“หยางจงซินติดต่อมา” เขาหมายถึงยายแก่นั่น คนที่ดำรงตำแหน่ง
นายหญิงใหญ่ตระกูลหยางคนปัจจุบัน “เขาต้องการให้นายกลับไปที่บ้านตระกูลหยาง”
“ฉันไม่ไป” อเล็กซ์ปฏิเสธเสียงเฉียบขาด
“ฉันก็บอกไปอย่างนั้น แต่หยางจงซินไม่สนใจ เธอบอกว่าพ่อของนายสั่งให้นายเข้าไปหา ไม่อย่างนั้นหยางอี้ไป๋จะออกจากวังของเขาแล้วมาหานายเอง” มาร์คัสเอ่ยอย่างเยาะหยัน “ซึ่งถ้าเป็นจริงนายสะเทือนยิ่งกว่านี้แน่”
อเล็กซ์เข้าวงการมาห้าปี เขาเคยนอกลูกนอกทางมาก่อน แต่กลับไม่คิดว่าบทจะมีข่าวฉาวก็กระหน่ำซัดมาถึงขนาดนี้ ปีนี้เขาดวงตกหรืออย่างไรทำไม
มีแต่เรื่องเช่นนี้
“งั้นก็ให้ตาแก่นั่นออกมา” เขาบอกอย่างหัวเสีย และไม่สนใจคนพวกนั้นอีก
“ถ้าอย่างนั้นมาเข้าเรื่องกันก่อน นายจะจัดการข่าวฉาวพวกนั้นยังไง” คราวนี้มาร์คัสวกกลับมาที่ประเด็นแรกสุด
“ใช้เงินปิดปากหล่อนสิ”
เขาตอบรับง่ายๆ แต่คราวนี้มาร์คัสต้องการดัดหลังอีกฝ่ายที่มักจะสร้างปัญหาให้ตามเก็บกวาดอยู่เสมอ จึงพยักหน้าตอบรับ
“ได้ นายไปจัดการ ไม่ว่ายังไงก็ทำให้เรื่องเงียบให้ได้”
“เฮ้ แต่ว่า...”
“ช่วงนี้ฉันพักงานนาย และให้โลแกนไปพักร้อนแล้วด้วย”
“เฮ้!”
อเล็กซ์ประท้วง ไม่คิดว่าคราวนี้ลูกพี่ลูกน้องของเขาจะเอาจริง
“ฉันเบื่อจะคิดวิธีเก็บกวาดให้นายแล้ว ให้เวลานายสามวันไปจัดการเรื่องนั้นซะ ฉันรู้เรื่องจากโลแกนทั้งหมดแล้ว ยังไงนายก็ควรแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง เธอคือผู้เสียหายนะ”
“...”
“อีกอย่างเธอก็เป็นลูกน้องในบริษัทฉันด้วย ถึงจะเป็นสาขาที่เมืองไทยก็ตามที คราวนี้ฉันเลยไม่ช่วยนาย ไม่ให้ใครช่วยนาย นายต้องไปแก้ปัญหาที่ก่อขึ้นเอาเองจำไว้!”
“ถ้าฉันไม่ทำ...”
“ถ้านายไม่ทำ...ฉันจะตอบตกลงกับหยางจงซินว่านายยินดีไปพบหล่อนน่ะสิ”
มาร์คัสบอกอย่างเยือกเย็น และนั่นทำให้ซูเปอร์สตาร์หนุ่มหมดคำพูดในทันที ไม่อาจโต้แย้งได้
‘บ้าเอ๊ย ไอ้สารเลวดีแลน! นายจะหักหลังฉันอย่างนี้ไม่ได้นะโว้ย!’
.................
หลังกลับมาจากบ้านของมาร์คัส อเล็กซ์ก็นั่งคิดนอนคิดปวดหัวทั้งคืนว่าเขาจะทำอย่างไรดีกับข่าวฉาวในเวลานี้ ระหว่างนั้นจึงลองเข้าไปในเว่ยป๋อดูจึงได้เห็นว่าเรื่องของเขายามนี้เป็นกระแสร้อนแรงอันดับหนึ่งในโลกอินเทอร์เน็ต
นอกจากแฟนๆ ของเขาที่ออกมาปกป้องว่านั่นไม่ใช่เขา อเล็กซ์เลยได้แต่นับถือความหน้ามืดตามัวของแฟนคลับจริงๆ โชคดีที่รูปในอินเทอร์เน็ตมีการเบลอหน้า แต่เขาจำได้ว่านั่นก็คือตัวเขาเองอยู่ดี
ทว่าอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นคนอีกกลุ่มกลับออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างถึงพริกถึงขิง รวมกับมีการขุดวีรกรรมเก่าๆ ของเขาออกมา จริงบ้างเท็จบ้างเป็นเรื่องที่อเล็กซ์ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย รวมถึงเริ่มมโนเจิดจ้าจับแพะชนแกะเพราะข่าวใหญ่ไม่แพ้กันที่บอกว่าเขาเป็นลูกชายคนที่สามของตระกูลหยางที่เคยหายตัวไปเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน!
อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะการอยู่ท่ามกลางแสงไฟทำให้เขารอดพ้นจาก
หยางจงซินเขาคงไม่ทน ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเกราะนี้อาจจะใช้ไม่ได้ เมื่อมีข่าวของเขาเกี่ยวพันกับตระกูลหยาง อเล็กซ์ปวดหัวเสียจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
เรื่องตระกูลหยางเขาคงแก้ไขตอนนี้ไม่ได้ แต่ก็ยังคงสงสัยว่านี่เป็นฝีมือ
ดีแลนหรือเปล่า เพราะทุกอย่างมันประจวบเหมาะไปหมด ทว่าหมอนั่นอยากให้เขาอยู่ฝ่ายตัวเองแต่กลับเปิดโปงสถานะของเขามันจะเป็นไปได้หรือ หรือมีใครแทรกแซงเรื่องนี้อีก
อันที่จริงพวกเขาควรจะปกปิดสถานะของอเล็กซ์ไปตลอดสิ เปิดโปงเขาขึ้นมาตัวหารมรดกก็เพิ่มมากขึ้น เขาไม่คิดว่าทั้งหยางจงซินและ ดีแลน หยาง จะโง่ถึงขนาดนี้ หรือทั้งสองคนกำลังเล่นสงครามอะไรกันอยู่กันแน่
ช่างเถอะๆ คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ตอนนี้เขาควรจะคิดถึงผู้หญิงไทยคนนั้น เขาได้ชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอมาแล้ว
แต่ว่า...
เขาคิดอย่างหงุดหงิด โยนเอกสารเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นทิ้งไปทันที เขาต้องเจรจากับเธออย่างไรเธอถึงจะไม่เปิดโปงความลับเรื่องเขากับเธอ ยิ่งถ้าเกิดเธอพูดออกไปว่าเขาบังคับขืนใจแทนที่จะเป็นการซื้อบริการเขาจะยิ่งอยู่ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วเขาก็คล้ายกับจะเป็นเหยื่อเหมือนกันเพราะเขาเข้าใจผิด! ทำไมมาร์คัสไม่จัดการเรื่องนี้ให้เขาวะ! ปกติก็จัดการให้ทุกอย่าง วันนี้ดันเป็นบ้าไม่ยอมทำ
คอยดูเถอะ เขาจะไปฟ้องป้า เอาทักษะการแสดงระดับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมของปีที่แล้วไปฟ้องป้าว่ามาร์คัสกลั่นแกล้งรังแกเขา!
อเล็กซ์คิดอย่างหงุดหงิด “โว้ย!” เขากรีดร้องเพียงลำพังในห้องพักชั้น
เพนต์เฮาส์ซึ่งจองไว้หนึ่งเดือนระหว่างรอบ้านใหม่ หรือคราวนี้ควรจะหลบไปรับงานที่นิวยอร์กชั่วคราว งานในจีนตอนนี้มีแค่อีเวนต์ซึ่งเขาบินกลับมาได้ แต่ที่โน่นตอนนี้ใกล้จะถึงงานนิวยอร์กแฟชั่นวีกแล้ว ทางโน้นก็ติดต่อเขามาเหมือน
กัน รวมถึงงานโฆษณาสินค้าตัวใหม่อีกด้วย หลบข่าวฉาวทางนี้ไปสักพักก็ดีเหมือนกัน
เขาวางแผน ทว่าเมื่อติดต่อโลแกนกลับพบว่าอีกฝ่ายปิดเครื่อง สงสัยว่านี่จะต้องเป็นแผนของมาร์คัสแน่นอน!
“จะเล่นอย่างนี้เหรอไอ้พี่บ้า!”
อเล็กซ์สบถอย่างหงุดหงิด สุดท้ายจึงเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ กดข้อความส่งหาอีกฝ่ายเป็นการบอกตกลงว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้เอง แล้วให้มาร์คัสคืนตัว
โลแกนให้เขาได้แล้ว
อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว แถมมีการส่งรายละเอียดการเดินทางไปเมืองไทยพรุ่งนี้ตอนเย็นให้เขาเรียบร้อยเสร็จสรรพ ราวกับรู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องตกลง ซึ่งคิดถูกต้อง! เขาไม่ได้โง่ที่จะเอาแต่ใจตัวเองจนไม่ยอมจัดการเรื่องนี้หรอก!
ยิ่งในสถานการณ์ที่คนตระกูลหยางคิดอะไรไม่รู้อย่างนี้ เขาก็ยิ่งต้องกอดตำแหน่งซูเปอร์สตาร์ของเขาเอาไว้ให้แน่นๆ นี่อาจจะเป็นอาวุธเดียวของเขาที่ทรงอานุภาพที่สุดก็ได้!
ส่วนเรื่องของผู้หญิงคนนั้น อาจจะต้องสร้างเรื่องโกหกอะไรสักเรื่อง หรือไม่เขาอาจจะต้องให้เธออยู่ข้างตัวสักพัก จับตาดูเธอเอาไว้ให้ดีๆ พอคลายใจแล้วก็คงให้เธอไปอยู่ที่อื่น ยังไงเธอก็เป็นแฟนคลับของเขา ดูแลเธอให้ดีสมกับที่เธอเป็นแฟนเขามานานหลายปีก็แล้วกัน อีกอย่างจะได้เป็นการไถ่โทษที่เขาทำผิดกับเธอไปด้วย
ถึงเขาจะนิสัยไม่ดี แต่เขาไม่ใช่คนชั่วที่จะเมินเฉยในสิ่งที่ตนเองทำผิด ถ้าเขาทำผิดเขาก็พร้อมจะยอมรับ แม้ว่าครั้งนี้มันออกจะสายไปหน่อยก็ตามที...
อเล็กซ์คิดถึงอดีตที่ผ่านมาของเขาหลังจากเสร็จเรื่องราวทุกอย่างแล้ว เขาเป็นลูกเสี้ยวอเมริกัน จีน เกาหลี เกิดและเติบโตอยู่อเมริกามาโดยตลอด ไม่เคยรับรู้ว่าบิดาของเขาคือใครกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเขาอายุสิบห้าและจำเป็นต้องย้ายโรงเรียนบ่อยๆ ตอนนั้นชีวิตเขาลำบากจึงได้หางานทำ แม่ของเขาจึงบอกความจริงกับเขาว่านางเป็นเมียเก็บของพ่อเขาและหอบเขาหนีตายมาอยู่ที่นี่ อเล็กซ์สงสารแม่จึงได้เริ่มงานจากเป็นนายแบบเล็กๆ เพราะคำชักชวนของ
โมเดลลิ่งที่อเมริกาสมัยที่เขายังอยู่ที่นั่น กระทั่งหยางจงซินเริ่มไล่ล่าเขาหนักยิ่งขึ้น แม่ซึ่งเก็บตัวมานานจึงขอร้องผ่านลูกพี่ลูกน้องซึ่งก็คือแม่ของมาร์คัส
ทางนั้นจึงปั้นประวัติของเขาใหม่ทั้งหมด ให้เขากลายเป็น ‘อเล็กซานเดอร์ ชาน หยาง เวสลีย์’ อย่างปัจจุบันเพื่อให้เขาอยู่ในจุดที่ไม่ว่าใครก็จะทำร้ายเขาได้ยาก มาร์คัสและแม่ของเขาในเวลานั้นเชื่อว่าเขาควรจะอยู่ท่ามกลางแสงไฟ พวกตระกูลหยางเป็นพวกหัวเก่ารักหน้าตาตัวเองและไม่ต้องการเปิดเผยความสกปรกอะไรของตนเองให้ใครรู้ โดยเฉพาะหยางจงซินที่รักหน้าตายิ่งกว่าใครๆ ถ้าเขาตายและมีการเปิดเผยสืบสาวเรื่องลงไป ยายแก่นั่นจะยิ่งลำบาก เขาจึงได้ก้าวเข้ามาในจุดของการเป็นนักแสดงชื่อดังด้วยฝีมือการปั้นของมาร์คัส ซึ่งในเวลานั้นเป็นเจ้าของบริษัทเอเจนซี่ชั้นนำ ห้าปีจากการเป็นนายแบบเล็กๆ ในอเมริกาและเกาหลี อีกห้าปีของการโลดแล่นรับงานในประเทศทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นดาราชายเบอร์ต้นของวงการที่มีค่าตัวสูงสุดติดอันดับหนึ่งในสิบของแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรายได้รวมแต่ละปีของเขาในปีที่ผ่านมาพ่ายแพ้นักแสดงสาว
รุ่นพี่ซึ่งโกอินเตอร์ไประดับโลกเพียงไม่กี่ล้านหยวนเท่านั้น
เพราะอยู่วงการนี้มาเป็นสิบปี ความโสมมอะไรก็เห็นมาหมด เขาเองไม่ใช่คนนิสัยดีอะไร ทำอะไรไม่ดีก็บ่อย แต่เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนมาก่อน และสิ่งที่ทำให้เขาทนอยู่ในวงการนี้ได้นอกจากเพื่อแม่ เพื่อตัวเอง ก็คงเป็นเพราะแฟนคลับ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะรับงานแต่ละปีให้น้อยลงมากกว่านี้ จากที่เคยคิดจะรับงานละครเพียงปีละเรื่อง เขาก็ยังรับเพิ่มบ้างหากเรื่องนั้นบทโดนใจเพราะเขาต้องการเอาใจแฟนคลับ พวกเขาคือสิ่งดีๆ สิ่งเดียวในวงการนี้สำหรับ
อเล็กซ์ นับเป็นผู้มีบุญคุณของเขาอย่างแท้จริง บางคนด่าแฟนคลับเขาว่าเป็นติ่งผู้ชาย เพื่อไม่ให้แฟนคลับเสียหาย เขาถึงได้พยายามทำตัวดีและเป็นแบบอย่างเวลาอยู่ต่อหน้าสื่อ...
ก็ถือว่าวินวินกันทั้งคู่นั่นละนะ...เขาเองมีกินมีใช้ทุกวันนี้ก็เพราะแรงสนับสนุนจากแฟนคลับทั้งหลายนี่แหละ
ฉะนั้น...ถึงอยากจะเอาเงินให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นค่าปิดปากแค่ไหน เขาก็คงทำอย่างนั้นไม่ได้...คงต้องหาวิธีทำให้เธอจงรักภักดีกับเขาไปตลอดจนกว่าจะแน่ใจว่าเธอจะไม่คายความลับเรื่องนี้ออกไปให้เขาเสื่อมเสียนั่นแหละ!