ผับในยามนี้ เงียบเชียบและมืดสนิท
ฉันเดินลัดเลาะออกมาทางด้านหน้า ประกฎว่าประตูปิด ฉันจึงเดินกลับมาอีกด้าน
ซึ่งเป็นทางด้านหลัง ก่อนจะเห็นชายชุดดำยืนเฝ้าที่หน้าประตู
"จะกลับแล้วเหรอครับ"
ฉันพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูให้
ไม่แปลกหรอกที่จะมีคนคอยเปิดประตู
เพราะที่นี่มีห้องสำหรับแขกที่ขับรถกลับไม่ไหว หรือพวกที่ชอบวันไนท์กันนั่นแหละ เขาถามฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่งดูปกติ แต่ฉันกลับประหม่าอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าแล้วเดินผ่านชายชุดดำคนนั้นไป
ปั้ง!!
"ซี้ด!!แสบตรงนั้นจัง"
เมื่อเดินมาจนถึงรถตัวเอง ที่ขับมาตั้งแต่เมื่อคืน ก็ถึงกับหน้านิ่ว เมื่อความแสบมันแล่นปร๊าดลงกลางหว่างกาย
ตืด!!ตืด!!
ฉันรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู เกือบ50สายmiss call ที่โทรเข้ามา เป็นเพื่อนๆฉันนั่นแหละ เมื่อคืนหลังจากที่ฉันเดินไปเข้าห้องน้ำ โฟล์คก็เดินตามไป หลังจากนั้นโฟล์คก็ไปดักรอฉันที่หน้าห้องน้ำ และพยายามลวนลามฉัน ทั้งที่ฉันถูกฝึกให้ป้องกันตัวมาอย่างดี แต่ในเวลานั้นคงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ทำให้ฉันไม่มีแรง และถูกลากขึ้นไปที่ชั้น3 ก่อนฉันจะรวบรวมกำลังทั้งหมด เพื่อวิ่งหนีโฟล์คเข้าไปในห้องนั้น เพราะในความคิดฉัน คนด้านในน่าจะเป็นเจ้าของผับ และมันก็เป็นตามคาด
เขาน่าจะเป็นเจ้าของผับนั่นแหละ และที่มันเกินคาดกว่านั้นก็คือ ฉันดันไปมีวันไนท์กับเจ้าของผับนี่สิ
(ฮัลโหลลินิณญ์ แกหายไปไหนมา พวกฉันโทรหาก็ไม่รับ ฉันเกือบจะไปบอกป๊าแกแล้วรู้ไหม)
เสียงแสบหูของจูนตะโกนอย่างดังผ่านโทรศัพท์
"ฉันปลอดภัยดี ขอโทษที่ทำให้พวกแกเป็นห่วง"
(อืมแล้วแกไปอยู่ไหนมาอะ เล่าได้ไหม)
"ฉันขอกลับคอนโดก่อนได้ไหม ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟัง"
(โอเค ไว้คุยกัน)
ติ้ด!!!
ฉันวางโทรศัพท์กับเพื่อน แล้วรีบขับรถกลับคอนโด ดีนะที่ย้ายออกมาจากคฤหาสน์เมื่อ 2 วันก่อน เพราะอีกไม่กี่วัน
มหาวิทยาลัยก็จะเปิดแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นป๊ากับเฮียเอาตายแน่ ก่อนถึงคอนโดฉันจอดซื้อยาคุมฉุกเฉิน กับยาแก้อักเสบ
เพราะจำได้ว่าเมื่อคืน ถุงยางเขาหมด
และแวะซื้อข้าวกล่องเข้ามาด้วย อาบน้ำกินข้าวกินยาเสร็จ ฉันก็สลบเป็นตายเลย
"อืม...กี่โมงแล้ววะเนี่ย"
ผมตื่นมาในสายของอีกวัน และมองหาผู้หญิงคนที่รบกันมาทั้งคืนจนเกือบเช้า แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อคิดว่าคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงในยามนี้ กลับหายไปเหลือเพียงความว่างเปล่า กับที่นอนที่ยับยู่ยี่แทบดูไม่ได้ กับหยดเลือดสีแดงเป็นจุดเล็กๆ ที่เปรอะเปื้อนอยู่บนผ้าปูที่นอน มันยิ่งตอกย้ำได้ชัดเจนว่า ผมคือคนพรากความ บริสุทธิ์ของเธอ ผมรีบเดินเข้าไปดูในห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ เลยรีบออกไปดูด้านนอกที่เป็นห้องทำงาน แต่ก็ต้องกำหมัดแน่น เมื่อเห็นเงินวางอยู่ห้าพัน กับข้อความที่เธอเขียนเอาไว้ มันเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก ถึงเธอจะบอกว่าจ่ายค่าเสื้อ แต่ความรู้สึกของผมเหมือนเธอจ่ายค่าตัวผมยังไงยังงั้น ผมรีบไปดูที่ตู้เสื้อผ้า ว่าเสื้อตัวไหนหายไป เพราะผมเตรียมไว้แค่4-5ตัว ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกจากห้องไป
"เห็นผู้หญิงตัวขาวๆสวยๆ ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่ๆไหม"
ผมถามการ์ดที่อยู่ประตูทางออก
"เห็นครับนาย เธอไปตั้งแต่9โมงแล้วครับ"
ไปนานแล้วงั้นเหรอ
"เวรเอ้ย"
ผมหัวเสียอย่างหนัก เหมือนถูกฟันแล้วทิ้งเลย ผมขับรถกลับคอนโดอย่างหงุดหงิด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำกับผมแบบนี่ ผมอาบน้ำแต่งตัวแล้วโทรหาลูกน้องอีกรอบ
ตืด!!ตืด!!
(ครับนาย)
"เปิดดูกล้อง เช็คให้ผมหน่อยผู้หญิงคนนั้นขับรถอะไร ผมอยากรู้ตอนนี้"
(ครับนาย ผมจะรีบดูให้)
ผมนั่งรอไม่ถึง20นาที ลูกน้องผมก็โทรกลับมา
"ได้เรื่องไหม"
(เห็นแค่เป็นรถสปอร์ตสีดำครับนาย เพราะตรงนั้นกล้องเสีย เห็นจากกล้องอีกตัวแต่มันไกลมากครับ)
"กล้องเสียแล้วทำไมไม่แจ้งซ่อมวะ ปล่อยให้มันเสียอยู่ได้ โถ่เว้ย!!ไม่ได้เรื่อง"
ติ้ด!!
"อย่าให้เจอตัวนะ เดี๋ยวจะจับสั่งสอนให้เข็ดเลย เอากันทั้งคืนเช้ามาหนีไปเฉย
กูมันไม่เร้าใจเหรอวะ”
"เชี่ยไดจิ เอาแต่หัววันเลยนะมึง"
ภูภูมิกับปกป้องเดินขึ้นมายังชั้น2 ซึ่งเป็นโซนVip ของผับ
"มาไวดีหนิ"
เขาทำหน้าไม่สบอารมณ์จนเพื่อนๆจับได้
"เล่ามากูอยากเผือก"
ภูภูมินั่งลงแล้วชะโงกหน้ามาใกล้
"พวกมึงรับปากก่อน ว่าจะไม่หัวเราะกู"
ต้องตกลงกันก่อน ไม่งั้นเพื่อนเวรนี่หัวเราะผมแน่ แต่ถ้าผมเก็บไว้คนเดียวผมเองก็คงอกแตกตายแน่ๆ ถ้าจะรอปรึกษาไอ้สายธารกับไอ้ซันเดย์ ก็คงอีกหลายวันกว่ามหาลัยจะเปิด
"เล่ามาเถอะ...พวกกูเพื่อนมึงนะเว่ย มึงไม่เล่าให้พวกกูฟังมึงจะไปเล่าให้หมาที่ไหนฟัง"
ไอ้ปกป้องพูดแล้วทำหน้าตาจริงจัง ไอ้ภูภูมิก็ด้วย ผมเลยตัดสินใจที่จะเล่าให้เพื่อนฟังอย่างละเอียด
"ฮ่าฮ่าฮ่/ฮ่าฮ่าฮ่า"
เพื่อนเวรหัวเราะกันลั่นเลย ผมจ้องหน้าพวกมันสองตัวอย่างไม่สบอารมณ์
"น้องชื่ออะไรเดี๋ยวกูสืบให้เอง"
ภูภูมิที่เห็นเพื่อนเครียด ก็กลับมาเป็นจริงเป็นจังอีกครั้ง
"ไม่รู้...กูถามแล้วแม่งไม่ตอบ"
ไดจิตอบเพื่อนพรางกระดกเหล้า
"แล้วมึงมีข้อมูลอะไรที่พอจะสืบได้บ้างวะ"
ปกป้องเองก็เริ่มอยากช่วยเพื่อน
"กำลังให้คนดูกล้องที่หน้าห้องทำงาน คงมีแค่ภาพจากกล้อง เดี๋ยวคงได้เห็นแหละ"
"นายครับได้รูปมาแล้วครับ"
แชมป์บอดี้การ์วัย30รีบเดินเอารูปในมือถือ ที่ถ่ายจากหน้าจอคอมในห้องควบคุม
ระบบของทางผับ มาให้ผู้เป็นนายดู ไดจิไม่รอช้ารีบรับมาดู แล้วส่งให้เพื่อนๆดูด้วย
"งานยากวะเพื่อน เล่นไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยแบบนี้จะสืบไงวะ"
ภูภูมิได้แต่ส่ายหัว
"ว่าแต่ก็สวยดีเหมือนกันนะ แต่กูขอถามมึงหน่อยนะเพื่อน มึงจะตามหาน้องไปทำไมวะ มึงอยากสานต่อเหรอ"
ปกป้องที่ไม่เคยเห็นเพื่อนเครียดหนักขนาดนี้เอ่ยถามขึ้น โดยปกตินิสัยของไดจิก็เหมือนกับพวกเขา วันไนท์แบบไร้รัก
"เอาเสื้อคืนมั้งสัส"
ไดจิตอบเพื่อนแบบโมโห ไม่รู้เพราะอะไรที่ดลใจให้เขาอยากตามหา แต่อันดับแรกคือ อยากถามเธอว่าทำไมไม่รอให้เขาตื่น ทำไมถึงวางเงินไว้
"ซื้อใหม่เถอะ เสื้อตัวไม่กี่พัน"
ภูภูมิพูดแบบจริงจัง
"กูประชดสัสภูมิ"
วันนี้ไดจิเข้าใจความรู้สึกของสายธารเลย เวลาเครียดแล้วเพื่อนหัวเราะคิกคักข้างๆ มันหงุดหงิดแค่ไหน เขานั่งดื่มกับเพื่อนจนดึก
"พวกกูกลับก่อนนะ พรุ่งนี้กูต้องเข้าบริษัท"
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ต่างคนก็ต่างต้องเข้าบริษัทเพื่อเรียนรู้งาน เพราะอีกแค่ปีเดียวก็เรียนจบแล้ว แต่เพื่อนทั้งสองก็พยามปลีกตัวมาหาเขาอยู่บ้าง
"เออ...ไว้เจอกัน"
ไดจิแยกกับเพื่อนเสร็จ เขาก็เดินขึ้นมาชั้น3 เพื่อเข้าไปในห้องทำงาน