“ปล่อยช้านนน...”
เสียงแผดร้องแสบแก้วหูที่ดังลั่นมาตลอดทางของหญิงสาวเพิ่งได้รับการตอบสนองก็ตอนที่ชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำสนิทโยนเธอเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง ก่อนจะจัดการปิดประตู
จิดาภาถลาตามไปหมายจะเปิดออกอีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เดาว่าอีกฝ่ายคงเฝ้าอยู่หน้าห้องเป็นยักษ์ปักหลั่น เธอหนีออกไปทางนี้ไม่ได้แน่
ต้องหาทางอื่น!
จิดาภาจึงหันกลับมา เพ่งมองไปรอบๆ เผื่อจะพบลู่ทางบ้าง แต่ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าห้องนี้ดูโอ่อ่ากว้างขวาง การตกแต่งหรูหราจนเธอต้องกระพริบตาอยู่หลายครั้ง เพราะคิดว่าห้องที่พวกเขาลากตัวเธอมาน่าอับทึบ คับแคบและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเสียอีก
“นี่พวกนายพาฉันมาผิดห้องรึเปล่า”
หญิงสาวตะโกนถามคนข้างนอกให้แน่ใจ แต่เสียงห้าวลึกที่ตอบกลับนั้นดังมาจากในห้องแทน
“ไม่ผิดหรอก”
จิดาภาหันขวับ เพ่งมองดวงตาวาววับของใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ท่ามกลางแสงนีออนสีส้มสลัว ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินล้วงกระเป๋าก้าวออกมาให้เธอเห็นชัดๆ ด้วยท่วงท่าสบายๆ แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกน่าหวาดหวั่นอันตรายจนเธอต้องเผลอก้าวเท้าถอยหนีโดยไม่รู้ตัว
กลัว!
เป็นสิ่งเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนี้ สายตายังคงมองสบดวงตาคมกริบของเขาโดยไม่หลบ ไม่ใช่กล้าหาญ แต่เธอกลัวจนไม่กล้าขยับตัวเลยต่างหาก แม้แต่จะหายใจก็ยังเบาหวิว ด้วยเกรงคนหน้าดุจะรำคาญแล้วจับเธอเชือดให้ตายอนาถเสียเดี๋ยวนี้
หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากเย็น เมื่อเขากระตุกยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถาม
“เธอเป็นใคร”
“......”
จิดาภาไม่ได้ตั้งใจจะยียวน ที่ไม่ตอบเพราะคลำหาเสียงตัวเองไม่เจอ แต่คงไปกระตุกต่อมขี้รำคาญของเขาเข้า ปากหยักหนาจึงเอ่ยเสียงเข้มขึ้น
“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ”
เท่านั้นแหละ... เธอก็รีบละล่ำละลักตอบ
“ฉะ... ฉันเป็นเด็กคุณ”
“เด็กฉัน?”
เขาเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ เหมือนจะบอกให้เธอรู้ตัว ทำเอาจิดาภาหน้าร้อนเห่อ อยากจะกัดลิ้นตายไปให้รู้แล้วรู้รอด ดีกว่าทนอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นจนหายใจแทบไม่ออกแบบนี้
ก็น่าอยู่หรอกนะที่เขาจะดูถูกเธอ
เพราะถ้าเทียบกัน... เธอกับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับฟ้าและเหวนั่นละ!
คนที่กำลังสอบสวนเธออยู่เป็นผู้ชายที่หล่อเหลาเอาการ แม้หน้าตาจะดูเคร่งเครียดดุดัน แต่เค้าโครงนั้นกอปรกันอย่างลงตัวเหมือนศิลปินสร้างสรรค์ เขามีดวงตาเรียวคมสีเขียวอมเทาอย่างมีเสน่ห์ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักหนาได้รูปสวย และมีปลายคางเรียวแหลมบึกบึนสมชายชาตรี
ที่สำคัญ... ขนตาเขายาวเป็นแพจนผู้หญิงแท้อย่างเธอยังต้องนึกอิจฉา
ยิ่งรูปร่างของเขายิ่งเพอร์เฟกสมบูรณ์แบบ ทั้งสูงใหญ่ ขายาว กล้ามท้องแน่นปั๋งเป็นลอนซิกแพก มิหนำซ้ำหน้าอกของเขาก็หนั่นหนาเป็นแผงนูนเด่น ดันตัวออกมาจากเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมใส่อยู่ สาวคนไหนได้เห็นเป็นต้องอยากลูบไล้ทุกราย
การแต่งตัวของเขาก็เนี้ยบไปทั้งตัว เสื้อผ้าเครื่องประดับทุกชิ้นแล้วเป็นแบรนด์เนมระดับโลก ผมเผ้าถูกจัดทรงเสยไปข้างหลังแบบคลาสสิก แต่เหมาะเหม็ง ยิ่งทำให้ดูมาดเข้มหล่อเหลาชวนให้ลุ่มหลง บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ว่าหรูเริ่ดมากแค่ไหน...
สรุปได้ว่าผู้ชายตรงหน้าดูดีมีระดับ แตกต่างจากเธอที่ดูอย่างไรก็ไม่แคล้วเหมือน ‘ผู้หญิงอย่างว่า’
“ถ้าเธอเป็นเด็กฉัน ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นหน้าเลยล่ะ”
จิดาภาดึงสติกลับมา เมื่อถูกผู้สอบสวนยิงคำถาม
“เออ... ฉันเป็นเด็กใหม่ เพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรก”
ฌอห์นกระตุกยิ้ม เมื่อหล่อนสะเพร่าเล่นตอบเขาแบบส่งๆ หล่อนคงไม่รู้ว่าสาวๆ ในสังกัดของเขากว่าจะผ่านเข้ามาทำงานในไนต์คลับได้ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้น นอกจากความสวยที่หล่อนผ่านฉลุยแล้ว ทุกคนต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด หากปกปิดแม้แต่นิดเดียวแล้วเขาเกิดรู้ จะโดนคัดออกทันที
หลังจากนั้นทุกคนจะต้องตรวจโรค ต้องผ่านการอบรม แต่งเสริมเติมสวยจนพร้อมที่จะทำงานแล้วนั่นละ ถึงจะได้เฉิดฉายออกมาต้อนรับแขกเหรื่อระดับสูงในไนต์คลับแห่งนี้
อันที่จริงเขาจะบีบหล่อนให้ตายคามือเดี๋ยวนี้เลยก็ย่อมได้
แต่ยังก่อน...
เขาจะยังไม่เชือดหล่อนตอนนี้ คงเพราะแววตาตื่นกลัว แต่ฉายแววฉลาดเป็นกรดคู่นั้นละมั้งที่ทำให้เขาเกิดสะดุดใจ ฌอห์นเลยนึกสนุกอยากจะไล่ต้อนหล่อนอีกสักหน่อย
อยากรู้นักว่าหล่อนจะแถไปได้ถึงไหน?