณชายเหยียนก็ไม่เคยให้ความสำคัญเลยแม้แต่น้อย
" ข้าน้อยนั่งได้หรือขอรับ "
" ฉันบอกให้นายนั่งนายก็นั่งสิ "
ฮุ่ยหรานมองท่าทีที่หวั่นกลัวของจงฟานก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมจงฟานและคนในจวนถึงไม่ชอบคุณชายเหยียนจวิ้นผู้นี้ คงไม่ใช่เพียงเพราะป่วยขี้โรคเป็นแน่
" คุณชายบอกว่านั่งได้พี่ก็นั่งเถอะ "
จงฟานจึงย่อนก้นนั่งลงบนม้านั่งข้างฮุ่ยหราน และทานบะหมี่อย่างอร่อย ทั้งสองทานบะหมี่หมด ฮุ่ยหรานก็ตั้งท่ารินยาให้คุณชาย
" มือเธอเจ็บก็ให้จงฟานทำสิ "
จงฟานหันไปมองที่มือของฮุ่ยหราน จึงรีบทำหน้าที่แทนทันที จงฟานส่งถ้วยยาให้คุณชาย เมื่อดื่มยาหมดหลงจวิ้นก็พูดขึ้น
" เธออย่าพึ่งไป ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วยสอน และก็นายด้วย ฉันอยากรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง และในบ้านนี้มีกี่คนที่ฉันต้องรู้จัก "
คำพูดที่สร้างความแปลกใจ ให้กับทั้งคู่ทำให้จงฟานและฮุ่ยหรานมองหน้ากัน
" เหตุใดคุณชายถึงเอ่ยเช่นนี้ขอรับ "
" คงเพราะฉันจมน้ำล่ะมั้ง อ่อแล้วก็เธอช่วยสอนวิธีการพูดแบบคนโบราณที่พวกเธอพูดด้วยนะ ฉันจะได้ทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่นๆเขา "
ฮุ่ยหรานยิ้มให้กับคนตรงหน้าที่มีท่าทีที่ดีขึ้น จงฟานแม้จะแปลกใจไม่น้อยแต่กลับรู้สึกว่าคุณชายเหยียนจวิ้นที่ตนช่วยขึ้นมาจากน้ำนี้ น่าจะดีกว่าคนเก่ามากจึงตั้งใจเล่าเกี่ยวกับจวนแม่ทัพให้ฟังอย่างละเอียด
" เอาละถึงตาเธอบ้าง สอนฉันว่าจะต้องพูดยังไงให้เข้ากับคนที่นี่ได้ "
เมื่อคุณชายเอ่ยเช่นนั้นฮุ่ยหรานและจงฟานก็บอกทุกอย่างเกี่ยวกับที่ตนรู้ จนดึกดื่นจึงได้แยกย้ายกันไปพัก