โอลิเวอร์โอบไหล่โรสิตาพาเดินกลับไปทางเดิม ร่างสองร่างที่เดินเคียงกันมาทำให้เอริกรู้สึกหงุดหงิดใจ โรสิตาคงไปยั่วยวนน้องชายเขาอีกแล้ว
ดูสิ... ถึงขั้นยอมให้โอบไหล่แบบนี้ มันน่านัก...
ชายหนุ่มกัดฟันกรอดคิดหาทางเล่นงานยายทอมตัวแสบ แล้วความคิดบางอย่างก็วาบเข้ามาในหัว
‘ผู้หญิงก็ได้ผู้ชายชอบหรือโรสิตา... ฉันไม่มีวันให้เธอมายุ่งกับ น้องๆ ของฉันอีก โรสิตา’
“พี่เอริกเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงได้ทำหน้าเครียดๆ” เสียงของไอรีนปลุกพี่ชายให้หลุดจากภวังความคิด เธอตื่นขึ้นมาแล้วหันไปเห็นพี่ชายทำหน้าบึ้งอยู่
เอริกส่ายหน้าไปมา “พี่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะไอรีน เดี๋ยวคงหาย” แสร้งนิ่วหน้าเล็กน้อย เหมือนคนปวดหัวจริงๆ
“ไอรีนว่าเรารีบกลับกันดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวไอรีนบอกพี่โอลิเวอร์ให้ขับเรือกลับเลย มาพอดีเลยค่ะ”
น้องสาวเห็นอาการพี่ชายน่าเป็นห่วงก็รู้สึกร้อนใจ ปกติเอริกร่างกายแข็งแรงไม่เคยเจ็บป่วย ถ้าเขาไม่อาการหนักจริงแทบไม่เห็นพี่ชายคนนี้แสดงอาการอะไร ไอรีนรีบลุกขึ้นโบกมือให้พี่ชายคนรองมาหา
“พี่โอลิเวอร์ มานี่เร็วๆ ค่ะ พี่เอริกแย่แล้ว!” เธอป้องปากตะโกนเรียกพี่ชายคนรองเสียงดัง เร่งให้เขารีบวิ่งมาหาไวไว ได้ผลเมื่อโอลิเวอรื วิ่งหน้าตาตื่นพร้อมกับลากแขนโรสิตาให้วิ่งตามมาด้วย
“เกิดอะไรขึ้นยายไอรีน ร้องโวยวายอย่างกับเ**กตื่นไฟ” โอลิเวอร์ถามน้องสาวเสียงหอบ เขาปล่อยมือโรสิตาเมื่อมาถึง แล้วหันไปขอโทษ “ขอโทษนะโรสพี่ตกใจ เลยลากโรสวิ่งมาด้วย”
โรสิตายิ้มให้ “ไม่เป็นไรค่ะ ไอรีนเป็นอะไรเหรอ” เธอถามเพื่อนอย่างห่วงใย
“ก็พี่เอริกน่ะสิ ปวดหัวมาก สงสัยจะไม่สบาย” ไอรีนบอกเสียงร้อนรน มองพี่ชายคนโตด้วยแววตาห่วงใย
“พี่เอริกเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ ปวดมากไหมครับพี่เอริก”” โอลิเวอร์จับแขนพี่ชายพลางเอ่ยถาม
“พี่... เอ่อ ยังปวดหัวอยู่เลย”
เอริกบอกเสียงอ่อนมือหนากุมขมับตัวเองไว้แน่น หน้านิ่วคิ้วขมวดสมจริง ขณะปรายตามองโรสิตาแวบหนึ่ง ดวงตาภายใต้กรอบแว่นกันแดดวาววับแฝงรอยเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าท่าทางที่เขาแสดงออกนั้นกลับแตกต่าง
“ผมว่าเรากลับกันดีกว่า ท่าทางพี่จะไม่ไหว” โอลิเวอร์ตัดสินใจชวนทุกคนกลับ
สองสาวรีบช่วยกันเก็บข้าวของลงเรือ เมื่อทุกคนขึ้นมาบนเรือแล้วโอลิเวอร์จึงจัดการให้เอริกนั่งด้านหลังติดกับโรสิตา ส่วนไอรีนให้มานั่งกับเขาที่ด้านหน้าแทน ก่อนหน้านั้นเอริกเป็นคนขับเรือ แต่ขากลับเขาปวดหัวหน้าที่นี้เลยตกเป็นของโอลิเวอร์ เอริกแกล้งทำหน้าเหมือนคนไม่สบายได้สมจริง จนน้องสาวอย่างไอรีนต้องเร่งให้พี่ชายคนรองขับเรือกลับเร็วๆ
โรสิตาจำใจต้องนั่งข้างเอริก ทั้งๆ ที่ไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้เลย ระยะทางจากเกาะเล็กกลับไปยังเกาะใหญ่ช่างไกลเหลือเกินในความรู้สึกของหญิงสาว โรสิตาพยายามขยับห่างจากชายหนุ่ม ดูเหมือนว่าเอริกจะยิ่งแกล้งนั่งเบียดชิดเข้ามาใกล้เธออยู่บ่อยๆ ยิ่งกระเถิบถอยหนีเขาก็เอนตัวตามมาหา
“ถอยออกไปห่างๆ หนอยได้ไหมคุณเอริก ที่นั่งฝั่งคุณมีตั้งเยอะ ทำไมต้องมานั่งเบียดฉันด้วย” หญิงสาวบอกเขาเสียงเบา ด้วยไม่อยากให้ไอรีนกับโอลิเวอร์ได้ยินเธอว่าเอริก
“ทำไม รังเกียจฉันมากเลยหรือไง ที่กับน้องชายฉัน ให้มันกอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่อายฟ้าดิน” เอริกเอ่ยเสียงขุ่น ยื่นหน้าหล่อเหลาของตนมาจนเกือบชิดใบหน้าอ่อนใสของหญิงสาว
“ฉันจะกอดกับใครมันเรื่องของฉัน”
โรสิตาเอนหน้าหนี ปรายตามองสองคนที่อยู่หัวเรืออย่างระแวง เกรงทั้งสองจะหันกลับมาเห็น เธอไม่อยากให้โอลิเวอร์กับไอรีนต้องทะเลาะกับพี่ชายคนโตเพราะปกป้องเธอ
“ฉันจะไม่ว่า ไม่สนใจด้วยซ้ำ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่น้องชายของฉัน อยากจะร่านจะแรด ก็ไปหาคนอื่น หึ ถ้ามีใครเขาเอาเธอลงนะ” เขาแค่นเสียงเยาะหยัน ร่างหนาขยับมาเบียดร่างเล็กกว่าจนแทบแบนติดขอบที่นั่ง
โรสิตากัดฟันข่มความโมโหของตัวเองไว้ ทั้งๆ ที่อยากกระโดดไปข่วนหน้า และบีบคอคนปากเสียให้ตายคามือ เขาช่างมีความคิดในด้านต่ำได้ร้ายกาจนัก ปากของเขาก็สรรหาคำพูดมาต่อว่าเธอได้อย่างเจ็บแสบ ราวกับซ่อนสุนัขไว้ในปากฝูงใหญ่
“คุณมันคิดเป็นแต่เรื่องต่ำๆ ชอบจับผิดหาว่าคนอื่นวิปริต ตัวคุณเองก็โรคจิตเหมือนกัน”
เอริกกัดฟันกรอด โมโหจนลมออกหู เขาขยุ้มไหล่สองข้างของโรสิตาเต็มแรง ดวงตาลุกวาบด้วยความโกรธจนแทบเผาร่างน้อยให้เป็นจุณ
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ ปล่อยฉันนะคุณเอริก”
โรสิตานิ่วหน้า น้ำตาคลอด้วยความเจ็บจากแรงบีบของมือหนา แต่ไม่กล้าร้องโวยวายให้โอลิเวอร์หรือไอรีนได้ยิน ทำได้เพียงสะบัดตัวหนีจากเกาะกุมของเขา
เอริกยิ่งได้ใจเมื่อรู้ว่าเธอไม่กล้าร้องเสียงดัง ชายหนุ่มปรายตามองน้องชายกับน้องสาวที่อยู่ด้านหน้าเรือ โอลิเวอร์ตั้งอกตั้งใจขับเรือ ไอรีนเองก็ไม่ได้หันกลับมามองดูด้านหลังเลย นั่นทำให้ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้ายหาทางเล่นงานเหยื่อสาวอย่างเมามัน
“เธอกล้าว่าฉันโรคจิต และรู้หรือเปล่าว่าคนโรคจิต เขาชอบทำอะไรบ้าง”
เขายิ้มร้าย ยื่นหน้ามากระซิบข้างใบหูด้วยน้ำเสียงกระเส่าชวนขนลุก พร้อมกับแลบลิ้นร้อนมาตวัดเลียใบหูขาวสะอาดของเธอแผบหนุ่ง ก่อนจะขบเม้มติ่งหูของหญิงสาวแรงๆ ทำเอาเจ้าของใบหูผวาเยือกหน้าตาตื่น ยกมือผลักอกเขาแล้วเอนหน้าหนีด้วยความหวาดกลัว ช่างเป็นอากัปกิริยาที่ชวนให้ขบขันยิ่งนัก เอริกหัวเราะในคอรู้สึกสนุกที่ได้กลั่นแกล้งโรสิตา เขาไม่หยุดเพียงแค่นั้นเมือสอดแขนรวบเอวคอดของเธอดึงรั้งให้เข้ามาแนบชิดลำตัวหนาของตน มืออีกข้างก็บีบขยำสะโพกกลมกลึงของเธอแรงๆ
โรสิตาตัวแข็งทื่อรู้สึกหวาดกลัวจนร้องไม่ออก ท่าทางของเอริกหื่นจัดและดูคุกคามราวกับเป็นโรคจิตจริงๆ เขาน่ากลัวกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกเขาดึงรั้งตัวไปแนบชิดไม่พอเขายังบีบก้นเธอแรงๆ อีก หากดวงตาของเขาไม่อยู่ใต้แว่นกันแดดสีดำ เธอคงเดาได้ว่าเขาหื่นจริงๆ หรือแค่แกล้งเธอให้หวาดกลัว หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรงคิดหาทางเอาตัวรอด หากยังปากหนักไม่ยอมร้องบอกให้โอลิเวอร์กับไอรีนรู้ เขาคงฉวยโอกาสรังแกเธอแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเกาะแน่
“ปล่อยฉันนะคุณเอริก”
โรสิตาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แต่ช่างทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อมือหนวดปลาหมึกของเขายังคงลูบไล้เนื้อตัวเธอไม่หยุด
“ไม่ปล่อยมีอะไรไหม”
เอริกยิ้มพราย ยั่วเย้าหญิงสาวในอ้อมแขนเล่น เขากอดรัดร่างนุ่มหอมไว้แน่น จนหน้าอกอวบใหญ่ของเธอเบียดแนบกับแผงอกหนาของเขา มันให้ความรู้สึกดีชะมัด ใครจะยอมปล่อยง่ายๆ เล่า มือหนาข้างหนึ่งกอดรวบร่างบางไว้ อีกข้างก็ลูบไล้ไปทั่วกายสาว ตรงไหนนุ่มหยุ่นก็ขยำเล่น ตรงไหนเรียบลื่นก็ลูบคลึง ร่างกายของโรสิตาช่างวิเศษนักยิ่งสัมผัสยิ่งทำให้เขารู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก ผ่านผู้หญิงมาก็มากแต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นระทึกเสมอ ความเป็นชายร้อนรุมจนแทบควบคุมไม่อยู่ ไม่คิดว่ายายทอมสาวคนนี้จะมีเสน่ห์ยั่วยวนใจเขาขนาดนี้
“ไม่ปล่อยใช่ไหม นี่แหนะ”
โรสิตาสิ้นความอดทนจากกลัวเมื่อความโมโหเข้ามาแทนที่ความกล้าจึงบังเกิด เธอไม่ยอมให้เขารังแกเธออีกต่อไปแล้ว เป็นไงเป็นกัน หญิงสาวตัดสินใจยกขาขึ้นแล้วกระทืบเท้าเขาเต็มแรง
“โอ๊ย!”
เอริกร้องลั่น เขาคลายแขนปล่อยร่างบางในอ้อมกอดทันที พร้อมๆ กับที่น้องชายกับน้องสาวหันมาดู