4. ปมของตัวร้าย

1301 Words
โจวเสิ่นโหวเพียงแต่ต้องการให้หลี่หนานฟู่รับรู้ถึงความเป็นไปของสตรีอันเป็นที่รัก จึงปล่อยอิสระแก่นาง ยิ่งไป่เซียนอีออกไปเผยโฉมให้ผู้คนได้เห็นมากเท่าไหร่ ข่าวของฮูหยินโจวเสิ่นโหวก็ยิ่งแพร่สะพัดมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อรู้ถึงหูแม่ทัพหลี่ แน่นอนว่าเขาต้องเจ็บปวดปางตายเหมือนที่บิดาตนเคยประสบพบพานมา ใช่… โจวเสิ่นหยางหมายจะทำให้หลี่หนานฟู่เจ็บปวดใจอย่างแสนสาหัส ให้เหมือนกับตอนที่สกุลหลี่พรากมารดาไปจากเขา ท่านโหวผู้ร้ายกาจจึงหมายจะให้ฝ่ายนั้นเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับตนและพี่สาว รวมถึงบิดาผู้ล่วงลับที่ตายจากไปแล้ว เพราะหลังจากเกิดเรื่องเมื่อยี่สิบสามปีก่อน บิดาเขาก็ตรอมใจจนล้มป่วยอยู่พักใหญ่จากนั้นก็สิ้นลมพร้อมกับหยดน้ำตา ซึ่งปมตรงนี้ไป่เซียนอีรับรู้ดี เพราะนางเป็นคนเขียนมันขึ้นมาเองกับมือ พี่น้องห้ำหั่นกันเพราะความแค้นที่เกิดตั้งแต่รุ่นพ่อ โจวเสิ่นโหวคือพี่ชายคนละพ่อของแม่ทัพหลี่หนานฟู่ ทว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากความผิดพลาดที่ไม่มีใครตั้งใจ เรื่องราวขณะนั้นเกิดขึ้นเมื่อยี่สิบแปดปีก่อน… บิดากับมารดาเขาคบหากันจนกระทั่งคลอดบุตรฝาแฝดชายหญิง นั่นคือตัวเขาและพี่สาวซึ่งเป็นฮองเฮาในยามนี้ ทว่ายามนั้นทั้งคู่ยังไม่ทันได้แต่งงานกัน นางก็ประสบเหตุพลัดตกหน้าผาในช่วงที่ถูกศัตรูของสามีไล่ล่าสังหาร เคราะห์ดีที่รอดมาได้ ทว่าความทรงจำเก่าก่อนกลับไม่มีเหลือ อันเนื่องมาจากยาที่ท่านหมอหลี่ปรุงขึ้นมารักษานั้น สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ แต่กลับทำให้ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่าตนเคยมีบุตรชายหญิงที่กำลังน่ารัก เมื่อเวลาผ่านไป นางก็แต่งงานใหม่ มีบุตรใหม่… ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของผู้ที่ไม่มีความทรงจำในอดีตเหลือแล้ว และความใกล้ชิดของหนุ่มสาวที่มีวัยใกล้เคียงกันก็เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความรู้สึกลึกซึ้ง จนกลายเป็นความรักที่สุกงอม ตกลงปลงใจแต่งงานกันในเวลาต่อมา โดยมีแขกเหรื่อในเมืองมาร่วมยินดีมากมาย ทว่าหนึ่งในนั้นไม่มีบิดาของโจวเสิ่นหยาง เพราะเขาพำนักอยู่ที่เมืองหลวง ซึ่งมันอยู่กันคนละเมืองกับสกุลหลี่ในยามนั้น กระทั่งสี่ปีต่อมา… สตรีที่ทุกคนเข้าใจว่าตายไปแล้วกลับก้าวเข้างานเลี้ยงที่ฮ่องเต้จัดขึ้น ในฐานะฮูหยินของหมอหลวงหลี่ที่พึ่งได้รับตำแหน่ง เมื่่อบิดาของโจวเสิ่นหยางเห็นเข้าก็ตรงเข้ามากอดรัดไว้ด้วยความคิดถึง และแน่นอนว่าฝ่ายหมอหลวงหลี่ก็ต้องไม่ยอม ทำให้งานเลี้ยงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย จนเหล่าขุนนางต้องช่วยกันห้าม และนี่ก็เป็นสาเหตุให้สองตระกูลถูกทำโทษกักบริเวณอยู่หลายเดือน ซึ่งต่อมา… ฮ่องเต้องค์ก่อนก็ทรงเรียกสตรีที่เป็นต้นเหตุในเรื่องนี้มาเป็นผู้ตัดสิน และด้วยความที่นางจดจำเรื่องเก่าก่อนไม่ได้ หลี่ฮูหยินจึงเลือกที่จะอยู่กับครอบครัวใหม่ แทนที่จะเป็นครอบครัวเก่า ยังความเศร้าโศกมาให้บิดาของเสิ่นหยางเป็นอย่างมาก ในที่สุดเขาก็ตรอมใจจนล้มป่วยและสิ้นใจไปในที่สุด นี่คือสาเหตุที่โจวเสิ่นหยางมักจะแย่งชิงทุกอย่างที่หลี่หนานฟู่ต้องการมาครอบครอง โดยมีพี่สาวที่เป็นฮองเฮาคอยหนุนหลังให้ โจวเสิ่นหยางไม่ใส่ใจว่าเหตุเกิดจากสิ่งใด เขารู้เพียงว่าบิดาของแม่ทัพหลี่คือคนที่พรากมารดาไปจากเขา ทำให้เขาและพี่สาวกลายเป็นกำพร้าที่ขาดทั้งพ่อและแม่ สำหรับเขาสกุลหลี่ต้องชดใช้อย่างสาสม และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไป่เซียนอีอยู่เฉยไม่ได้ นางเป็นคนผูกปม ฉะนั้นต้องรีบไปแก้มันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ตราบที่โจวเสิ่นหยางยังไม่ลงมือกับน้องชาย ทุกอย่างมันอาจจะพอแก้ไขได้ “นำทางสิ” ออกคำสั่งกับองครักษ์หนุ่มที่ยังมีท่าทางมึนงง ทว่าเมื่อเห็นแววตาจริงจังของนางเขาก็ไม่กล้าขัดขืน ต้องรีบกระแทกเท้าเข้าข้างลำตัวม้าเพื่อสั่งให้มันออกเดิน “อย่าชักช้า ข้าไม่มีเวลาเล่นสนุกกับพวกเจ้า” นางยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มพร้อมกับมองด้วยแววตาคมดุ ทำให้องครักษ์หนุ่มต้องใช้แส้บังคับม้าให้มันออกวิ่งเร็วขึ้น ก่อนจะทะยานไปเบื้องหน้าอย่างรีบเร่ง ทิ้งไว้เพียงฝุ่นคลุ้งตลบอบอวล เพิ่มความฉงนให้กับผู้คนที่ได้แต่จ้องมองแผ่นหลังของนางที่ห่างออกไปทุกที “สตรีผู้นั้น…คือใครกันแน่?” “นั่นสิ ข้าไม่เห็นเคยได้ยินว่าในเมืองหลวงเรามีสตรีเก่งกาจถึงเพียงนี้เลยนะ องอาจอย่างกับบุรุษเชียว” สายตาของชาวเมืองในยามนี้ปั่นป่วนไปด้วยความใคร่รู้ นางคือผู้ใด? ไยถึงมีทั้งความงามและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน สามวันต่อมา กลุ่มของไป่เซียนอีก็มาถึงจวนรับรองของโจวเสิ่นโหวซึ่งยามนี้เขาไม่อยู่ มีเพียงอนุเหยากับบ่าวไพร่เท่านั้น “คารวะฮูหยิน ไม่ทราบว่าท่านจะมาเราจึงไม่ได้จัดห้องรับรองไว้เจ้าค่ะ มีแค่ห้องรับแขกทางทิศใต้เท่านั้นที่ยังว่างอยู่ ไม่ทราบว่าท่านจะพำนักได้หรือไม่” อนุเหยาจีบปากจีบคอกล่าว ทว่า! เอ่ยยังไม่ทันขาดคำเสียงเย็นก็เปล่งออกมาขัดเสียก่อน “ข้าจะอยู่ห้องเจ้า ไปขนของออกให้หมด” เอ่ยแล้วก็จ้องหน้าสตรีที่ตัวเท่ากันเขม็ง “มีปัญหาหรือ” “ปะ… เปล่าเจ้าค่ะ” เพราะฐานะตนต่ำกว่า เหยาซูจึงต้องทำตามที่ฮูหยินสั่ง แม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เพราะคนตรงหน้าแย่งตำแหน่งฮูหยินไปครอบครอง ทั้งที่ฐานะทางครอบครัวเหยาซูถือว่าสูงส่งกว่ามาก นางเป็นถึงบุตรสาวเสนาขวา ทว่าไป่เซียนอีเป็นเพียงบุตรสาวเจ้าเมืองหลาง หากเทียบกันก็ถือว่าห่างชั้นนัก แต่เหตุไฉนโจวเสิ่นโหวกลับแต่งหญิงผู้นี้เป็นภรรยาเอก ทั้งที่เขาไม่เคยคบหาดูใจกับไป่เซียนอีมาก่อน แต่พอแต่งมาแล้วท่านโหวกลับไม่ใส่ใจดูแล ขนาดมาต่างเมืองยังพาอนุมารับใช้ แทนที่จะเป็นฮูหยินที่พึ่งแต่งเข้ามา และเรื่องพวกนี้นางก็กำลังให้คนของบิดาสืบ… เซียนอีมองตามร่างอรชรของอนุเหยาก็พาลให้หงุดหงิดขึ้นมา มิใช่เพราะหึงหวงแต่อย่างใด ทว่านางรู้สึกว่าตัวละครที่ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงผู้นี้มีลับลมคมในบางอย่างแอบซ่อนอยู่ ซึ่งมันไม่น่าไว้ใจเลย และมันก็ทำให้นางหวนนึกถึงเรื่องราวก่อนที่ตนจะมาอยู่ในร่างนี้ ใครอยู่เบื้องหลังผู้ที่มาตามเจ้าของร่างนี้ออกไปพบแม่ทัพหลี่กันนะ แล้วใครผลักไป่เซียนอีตกน้ำในคืนเข้าหอ… นับจากนี้นางคงต้องหาคำตอบไปพร้อมกับการแก้ไขปมที่ตนเองสร้างไว้แล้วกระมัง มิเช่นนั้นชีวิตเป็นต้องตกอยู่ในอันตรายอีกเป็นแน่ ตราบใดที่ยังหาตัวคนคิดร้ายต่อเจ้าของร่างไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD