บทที่ 6 ทำงานแก้เบื่อ

1444 Words
วันต่อมาเคทตื่นมาเตรียมอาหารให้คุณสามีแต่เช้ามืดก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปทำงาน เคทตั้งใจออกเวลานี้เพราะจะได้ไม่ต้องเจอหน้าคุณสามี เธอเบื่อท่าทีเย็นชาของเขา เบื่อที่เขาทำราวกับเธอเป็นเชื้อโรค เขาดูจำใจฝืนทนเหลือเกินที่ต้องทนอยู่กับเธอ “คุณเคท” “คุณชา สวัสดีค่ะ” สองสาวเจอกันที่ลิฟต์พอดี “มาเช้าจังเลย” น้ำชาเอ่ยทัก “เคทมีงานที่ต้องเคลียร์น่ะค่ะ” จริง ๆ แล้ว เคทแค่ไม่อยากเห็นหน้าวีวิทย์ต่างหาก “คุณชาล่ะคะ มาเช้าเหมือนกันเลย” “วันนี้พี่คุณมีงานเช้า น้ำชาเลยไปส่งค่ะ งานสำคัญ เลยอยากให้กำลังพี่เค้า” “น่ารักกันจัง” แบบนี้สิถึงจะเรียกสามีภรรยาจริงๆ เคทนึกในใจ “ขอบคุณค่ะ เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะคะ” “ได้ค่ะ” ทั้งสองแยกย้ายกัน น้ำชาเดินเข้าไปในห้องผู้บริหารขณะที่เคทก็เดินไปที่โต๊ะของตนเองที่รวมกับพนักงานสาวๆ คนอื่นซึ่งวันนี้เคทเป็นคนแรกที่มาถึง เคทนั่งทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงาน โชคดีแค่ไหนที่เธอได้ออกมาทำงาน เคทไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเองที่ต้องอยู่แต่ในเพนท์เฮ้าส์รอคุณสามีผีเข้าผีออกมากลับมาบ้าน ถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตคงเหี่ยวเฉาไม่น้อย เคทนั่งทำงานไปเรื่อยๆ เกือบสิบโมงกว่าพนักงานคนอื่นๆ จะมากันครบ พนักงานเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของที่นี่เป็นผู้หญิง เพื่อนหญิงพลังหญิงที่ตอนทำงานก็แสนจริงจังแต่ตอนไม่ทำงานก็คุยเก่งไม่มีแผ่ว “พี่เคท” “คะ” ช่วงสายสาวๆ พักเบรกด้วยการนั่งจิบชา พวกเธอที่นี่สนอกสนใจชีวิตของเคทเป็นอย่างมาก “การมีสามีรวยมันรู้สึกยังไงเหรอพี่” “ก็ปกตินะ” “แล้วพี่เคทมาทำงานทำไมเหรอคะ เงินเดือนที่นี่ก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย” อิงฟ้า รุ่นน้องที่ทำงานเอ่ยถาม “ถามได้ยัยอิง ก็แก้เบื่อไง ใช่ไหมคะพี่เคท” “จะว่าไปก็อิจฉาพี่เคทกับคุณน้ำชาจริงๆ ที่ได้สามีทั้งหล่อทั้งรวย” คนภายนอกยังมองว่าชีวิตสมรสของเคทนั้นสุดแสนจะเพอร์เฟคแต่จะมีใครรู้บ้างนะว่ามันปวดหัวมากแค่ไหน “ทำไมต้องอิจฉา น้องอิงก็มีแฟนนี่คะ” เคทหันไปถามเพื่อนร่วมงานอย่างเอ็นดู “อิงก็อยากมีโมเม้นท์มาทำงานแก้เบื่อบ้าง ไม่ใช่ต้องทำงานหาเลี้ยงกิเลสตัวเองไปวันๆ” เคทได้ฟังก็หัวเราะออกมาก่อนจะส่งยิ้มให้ “ชีวิตจริงไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นหรอกนะคะน้องอิง” “โอเคค่า อิงจะพยายามเชื่อพี่เคทละกัน” พนักงานที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรในการทำงานกับเคท ภรรยาหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท หากคนที่ดูเธอแค่โปรไฟล์คงคิดว่าเธอนั้นเป็นพวก สวย เริศ เชิด หยิ่ง เพราะเธอมีคุณสมบัติครบที่จะทำแบบนั้นได้อย่างไม่น่าเกลียด แต่ทว่าตัวจริงแล้วเคทกลับเป็นคนเข้าถึงง่าย ใช้ชีวิตสบายๆ กินง่ายอยู่ง่าย ไม่ถือตัวแถมยังเป็นคนคุยสนุกทีเดียว ไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็มักแวะมาคุยกับเธอเสมอ เมื่อถึงเวลาเที่ยงน้ำชาก็เดินออกมาชวนเคทไปทานมื้อเที่ยงใกล้ๆ บริษัท ระหว่างทางทั้งสองก็พูดคุยกันตามปกติแต่ทว่าเคทก็รู้สึกได้ว่าน้ำชาไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ เจ้านายสาวส่งยิ้มให้เคทอย่างอ่อนโยนในขณะเดียวกันก็เหมือนมีเรื่องที่อยากถามจนเคทเองก็อดสงสัยไม่ได้ “คุณชามีอะไรหรือเปล่าคะ” “คะ เออ ไม่มีอะไรค่ะ” น้ำชาส่งยิ้มให้เคทพลางตักอาหารเข้าปาก “ถ้ามีอะไรก็คุยกันได้นะคะ” เคทส่งยิ้มให้เพราะสำหรับเธอแล้วน้ำชาก็คือเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่ที่เมืองไทย “เอ่อ” “คือว่าเมื่อคืนพี่คุณเขาหลุดพูดอะไรบางอย่างกับชาน่ะค่ะ” “อะไรเหรอคะ” “คือชาบ่นพี่คุณว่าทำไมต้องออกไปคลับกับพี่วิทย์ปล่อยๆ” “แบบว่าชาไม่พอใจนิดๆ เพราะทั้งคู่ แบบว่า แต่งงานแล้ว” เคทพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ชาคิดว่าคุณเคทเองก็คงไม่พอใจเหมือนกัน ชาพูดไปแบบนี้ แต่ว่าพี่คุณก็หลุดพูดมาว่า คุณเคทกับพี่วิทย์ แบบว่า เอ่อ ต่างคนต่างอยู่” “...อ๋อ” เคทนิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มให้น้ำชา “ใช่ค่ะ” “คุณเคท!” “มันก็ไม่แปลกนี่คะ เคทกับพี่วิทย์แต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่ขอร้อง ไม่ได้รักแต่ต้นเหมือนคู่คุณชา” “แล้วคุณเคทโอเคไหมคะ” “โอเคค่ะ เคทโอเค เคทสบายมากค่ะ” “มีโอกาสจะพัฒนาเป็นอย่างอื่นไหมคะ” “เคทดูแล้ว ไม่น่ามี” “พี่วิทย์คงจะเกลียดขี้หน้าเคทเต็มทน ส่วนเคทเองก็ไม่ได้เกลียดอะไรหรอกนะคะ แต่ก็ไม่อยากสุงสิงเท่าไหร่” “ถ้าคุณเคทโอเค ชาก็สบายใจ” “จริงๆ พี่วิทย์เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะคะ แต่เรื่องผู้หญิงชาก็ไม่รู้เหมือนกัน ชาไม่เคยเห็นพี่เขามีแฟนเลย มีทีเดียวก็มีภรรยาเอ่อ คุณเคทเนี่ยล่ะค่ะ” “พี่เขาคงทำใจยากน่าดู” เคทแกล้งพูดเล่น “ก็คงจะจริง” น้ำชาขำ “หรืออาจจะดีใจ” “อะไรนะคะ” เคทงงกับคำพูดน้ำชา “ไม่เอาน่าคุณเคท ผู้หญิงน่ารักๆ แบบคุณเคทใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ทั้งนั้น” “คุณชาเป็นคนแรกเลยนะคะที่พูดแบบนี้” ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนจะนั่งทานข้าวต่อ “แล้วคุณตาคุณเคทเป็นยังไงบ้างคะ” “คุณตาสบายดีค่ะ เคทหมายถึงคุณภาพชีวิตของวาระสุดท้าย คุณตามีความสุขดีค่ะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วเคทก็จะไปหา” “งั้นชาขอไปด้วยได้ไหมคะ คุณตาจะได้เห็นเพื่อนคุณเคทด้วย” น้ำชาเอ่ยอย่างใจดีเพราะคิดว่าชายชราน่าจะดีใจที่เห็นหลานสาวมีเพื่อน “ขอบคุณมากๆ นะคะ คุณตาคงมีความสุขที่รู้ว่าเคทมีเพื่อนที่เมืองไทยซะที” “ค่ะ” “คุณเคทไม่มีเพื่อนที่นี่เหรอคะ” “ไม่มีเลยค่ะ เคทไปอยู่อเมริกาตั้งแต่สี่ขวบ ที่นี่เคทรู้จักแค่ครอบครัวพี่วิทย์ นอกนั้นก็ไม่มีใครที่ไหน” “ไม่มีญาติเลยเหรอคะ” “คุณตาบอกว่า คุณตาเป็นลูกหลานคนจีน ตอนเด็กบ้านจนมากเลยขอออกมาตายเอาดาบหน้า คุณตาแต่งงานกับคุณยาย แต่คุณยายก็เสียตอนคุณแม่เกิด ทั้งสองคนไม่มีญาติที่ไหน พอคุณยายเสียคุณตาก็เอาแต่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวจนแทบไม่มีเวลาเลี้ยงแม่” น้ำชาฟังเคทพูดอย่างตั้งใจ “แล้วคุณตากับคุณปู่พี่วิทย์ก็ได้เจอกันแล้วก็ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว จนลืมว่ามีแม่ แม่มีเคท คุณตาก็ยังไม่สนใจ จนสุดท้ายแม่ก็ฆ่าตัวตาย” “คุณเคท” น้ำชาแตะที่หลังมือเคทเบาๆ อย่างให้กำลังใจ “คุณตาบอกว่าตอนนั้น คุณตาเพิ่งได้สติ ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินอีกต่อไป” “คุณตายกทุกอย่างให้ปู่พี่วิทย์ แล้วก็พาเคทไปใช้ชีวิตใหม่จะได้ลืมเรื่องเลวร้าย แล้วคุณตาก็ทำได้ คุณตาเลี้ยงเคทมาเป็นอย่างดีค่ะ” “คุณตาเก่งมากเลยนะคะ” “ขอบคุณค่ะ” “คุณเคทไม่ต้องห่วงนะคะ อยู่ที่นี่ไม่เหงาแน่นอน ชามีเพื่อนเยอะ” “ดีเลยค่ะ” “คุณเคท” “คะ” “วันศุกร์หน้า งานวันเกิดยัยดาว เพื่อนชาคนที่เป็นดารา จำได้ไหมคะ” “จำได้สิคะ” “ไปด้วยกันไหม ไปสนุกกัน” น้ำชาเอ่ยชวนหญิงสาวอย่างใจดี “เคทไปได้จริงๆ เหรอคะ” เคทถามอย่างตื่นเต้น “ไปได้แน่นอนค่ะ ว่าแต่พี่วิทย์จะไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ” เคทที่ได้ยินแบบนั้นหัวเราะออกมา “ไปได้แน่นอนค่ะ พี่วิทย์ไม่สนใจอะไรเคทอยู่แล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD