บทที่ 3
เริ่มแผน
วันงานกีฬาสี
“ทุกคนพร้อมไหม” ยูกิโกะถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถึงแม้ตัวเองจะเป็นคนต้นคิดวางแผนเรื่องทั้งหมดก็ตาม
“พร้อมมาก ฉันอยากจะฉะยัยมินนี่มานานละ” เพลงขวัญพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ต่างจากซินอี๋ที่มองเพื่อนรักทั้งสองคนด้วยใบหน้ากระอักกระอ่วน
“เราต้องทำจริงๆ เหรอ อย่าไปทำแบบนั้นเลยนะ เราไม่เป็นอะไรหรอก”
“เป็นสิ ตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแกคนเดียวแล้วนะ แต่เป็นเรื่องศักดิ์ศรีของพวกฉันสองคนด้วย ไม่เห็นเหรอว่าวันนั้นยัยมินนี่มันท้าทายพวกฉันนะ บอกว่าพวกเราไม่มีทางฟ้องผอ. ได้หรอก”
“มินนี่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นหรอก” ซินอี๋พยายามพูดให้เพลงขวัญใจเย็นลง
“โอ๊ยยยย เซ่าๆ เบิ้ดคำสิเว้ากับเจ้าแล้ว” เพลงขวัญโบกไม้โบกมือไม่ชอบใจกับความไร้เดียงสาของซินอี๋ จนเผลอหลุดพูดภาษาถิ่นออกมา ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเดินควงแขนยูกิโกะนำไปเหมือนเคย
“รอเราด้วยสิ” ซินอี๋ตะโกนตามหลังเพื่อนรักทั้งสองคน ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังไป
บนสแตนด์เชียร์
ยูกิโกะกับเพลงขวัญกระซิบกระซาบกันบนสแตนด์เชียร์ เมื่อร่างสูงของภูผาผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้บริหารสูงสุดในชุดสูทเนี้ยบราคาแพงเดินขึ้นไปยืนที่โพเดียมบนเวทีใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ เพื่อกล่าวสุนทรพจน์เปิดพิธีในวันนี้
“นั่นไง! คนหล่อๆ ที่กำลังเดินขึ้นไปยืนบนโพเดียม” เพลงขวัญสะกิดบอกยูกิโกะ กับซินอี๋ให้มองไปยังเป้าหมาย
“โอเคๆ แกจำหน้าไว้ให้ดีนะยัยซิน” ยูกิโกะบอก
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแหละ โอกาสที่ผอ.จะมาโรงเรียนมีไม่บ่อยหรอกนะ ห้ามพลาดเด็ดขาดรู้ไหม” ยูกิโกะบอกกับซินอี๋ ก่อนจะหันกลับไปสนใจที่ภูผาต่อ
“สวัสดีคุณครู นักเรียน และผู้บริหารทุกท่านนะครับ ผมนายภูผา ดิรักษ์สกุล ในฐานะตัวแทนผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้บริหารสูงสุดวันนี้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาพบเจอกับทุกคนอีกครั้ง และผมก็หวังเอาไว้ว่างานกีฬาสีสัมพันธ์ในครั้งนี้จะทำให้นักเรียนทุกคนรู้แพ้ รู้ชนะ ให้อภัย และสามัคคีกันยิ่งขึ้นไปนะครับ และในตอนนี้ก็ถือเป็นเวลาอันสมควรแล้ว ผมขอเปิดการแข่งขันกีฬาสีสัมพันธ์ประจำปีการศึกษา 2020 อย่างเป็นทางการครับ”
แปะ~ แปะ~ แปะ~
เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้อง เมื่อภูผาส่งด้ามคบเพลิงให้กับนักกรีฑาประจำโรงเรียนได้วิ่งไปจุดลงถ้วยคบเพลิง ก่อนที่การแสดงเริ่มต้นจากนักเรียนที่เตรียมไว้แสดงเปิดงานจะเริ่มต้นขึ้น ทุกสายตาจับจ้องไปที่การแสดงเชียร์ลีดเดอร์สุดอลังการด้วยความตื่นเต้น ก็คงจะมีแต่สามสาวที่นั่งมองภูผาตาไม่กะพริบ เพราะกลัวเขาจะคลาดสายตาไป
“โชว์ใกล้จบแล้ว เตรียมตัวเร็ว” เพลงขวัญโน้มลงไปกระซิบกับยูกิโกะ เพื่อให้ยูกิโกะส่งต่อสารไปยังซินอี๋ที่นั่งถัดไปจากเธอ
“ซินอี๋ แกไหวไหม!”
“ห้ะ!” ซินอี๋มองหน้ายูกิโกะเลิ่กลั่ก เมื่อจู่ๆ เธอก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ทำให้คนรอบข้างหันมามองที่เธอเป็นตาเดียวกัน
“ไปห้องพยาบาลไหมซิน” เพลงขวัญแสร้งสวมบทบาทด้วยอีกคน ซินอี๋จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่ตอบอะไร ปล่อยให้เพื่อนรักทั้งสองเล่นละครกันแค่สองคน
“เกิดอะไรขึ้น ตรงนั้นส่งเสียงดังโวยวายอะไรกัน” ยูกิโกะแอบยกยิ้มที่มุมปาก ทุกอย่างกำลังเข้าแผนที่เธอวางไว้ เมื่อมีคุณครูท่านหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
“ซินอี๋เหมือนจะปวดท้องเลยค่ะครู”
“อ้าวเหรอ เธอสองคนพาเพื่อนไปห้องพยาบาลก่อนไป”
“ได้ค่ะๆ” เพลงขวัญกับยูกิโกะแกล้งตอบด้วยท่าทางร้อนรนรีบช่วยกันพยุงตัวซินอี๋ขึ้น
“ไปๆ รีบพาเพื่อนไป”
“ขอบคุณค่ะคุณครู” เพลงขวัญกล่าวขอบคุณ ก่อนจะพยุงร่างเล็กของซินอี๋ออกมาจากสถานที่จัดงานกีฬาสี