เพื่อนใหม่
พลอยลูก !! พลอย !! ตื่นรึยังใกล้จะเจ็ดโมงแล้วลูกวันนี้ไปเรียนวันแรกไม่ใช่หรา เมื่อคืนดูละครดึกอีกแล้วใช่ไหมเช้านี้ถึงตื่นสาย
“ จ้า ยายจ๋าพลอยตื่นแล้วจ้ากำลังจะลงไป ” พลอยใสเด็กสาววัย 19ปี กับการเป็นนักศึกษาวันแรก
ตึก ตึก ตึก เสียงสองเท้ากระทบกับพื้นไม้บนชั้นสองของบ้านที่กำลังรีบวิ่งลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว
“ อย่าวิ่ง ระวังจะตกบันได ” เสียงยายเอ็ดหลานสาวดังลั่น
“ มาสิลูกยายทำมื้อเช้าไว้ให้แล้ว รีบกินจะได้ไปเรียนเดี๋ยวจะสายเอานะ ”
ยายมาลีคือผู้ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ของพลอยใส ตั้งแต่เด็กจนโตพลอยใสก็มีแค่ยายคนเดียวเท่านั้นที่คอยเลี้ยงดูและส่งเสียให้เธอได้เล่าเรียน เพราะพลอยใสก็เป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของยายมาลี หลังจากที่สามี ลูกชายและลูกสะใภ้จากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน
ฟอด !!! เสียงปลายจมูกเล็กของพลอยใสหอมฟัดแก้มยายของเธอด้วยความรักใคร่
“ รีบกินข้าวสิลูกเดี๋ยวก็สายจริงๆจนได้มัวเล่นอะไรอยู่ ”
“ หนูไม่ได้เล่นสะหน่อยหนูแค่หอมแก้มยายเรียกกำลังใจแค่นั่นเองค่ะ ” พลอยใสยู่หน้าไม่จริงจังนักใส่ยายที่เอ็ดเธอ
“ โอเคๆ ไม่เล่นก็ไม่เล่นรีบกินข้าวให้หมดนะลูกจะได้มีแรงเรียนหนังสือ ”
“ จ้า หนูจะกินให้เกลี้ยงเลยเพราะฝีมือยายอร่อยที่สุดในโลก ”
07:45 น. มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านใจกลางเมือง
“ โห นักศึกษาเยอะมากเริ่มตื่นเต้นแล้วสิ ใจเย็นๆไว้พลอยใส มีสมาธิเธอมาเรียนวันแรกไม่ได้มาประกวดนางงามจะตื่นเต้น เพื่อ !!! ”
เสียงบ่นงึมงำของพลอยใสทำให้ใครคนนึงที่ยืนอยู่ในมุมที่ไม่ไกลนักได้ยินและได้เห็นถึงสาวน้อยหน้าใส หน้าตาน่ารัก ชวนมองที่ยืนบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่
พลอยใสเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาศิลปะการแสดง เพราะด้วยหน้าตา รูปร่างและความชอบเธอจริงเลือกเรียนคณะนี้ พลอยใสชอบในการดูละคร ซีรีย์หรือแม้แต่การอ่านนิยาย เธอเลยคิดฝันอยากเป็นนักแสดงมีชื่อเสียงอย่างนางเอกละครหลังข่าวบ้าง
ขณะพลอยใสเดินหาตึกคณะของต้นอยู่ก็มีหญิงสาวคนนึงที่หน้าตาจิ้มลิ้มเดินเข้ามาทัก
“ สวัสดี เธอก็ปีหนึ่งใช่ไหม ”
“ ใช่ สวัสดี เธอเดินหาตึกเรียนอยู่หมือนกันหรอ ”
“ ใช่ เธอเรียนคณะอะไรเราเรียนนิเทศ ศิลปะการแสดง ”
“ คณะเดียวกันเลย เย้!!! ดีใจจัง เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม ” พลอยใสเอ่ยถามด้วยท่าทางดีอกดีใจ
“ ได้สิ เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ ฉันชื่อฟ้า เธอละชื่ออะไร “
“ เราชื่อพลอยใส แต่เรียกพลอยเฉยๆก็ได้ ”
ทั้งสองดีอกดีใจที่การมาเรียนวันแรกไม่เหงาอย่างที่เคยคิดเอาไว้ เพราะมาเจอเพื่อนที่ต่างคนก็ต่างหน้าตาน่ารัก ทั้งสองสนิทกันราวกับเป็นเพื่อนกันมานานนับปี สองสาวพากันเดินตามหาตึกเรียนที่มีเหล่านักศึกษาเดินผ่านกันไปมาระหว่างเดินอยู่นั่น
“ โอ๊ะ !!! นั่นไงยัยฟ้าตึกคณะเรา ตึกข้างหน้านั่นไง เย้เจอแล้วเราเดินหาจนเมื่อยขาหมดแล้ว ”
พลอยใสบ่นพึมพำพร้อมยู่หน้าใสเพื่อนใหม่ของเธอ ฟ้าที่เห็นสีหน้าน่ารักๆนั้นก็อดนึกเอ็นดูเพื่อนใหม่ตรงหน้าไม่ได้ คิดในใจผู้หญิงอะไรจะหน้าตาน่ารักขนาดนี้
ทั้งสองเดินมารอลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้นเรียนของตัวเองซึ่งชั้นเรียนของทั้งสองนั้นอยู่ชั้น 8 เมื่อมาถึงห้องเรียนทั้งสองก็มองหาที่ว่างแต่พลันสายตาไปเห็นที่วางข้างหญิงสาวคนนึง
“ สวัสดี ตรงนี้มีคนนั่งไหม ” เป็นฟ้าที่เอ่ยถามสาวสวยที่นั่งอยู่
“ ว่างๆนั่งสิ ”
“ ขอบคุณนะ เธอชื่ออะไรหรอ ? ” เป็นพลอยใสที่เอ่ยถาม
“ เราชื่อรินลดา เรียกสั้นว่า ริน ก็ได้เธอสองคนละชื่ออะไร ”
“ เราชื่อพลอยใส เธอเรียกเราว่า พลอยก็ได้ส่วนนี่ ฟ้าจ๊ะ เรามาเป็นเพื่อนกันไหม ”
“ ได้สิเราก็ยังไม่มีเพื่อนเลย คิดว่าจะได้นั่งเรียนคนเดียวซะแล้ว ”
เย้ !!!! ดีใจจังฟ้าเรามีเพื่อนอีกคนแล้ว เพียงฟ้าได้แต่ส่ายหน้าให้กับความดีอกดีใจของเพื่อนป่นนึกเอ็นดูทุกครั้งกับการกระทำคำพูดแสนน่ารักของเพื่อนใหม่คนนี้
ระหว่างที่ทั้งสามนั่งคุยทำความรู้จักกันอยู่ภายในห้องเรียนก็ต่างมานักศึกษาใหม่ทะยอยเดินกันเขามาและมีเสียงคุยกันดังขึ้นมาเป็นระยะต่างคนต่างทำความรู้จักกันและด้วยความที่มหาลัยแห่งนี้เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังทุกคนต่างมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีเงิน มีฐานะ โดยฐานะทางบ้านของพลอยใสก็ค่อนข้างดี เนื่องจากคุณตาของเธอเป็นนักธุระกิจมีหุ้นส่วนมากมายในหลายๆธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ แม้คุณตา พ่อและแม่ของเธอได้จากไปตั้งแต่ที่เธอเพิ่งอายุได้ 5 ขวบแต่พวกเขาก็ทิ้งมรดก ทรัพย์สินและหุ้นต่างๆไว้ให้เธอกับยายอยู่ได้โดยที่ไม่ลำบากและขัดสนอะไร
“ ยัยพลอย ยัยพลอย แกดูผู้ชายกลุ้มนั่นสิ มองแกตาเป็นมันเลย ” เสียงของฟ้าเอ่ยขึ้นทำให้ทั้งพลอยใสและรินที่นั่งเมาท์กันอยู่ต้องละสายตาไปมองยังกลุ่มผู้ชายกลุ่มนึงที่นั่งกันอยู่ทุกคนต่างหน้าตาดีหล่อเหลาไม่แพ้กัน แต่พลอยใสหาได้สนใจไม่
“ มาวันแรกก็มีเพื่อนร่วมคณะสนใจแล้ว ความสวยเป็นเหตุสังเกตุได้ ” รินที่นั่งเงียบอยู่จึงเอ่ยขึ้น
“ เวอร์แล้วยัยริน สวยเสยอะไรกันเธอสองคนก็สวยใช่เล่นทำมาเป็นแซวฉัน ชิ ”
มาแล้ว มาแล้วอาจารย์มาแล้วทุกคนต่างสาละวนนั่งยังที่ของตัวเองระหว่างนั่งเรียนกันอยู่นั้นเสียงของรินก็เอ่ยขึ้น
“ ฟ้า ฟ้า แกว่าผู้ชายที่สูงๆขาวๆหล่อๆคนนั้นมองยัยพลอยตลอดเลยแกเห็นเหมือนฉันเห็นไหม ” คำถามของรินเรียกความสนใจของฟ้าใสได้เป็นอย่างดีระหว่างนั่งเรียนทั้งสองคอยลอบสังเกตุหนุ่มหล่อเพื่อนร่วมชั้นเรียนอย่างไม่วางตา
“ วันนี้เราพอกันแค่นี้ก่อนนะคะ มีนักศึกษาท่านใดสงสัยอะไรบ้างไหมค่ะ ถ้าไม่มีงั้นไปพักกันได้แล้วค่ะ แล้วอย่าลืมไปเข้ากิจกรรมรับน้องเย็นนี้นะคะ ”
ค่ะ !!!! ครับ !!!!
เสียงของอาจารย์หน้าชั้นเรียนเป็นดั่งเสียงสวรรค์ สำหรับพลอยใส เธอไม่คิดเลยว่า การเป็นนักศึกษาวันแรกของเธอจะเหนื่อยขนาดนี้
“ ป่ะ ไปกินข้าวกันเถอะฉันหิวข้าวมาก หิวจนกินช้างได้แล้วเนี่ย ” พลอยใสพูดขึ้นพลางลูบท้องป้อยๆพาให้เพื่อนทั้งสองส่ายหน้าป่นเอ็นดูในความน่ารักนั่น
ระหว่างที่ทั้งสามกำลังเดินไปที่โรงอาหารของคณะก็ต้องหยุดเดินเพราะมีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง
“ เธอๆสามคนนะหยุดก่อน ” เธอทำของตกนะเราเลยเก็บมาให้
“ เราชื่อนาวา เรียนวิศวะปีหนึ่งนี่ของเธอรึป่าว ”
“ ใช่ ๆ ของเราเองขอบคุณนะนาวา ” พลอยใสเอ่ยขึ้น
“ อือ ”
“ เออ นายจะไปพักเหมือนกันหรอแล้วเพื่อนนายละ ” พลอยใสถามขึ้นอีกครั้งหลังจากเห็นว่าเขามาคนเดียว
“ ยังไม่มีเพื่อนอะ ” นาวาตอบง่ายๆสั้นๆเพราะบุคลิกของเขาก็เป็นคนพูดน้อย ต่อยหนัก พูดห้วนๆแบบนี้อยู่แล้ว
“ งั้น นายมาเป็นเพื่อนกับพวกเราก่อนก็ได้นะ ” เป็นเพียงฟ้าที่เอ่ยพูดชายตรงหน้า
“ ได้ ”
“ งั้นปะเราไปกินข้าวกันฉันหิวจนตาลายไปหมดแล้ว ”