1 ครอบครัวใหม่

1565 Words
“แม่คะ หนูไปทำงานแล้วนะคะ” เสียงหวานใสเอ่ยบอกคนในครัว ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นพาดบ่า ท่าทางร้อนรนเพราะกลัวจะไปทำงานสาย “จ้า…เลิกงานแล้วก็รีบกลับล่ะลูก อย่ากลับดึกนักนะ” เสียงแม่ดังลอดออกมาจากในครัวทั้งห่วงทั้งเตือน “ค่ะแม่” ลิลินตอบพลางก้มลงหยิบรองเท้ามาสวม “แล้วคืนนี้จะไปนอนที่ห้องของเมย หรือจะกลับมานอนบ้านเราล่ะลูก” ผู้เป็นแม่ยื่นหน้าออกมามองตามร่างบางด้วยแววตาเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าลูกสาวเหนื่อยขนาดไหนจากการทำงานกลางคืน “ยังไม่แน่ใจเลยค่ะแม่ ถ้าไม่ไหวหนูอาจจะนอนที่โน่นเลย ยังไงหนูโทรบอกอีกทีนะคะ” หญิงสาวตอบพลางรีบรูดซิปกระเป๋า เสียงพูดเจือด้วยความเร่งรีบ “ถ้าไม่มีรถกลับก็นอนห้องเมยก็ได้ อย่าฝืนกลับดึกเดี๋ยวจะอันตราย” แม่เอ่ยกำชับอีกครั้งเหมือนทุกวัน “หนูรู้แล้วค่ะแม่ หนูไปก่อนนะคะ บ๊าย” ลิลินหันมายิ้มบางๆส่งให้แม่ ยกมือโบกบ๊ายบายเล็กน้อย ก่อนหันหลังเดินออกจากบ้านไป “ไม่รู้จะรีบอะไรนักหนา เจ้าลูกคนนี้นิ” ยุพินบ่นพึมพำพลางเช็ดมือที่เปื้อนแป้งกับผ้ากันเปื้อน สายตายังมองตามแผ่นหลังบางของลูกสาว ที่รีบกุลีกุจอออกจากบ้านไป ราวกับกลัวว่าบาร์ที่ทำงานจะหนีหายไปอย่างนั้นแหละ บาร์นีโอบาร์ ภายในบาร์เสียงดนตรีจังหวะเร้าใจดังคลอไปทั่ว ความครึกครื้นจากแขกมากหน้าหลายตา ยิ่งทำให้บรรยากาศภายในบาร์ครึกครื้นยิ่งกว่าคืนไหนๆ กลุ่มนักธุรกิจในชุดสูทหรูทยอยเดินเข้าออกห้อง VIP ราวกับค่ำคืนนี้คือค่ำคืนแห่งการประชุมครั้งสำคัญ “วันนี้เห็นว่าเฮียมีแขกพิเศษมาเยอะเลยนิ” เมยเอ่ยขึ้นพลางเหลือบสายตามองตามกลุ่มชาย ในชุดสูทที่กำลังถูกพนักงานต้อนรับพาขึ้นไปยังชั้นสอง เธอเอื้อมมือไปรับแก้วและถังน้ำแข็งจากลิลิน มาวางเรียงบนเคาน์เตอร์ ในขณะที่สายตาก็ยังส่งมองตามแขกในชุดสูทสีดำด้วยความสนใจ “นักธุรกิจใหญ่งั้นเหรอ” ลิลินพึมพำเบาๆ เสียงของเธอแผ่วจนแทบกลืนหายไปกับเสียงดนตรี แต่ในใจกลับกระตุกวูบ ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาคือ บางทีในกลุ่มนั้นอาจมีผู้ชายที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิต คือผู้เป็นพ่อแท้ๆของเธอ “ใช่ ได้ยินว่าเป็นการประชุมใหญ่ เฮียเลยกันห้อง VIP ชั้นสองไว้เลยนะ คงเป็นห้องใหญ่สุดนั่นแหละ” เมยพยักหน้าพร้อมจะส่งสายตามองขึ้นไปที่ชั้นสองของบาร์ “อืม…” ลิลินขานรับเพียงสั้นๆ หัวใจกลับเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ความคิดเดียวที่ก้องอยู่ในสมองคือ 'คืนนี้ฉันต้องไม่เจอเขา ไม่อย่างนั้นความเกลียดที่ฝังลึกมันจะย้อนกลับมาทำร้ายฉันอีก' “ฉันว่าพ่อเธอก็...” เมยเอ่ยขึ้น แต่เสียงของเธอกลับขาดหายไปกะทันหัน เมื่อสายตาของลิลินแข็งค้างไปที่ประตูทางเข้า และนั่นเอง เธอเห็นชายร่างสูงสง่าในชุดสูทเข้ม ก้าวเดินเข้ามาภายในบาร์ด้วยท่าทีเคร่งขรึม ทำให้ลิลินตาโตอ้าปากค้าง สิ่งรอบข้างเหมือนจะชะงักลงในชั่วขณะ เกรียงศักดิ์ผู้เป็นพ่อที่ทอดทิ้งเธอกับแม่ไปอย่างไม่ใยดี กำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในบาร์ และเคียงข้างเขาคืออ๊ะอาย ลูกสาวคนใหม่จากครอบครัวใหม่ของเขา กำลังยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้กับผู้คนที่เป็นนักธุรกิจในกลุ่มมาเฟีย ที่ลิลินไม่อาจเดินเคียงข้างผู้เป็นพ่อแบบนั้นได้อีกต่อไป หัวใจของลิลินเจ็บปวดและแตกสลายในคราวเดียวกัน ความทรงจำเก่าไหลทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะหนีไปให้ไกลที่สุด หรือยืนหยัดเผชิญหน้ากับคนที่ทำลายครอบครัวเธอต่อไปดี “ลิลินนั่นพ่อแก” เมยยังพูดไม่ทันจบ ลิลินก็รีบยกมือขึ้นปิดปากเพื่อนแน่น ดวงตาสั่นไหวพร่าพราง พร้อมหมุนตัวหันหลังให้ทันที ทว่าแค่เงาของชายคนนั้นที่กำลังเดินผ่าน ก็ทำให้เธอหายใจแทบไม่ออกแล้ว “เงียบๆเถอะเมยฉันไม่อยากเจอเขา” เสียงกระซิบสั่นพร่าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ที่ไม่อาจอธิบายออกมาตอนนี้ได้ ทั้งสองยืนหลบอยู่ข้างเสา จนกระทั่งเกรียงศักดิ์กับอ๊ะอายเดินผ่านไปพ้นสายตา ลิลินถึงได้ปล่อยมือออกจากปากเพื่อนช้าๆ ลมหายใจที่กลั้นไว้ตลอดหลุดออกมาอย่างร้อนผ่าว "เฮ้อ!!!" “แกกลัวอะไร ทำไมไม่ให้พ่อแกเห็นไปเลยล่ะ อย่างน้อยเขาจะได้รู้บ้างว่าลูกแท้ๆของเขาต้องลำบากทำงานที่นี่” เมยเอ่ยเสียงเข้ม สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “เขาไม่ได้สนใจหรอกเมย เขาไม่ใช่พ่อคนเดิมของฉันอีกต่อไปแล้ว แกก็เห็นอยู่แล้วว่าเขารักลูกสาวกับลูกชายคนใหม่แค่ไหน” ลิลินตอบพลางน้ำตาคลอ ริมฝีปากเม้มแน่น หางตายังคงมองแผ่นหลังของชายที่เธอเคยเรียกว่าพ่อ เมยเม้มปากแน่น ความโกรธแทนเพื่อนตีขึ้นมาในอกทันที “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงเกลียดนายวีระขนาดนี้ เพราะพ่อแกมันลำเอียงแบบนี้นี่เอง” ลิลินส่ายหน้าเบาๆ แววตาที่มองเพื่อนเต็มไปด้วยความเหนื่อยใจ “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกแก ฉันไม่ได้จงเกลียดจงชังขนาดนั้น แต่ฉันแค่ไม่อยากยุ่งด้วยกับครอบครัวนี้ก็เท่านั้น” “แกรู้ใช่ไหมว่านายวีระคิดยังไงกับแก” “อย่าพูดถึงเขาเลยเมยฉันไม่อยากคิดมัน เรื่องระหว่างฉันกับนายนั่นมันจบลงแล้ว" ลิลินเอ่ยตัดบท ก่อนจะแย่งถาดในมือของเพื่อนมาถือไว้แน่น พร้อมหมุนตัวเดินไปยังโต๊ะลูกค้าด้วยท่าทางแข็งกร้าว ต่อให้จิตใจอ่อนไหวแค่ไหน เธอก็ยังเลือกที่จะแสดงความเข้มแข็งออกมาให้คนรอบข้างได้เห็น “อ้าวยัยลิลิน เดี๋ยวก่อนสิ!” เมยมองตามเพื่อนสาวไปด้วยความสงสาร ความคิดเดียวที่แล่นเข้ามาในใจคือ เพื่อนของเธอเคยเกิดมาในครอบครัวสุขสบาย แต่ทุกอย่างกลับพังทลายลง เพียงเพราะพ่อคนนั้นเลือกจะสร้างครอบครัวใหม่ ทิ้งให้แม่ลูกต้องเผชิญความตกต่ำด้วยตัวเอง และคนที่เดือดร้อนที่สุดในตอนนี้ ก็เห็นจะเป็นลิลินเพื่อนรักของเธอเอง “นี่ลิลินแกไม่คิดจะให้พ่อแกเห็นหน้าบ้างเลยจริงๆหรอ” เสียงของเมยดังขึ้นข้างหู ในขณะที่ทั้งคู่เดินเสิร์ฟโต๊ะอยู่ใกล้ๆกัน “อืม…ทำไม” ลิลินตอบเสียงเรียบ พลางก้มหน้าจัดแก้วลงบนโต๊ะ ไม่แม้แต่จะหันไปสบตาคนที่มองหน้าเธออยู่ “ก็เมื่อกี้ฉันเห็นพี่คารุเดินมาคัดคนไปช่วยในห้อง VIP น่ะ เขาบอกวันนี้แขกเยอะพนักงานไม่พอ ถ้าแกเข้าไปแกต้องได้เจอกับพ่อแกแน่ๆ” “แล้วไง” ลิลินเงยหน้าขึ้นเพียงนิด ดวงตาเย็นชาเหมือนคนที่ไม่ต้องการรับรู้ “ก็เราสองคนอาสาไปเลยไง อย่างน้อยแกก็จะได้...” “ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม ว่าต่อให้เขาเห็นว่าฉันลำบากยังไง เขาก็ไม่สนใจหรอกเมย หนำซ้ำยัยอ๊ะอายจะยิ่งสะใจ สมน้ำหน้าฉันด้วยซ้ำ" น้ำเสียงแข็งกร้าวของลิลินตัดบทเพื่อนทันควัน เมยชะงักไปทันที เธออ้าปากเหมือนอยากพูดอะไรต่อ แต่ลิลินก็สวนขึ้นอีก “แกไม่รู้จักคนพวกนั้นหรอก คนพวกนั้นไม่มีหรอกคำว่าสงสารหรือเห็นใจใคร เงินและอำนาจเท่านั้นแหละคือสิ่งที่ยั่งยืน” “แต่แกเป็นลูกสาวแท้ๆของเขานะลิลิน” “ฉันบอกว่าเลิกพูด!” เสียงของลิลินแข็งจนเมยต้องรีบหุบปาก เธอเดินเสิร์ฟต่อไปอย่างไม่แยแส บรรยากาศระหว่างเพื่อนสองคนเต็มไปด้วยความอึดอัด ก่อนที่ลิลินจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นอีกครั้ง “แกน่ะ สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ ค่าชุดเชียร์หลีดก็ยังไม่ได้จ่ายจะถึงวันแข่งอยู่แล้วแท้ๆ” เมยมองหน้าเพื่อนเล็กน้อย “เอ่อ…รู้แล้วน่า” "รู้แล้วก็ขยันทำงานซะ เลิกสนใจเรื่องของชาวบ้านสักที" "ฉันคิดมาโดยตลอดเลยนะเว้ยว่าแกเป็นคนที่สู้คนมาก แต่ทำไมเรื่องนี้แกยอมแพ้มันวะลิลิน" เมยถามอย่างไม่เข้าใจ แต่กับไม่ได้คำตอบใดๆจากปากของลิลินเลย เธอเอาแต่ก้มหน้าทำงานและเดินจากไปอย่างเงียบๆ "จิ๊...เฮ้อ!!" เมยทำได้แค่จิ๊ปากก่อนถอนหายใจแรงๆ มองตามแผ่นหลังของเพื่อนด้วยความหงุดหงิดปนสงสาร เพราะต่อให้ไม่พูดออกมา เมยก็รู้ว่าลิลินยังเจ็บปวดแค่ไหน ที่ต้องเห็นพ่อเดินเคียงข้างครอบครัวใหม่ในบาร์แห่งนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD