1. บทนำ
~เคล้ง~
"มึงกล้าเล่นตุกติกกับพวกกูเหรอ!" มาเฟียหนุ่มอย่างปอร์เช่ส่งเสียงเหี้ยมโหดถาม ในบรรยากาศของบ่อนคาสิโนรายใหญ่มีกฏคุมเข้ม
แต่ทว่าชายหนุ่มตรงหน้าเล่นพนันเสียไม่ยอมจ่ายเงิน พยามหาข้อกังขาให้ผู้เล่นคนอื่นในแง่คดโกง
"พวกมึงตั้งใจโกงกูชัดๆ กูเล่นมาตั้งนานยังไม่ได้ทุนคืนเลยสักบาท!" อัฐบอก ท่าทางดั่งกับผีพนันเข้าสิงเดินวนรอบโต๊ะไพ่คาสิโน คอยเฝ้ามองพนักงานคอยแจกไพ่รอบต่อไป
ตุ๊บ! ปลายขายาวยกถีบขึ้นในทันที
"มึงมาพูดพล่อยๆ ในถิ่นกูอย่างนี้ได้ไงว่ะ!"
"ถ้าพวกมึงไม่โกงกูจริง แล้วทำไมกูถึงไม่ได้ทุนคืนบ้างว่ะ!"
"ไอเวรเอ้ย!!! น้ำหน้าอย่างมึงกูให้เข้ามาในนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว หรืออยากจะตายเป็นศพออกไป!" ปอร์เช่พุ่งมากระชากคอเสื้อคู่กรณี ส่งสัญญาณไม่ให้ลูกน้องคนสนิทเข้าช่วย
เพราะระดับเขาแล้วย่อมไม่เคยแพ้ใครหน้าไหน ยิ่งพวกนักพนันกระจอกๆ ทั่วไป ไม่มีทางจะลุกสู้ขึ้นมาได้
"ปล่อยกู! กูไม่เล่นต่อก็ได้ว่ะ!"
"น้ำหน้าอย่างมึง! ยังไงกูก็ไม่ให้เข้ามาในนี้อีกแน่!"
"แต่มันยังติดหนี้บ่อนเราอีกสองล้านนะครับนาย" ครามรีบแทรกบอก
"เดี๋ยวกูก็หามาจ่ายได้เองนั่นแหละ ปล่อยกูสิว่ะ" อัฐพูด ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังสู้แรงมาเฟียเจ้าของถิ่นไม่ได้เลย พวกนักพนันคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์รีบร่นถอย กลัวจะเป็นลูกหลงพลอยบาดเจ็บไปอีกคน
"ศพที่แล้วก็บอกกับกูอย่างนี้เหมือนกัน" ร่างสูงน่าเกรงขามย่อลงตัวลงเล็กน้อย ไปกระชากคนนอนกับพื้นให้เงยหน้ามาสนทนา นิ้วมือยาวปูดโปนเส้นเลือดร่ายล้อม จับอาวุธกระบอกสีดำเตรียมมาใกล้คู่กรณี
"ยะอย่าทำกูนะเว้ย! พวกมึงอยากได้อะไรในบ้านกูไปเอามาจำไว้ก่อนเลย บอกไว้ก่อนว่าบ้านกูก็หลังใหญ่ใช่เล่นนะเว้ย!" อัฐบอก เพราะเขารู้ว่าครอบครัวตัวเองได้มรดกจากรุ่นบรรพบุรุษตั้งมากมาย ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะทำมาหากินให้เสียเวลา นอกจากจะผลาญสมบัติมากินมาเล่น
"หึ....." มือหนาละออกจากคอเสื้อคนบนพื้น ลุกมายืนตรงสง่าท่าเดิม
"ที่ดินบ้านกูอยู่ใจกลางเมือง ที่สำคัญมันต้องได้มากกว่าสองล้านเป็นสิบเท่าสิด้วย" อัฐบอก ลุกขึ้นยืนพร้อมกับสะบัดเสื้อ
"งั้นมึงก็ไปเอาโฉนดมาให้กู! แลกกับหนี้แล้วกูจะแถมเงินก้อนใหญ่ให้มึงเล่นอีกสักรอบ!" พอได้ยินเรื่องผลประโยชน์ ทำมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มพอใจ
"พวกมึงรับปากกูแล้วนะเว้ย!" อัฐไล่ชี้นิ้วใส่บอดี้การ์ดชุดสูททีละคน จนมาเกือบถึงเจ้าของบ่อนก็โดนครามใช้อาวุธปัดทิ้งก่อน
"แน่นอน! กูพูดคำไหนคำนั้น!"
อีกด้านนึง_
"จะพ่อไปไหนเหรออัยวา?" รังรองเอ่ยถามลูกสาว หลังเธอเลิกเรียนจากมหาวิทยาลัยมา ก็พาเขานั่งบนรถเข็นมายังสวนสาธารณะใกล้หมู่บ้าน
นับตั้งแต่วันที่มารดาของอัยวาเสีย เธอก็ช่วยดูแลท่านและพี่ชายได้อย่างดี จนอดนึกสงสารในบางครั้งที่ท่านไม่สามารถทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้บ้าง
"ตั้งแต่เช้าพ่อยังไม่ได้ออกมาสูดอากาศรับลมเลยนะคะ ช่วงนี้คุณหมอก็กำชับด้วยให้พ่อพักผ่อนและออกกำลังกายบ้าง" ใบหน้าสดใสยิ้มแย้ม มองบรรยากาศสดชื่นยามเย็น มีเหล่านกและผีเสื้อบินรอบต้นไม้ดอกนานาชนิด
"แต่เราจะเหนื่อยนะอัยวา ไหนจะไปทำงานกลางคืนกับไปเรียน..คงจะแย่น่าดู"
"ไม่ใช่เลยนะพ่อ เวลาอัยวาพาพ่อมาเดินเล่น อัยวาก็ได้พักไปด้วย" เธอยังยิ้มกว้าง ซ่อนความคิดไม่ให้บิดารู้สึกเป็นห่วง เพราะตัวเธอก็เต็มใจถ้าแบกภาระโดยที่ท่านไม่ต้องเครียดไปด้วย
"แล้วพี่ชายเราล่ะ โทรมาบ้างหรือยัง ไหนว่าจะไปหางานทำไง ทำไมไม่กลับบ้านล่ะเมื่อคืนนี้"
"พี่อัฐคงไปนอนบ้านพี่พิชญ์อีกหรือเปล่าคะ ถ้าได้งานทำแล้วยังไงก็ต้องโทรมาบอกพ่อแน่ๆ " น้ำเสียงหวานตอบ ในเมื่อพี่ชายสัญญากับผู้เป็นพ่อแล้วว่าจะไม่กลับไปเล่นการพนันอีก เธอก็ควรเชื่อใจไม่ให้บรรยากาศครอบครัวอึดอัดอีก
"พ่อก็หวังให้เป็นอย่างนั้นนะ"
"งั้นอัยวาพาพ่อไปทางนู้นดีกว่า..ลมกำลังเย็นเลยเผื่อจะลุกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง" พอพูดจบมือบางรีบขับรถเข็นดันให้เดินหน้า ไปทางหลบเลี่ยงผู้คนที่มาวิ่งออกกำลัง ประเดี๋ยวจะชนกับรถของบิดาได้
....................................