เมอร์เรนด้าผับ(ผับของไดจิ)
“มาคนเดียวเหรอครับเพื่อน นั่งหงอยเชียว”
เสียงทุ้มของเพื่อนรักอย่างไดจิ ถามเขาอย่างยียวนกวนประสาทเช่นเคย หลังจากที่ภูภูมิไม่ค่อยมา เป้าหมายใหม่ของไดจิก็คือเขานั่นแหละ
“อืม ดื่มเป็นเป็นกูหน่อย แล้วลินิณญ์ไม่มาเหรอวันนี้”
ลินิณญ์คือแฟนของไดจิ ที่แต่งงานกันอย่างสายฟ้าแลบไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
“อืม ลินิณญ์ไม่ค่อยสบายกูเลยให้รออยู่ห้อง ว่าจะรีบเคลียร์งาน จะได้รีบกลับไปดูโทษทีที่กูดื่มเป็นเพื่อนไม่ได้ ห่วงลินิณญ์จริงๆไข้ขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้”
ไดจิแลดูเป็นกังวล จนหัวคิ้วขมวดมุ่นแทบชนกัน
“เออ มึงรีบไปทำงานเถอะ เดี๋ยวกูดื่มไม่นานก็คงกลับ”
เมื่อไม่มีเพื่อน เขาเองก็ไม่ค่อยอยากดื่ม เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว ตั้งแต่เพื่อนๆเริ่มทยอยมีเมียกันไปทีละคน จนพักหลังมาเหลือแค่เขากับภูภูมิ ที่ยังพอมาดื่มเป็นเพื่อนกันได้ แต่ตอนนี้ภูภูมิก็เริ่มหาย เพราะหลงเด็กเลี้ยงจนโงหัวไม่ขึ้น
‘ สวัสดีครับผมชื่อปกป้อง ปรัชญาภัค วิศวะโยธาปี4 ลูกชายคนโตของเจ้าสัวเปรมชัย และคุณหญิงรัศมี ที่บ้านทำธุรกิจรับเหมารายใหญ่ อันดับต้นๆของประเทศไทย ใช่ครับบ้านผมรวยมาก
ผมมีน้องชายหนึ่งคน คือปริ้นซ์ ปริญญาวัฒน์ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่มัธยมปลายปีที่6’
@อีกด้าน ผ้าแพร สาวบริหารปี3
“อีก5วันต้องจ่ายค่าเทอมแล้วทำไงดี”
ผ้าแพรนั่งดูยอดเงินในมือถือ อีกไม่กี่วันก็ถึงเวลาต้องจ่ายค่าเทอมแล้ว เงินที่มีอยู่ยังได้ไม่ถึงครึ่งเลย
“ก็ฉันบอกแกแล้วผ้าแพร ว่าให้แกไปเป็นเด็กvip
หน้าตาสวยๆแบบแกเนี่ย ฉันว่าได้ทิปหนักแน่ๆ”
ใบพัดพูดขึ้น ทำให้ฉันเริ่มสองจิตสองใจ หรือว่าฉันจะไปขอพี่แซนขึ้นไปเป็นเด็กโซนvipกันนะ ฉันมองหน้าพัดอย่างเป็นกังวล ถ้าขืนยังเสิร์ฟอยู่แบบนี้ ชาตินี้ก็คงไม่พอค่าเทอม
‘สวัสดีค่ะ ฉันชื่อผ้าแพร แพรพิรัณ ลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัว พร้อมพงษ์ กับคุณหญิงดาหลา แต่นั่นมันเป็นแค่อดีตไปแล้ว ในวันที่ฉันใกล้จะจบม.ปลาย ฉันได้รับข่าวร้ายว่า ธุระกิจที่บ้านของฉันล้มละลาย จากคุณหนูบ้านรวยตอนนี้ ต้องกลายเป็นเพียงเด็กสาวที่ปากกัดตีนถีบ หาเงินส่งตัวเองเรียนที่มหาลัยดีๆ หลังจากจบม.6 ฉันก็ทำงาน1ปีเต็ม เพื่อเก็บเงินไว้เรียนมหาลัย ขายข้าวของแบรนด์เนมทุกอย่าง แม้กระทั่งรถหรู และก็คอนโดที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด จนคิดว่าสามารถส่งตัวเองเรียนได้สบายแล้ว จึงมาสอบเรียนมหาลัยเอกชน เพื่อหวังที่จะยกระดับตัวเอง จะได้ทำงานดีๆและได้เงินเดือนสูงๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด เมื่อพ่อที่สูญเสียทุกอย่างในพริบตา ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ต้องใช้เงินผ่าตัดหลายแสน จนฉันต้องเอาเงินเก็บที่มีออกมาสำรองจ่ายไปก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พ่อหาย พ่อกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จนแม่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา ดีหน่อยที่แม่ยังมีบ้านพักตากอากาศ ที่เป็นชื่อของแม่เอง เลยไม่โดนยึดทรัพไปด้วย พ่อกับแม่เลยไปอยู่ที่นั่น ส่วนฉันก็เช่าอพาร์ทเม้นราคา3500อยู่ พร้อมกับทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย ’
ตึก ตึก ตึก
“พี่แซนคะ แพรขอย้ายไปเป็นเด็กโซนvipได้ไหมคะ
คืออีก5วันแพรต้องจ่ายค่าเทอมแล้วค่ะ”
เธอตัดสินใจเพียงไม่นาน ก่อนจะรีบเดินมาหาพี่แซน หัวหน้าพนักงานโซนด้านล่าง แล้วบอกถึงจุดประสงค์ที่ต้องการ
“หืม เราพึ่งมาทำงานได้2อาทิตย์เองนะ จะย้ายแผนกแล้วเหรอ”
ใช่ ผ้าแพรพึ่งย้ายมาจากอีกที่ เพราะที่เดิมแขกลวนลามหนักมาก จนเธอมีเรื่องกับแขกแต่ไม่ว่ายังไง ทางร้านก็ต้องเลือกแขกอยู่ดี เพราะรายได้ก็มาจากแขกพวกนั้น
“นะคะพี่แซนช่วยแพรหน่อย”
เมื่อไม่มีทางเลือกอะไร ผ้าแพรก็ทำได้เพียงอ้อนวอน เผื่อว่าหัวหน้าจะเห็นใจเธอบ้าง
“ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะลองคุยกับนายให้ แต่พี่ไม่รับปากนะว่าจะได้รึเปล่า”
พี่แซนดูหนักใจ แต่ก็รู้ประวัติคร่าวๆของเธอบ้างตอนมาสมัคงาน ว่าครอบครัวทางบ้านเป็นยังไง
“ขอบคุณนะคะพี่แซน ”
ผ้าแพรยิ้มอย่างมีความหวัง เพราะพัดบอกเธอว่า เด็กโซนvipนอกจากจะได้ค่าตัวที่แพงแล้ว ยังได้ทิปหนักมาก ถ้ายอมให้แขกกอดหอมบ้าง คนรวยเหล่านั้นก็ยอมเจียดเศษเงินมาให้อย่างง่ายดาย
ชีวิตเธอเดินมาถึงปี3แล้ว อีกปีกว่าๆก็จบ อะไรที่จะผลักดันชีวิตได้ ยังไงก็ต้องคว้าเอาไว้ก่อน
“งั้นรอตรงนี้นะ พี่ไปคุยกับนายให้”
พอเธอเดินมาขอร้อง พี่แซนก็รีบเดินขึ้นไปชั้น3
เพื่อไปคุยกับเจ้าของผับ ที่ทุกคนที่นี่เรียกว่านายให้เลย
ครืด ครืด
“ค่ะพี่แซน”
หลังจากพี่แซนเดินขึ้นไปพักใหญ่ ไม่นานก็โทรกลับลงมา ฉันมองหน้าจออย่างมีความหวัง และรีบกดรับด้วยความตื่นเต้น
{ผ้าแพร นายบอกให้ขึ้นมาพบได้ นายอยากเห็นหน้า เดินมาทางบันไดพนักงานนะ อย่าให้แขกเห็น}
“ได้ค่ะพี่แซน”
ฉันไม่รอช้า รีบสาวเท้าขึ้นไปชั้น3อย่างมีความหวัง ก่อนจะเดินไปหยุดที่หน้าห้องเจ้านาย และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และยกมือขึ้นเคาะประตูอย่างตื่นเต้น
ก็อกๆๆ
“เข้ามา”
เสียงทุ้มด้านในเอ่ยอนุญาต
แอ้ด!!
“ผ้าแพร นี่คุณไดจิเจ้าของผับ หรือที่เราเรียกกันว่านายนั่นแหละ ส่วนนี่น้องผ้าแพร เด็กเสิร์ฟพาร์ทไทม์ ที่ขอย้ายมาเป็นเด็กvipค่ะนาย ”
หลังจากที่พี่แซนแนะนำให้เราสองคนได้รู้จักกัน
ฉันก็รีบยกมือไหว้ผู้เป็นนายอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณไดจิ ”
เขาเหลือบตามามองฉันเพียงครู่ เหมือนคนที่ไม่ได้อยากมอง ก่อนจะก้มลงไปเซ็นเอกสารตรงหน้าต่อ เหมือนว่าไม่สนใจฉันเลยซักนิด
“แล้วแต่งตัวมาแบบนี้ จะให้ผมตัดสินใจยังไง
เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ แต่งตัวพร้อมทำงานมาได้เลย
ถ้าผมดูแล้วว่าผ่าน เดี๋ยวผมให้เริ่มงานได้อย่าลืมแต่งหน้ามาด้วยละ วันนี้ผมรีบคงไม่อยู่รอคุณแต่งหน้าทำผมหรอก คุณสองคนลงไปได้แล้ว”
หลังจากนั้นฉันกับพี่แซนก็เดินออกมาเงียบๆ เพราะกลัวจะรบกวนการทำงานของนาย คนอะไรอย่างตึง
ตึก ตึก ตึก
“พรุ่งนี้จัดเต็มเลยนะผ้าแพร พี่เอาใจช่วย”
หลังจากลงมาถึงด้านล่างแล้ว พี่แซนก็พูดให้กำลังใจฉัน พร้อมยิ้มกว้างให้อย่างจริงใจ
“ขอบคุณนะคะพี่แซน แพรจะทำให้เต็มที่”
นี่คงเป็นโอกาสเดียว ที่ฉันจะมีเงินจ่ายค่าเทอม
ไม่ต้องเอาบ้านพักตากอากาศของแม่ ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของครอบครัวไปจำนอง
“แต่พี่ก็ยังเสียดายเราอยู่นะ เราทำงานดีมาก
แต่เพื่ออนาคตของเรา พี่สนับสนุนเต็มที่”
เราคุยกันอีกไม่นาน ฉันก็ขอกลับไปทำงาน
เพราะยังไงก็ต้องทำหน้าที่อยู่
“เป็นไงบ้างผ้าแพร ตกลงได้ย้ายไปเป็นเด็กvipไหม”
พอเดินมาถึงจุดทำงาน พัดก็รีบเดินเข้ามาถาม
เพราะเมื่อกี้ฉันฝากพัดดูแลโต๊ะแทน
“พรุ่งนี้ถึงรู้ เขาให้แต่งตัวสวยๆมาอะ”
ฉันบอกเพื่อนอย่างไม่ปิดบัง เพราะพัดคือเพื่อนที่สนิทมาก แต่พัดได้ทุนเรียนจนจบปริญญา
เลยหาแค่ค่าอยู่ค่ากิน นอกจากพัดแล้ว ฉันยังมีเพื่อนอีก2คนคือพู่กันกับสิงหา สองคนนั้นบ้านรวยแต่ฉันก็ไม่เคยรบกวนเพื่อน เพราะไม่อยากให้ตัวเองเป็นภาระของใคร
“สู้ๆนะ ฉันเชื่อว่าแกต้องทำได้”
ฉันระบายยิ้มให้เพื่อน ก่อนแยกย้ายกันไปดูแลตามโต๊ะต่างๆของตัวเอง
“เฮ้อ!!กว่าจะเสร็จ”
ไอ้ไดจิเดินลงมานั่งข้างผม พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แรกเริ่มว่าจะดื่มนิดหน่อยก็กลับ แต่นั่งแล้วเพลินไปหน่อย จนตอนนี้ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน จนไอ้ไดจิทำงานเสร็จอย่างที่เห็นนั่นแหละ
“เอ้าดื่มก่อน”
ผมรีบเทเหล้าสีเข้มให้เพื่อน วันนี้ผมนั่งคนเดียวทั้งคืน เพราะไม่ได้มีเหยื่อที่ถูกใจอะไร
ทั้งที่สาวๆหลายคนก็พยายามมาขอชนแก้ว และก็ชวนคุยอยู่หลายคน
“อืม ขอบใจ เอ้อ!!พรุ่งนี้มึงว่างรึเปล่ากูมีเด็กให้มึงช่วยดูอะ ”
ไดจิพูดขึ้น หลังจากกระดกจนหมดแก้วแล้ว
“เด็กอะไรวะ ”
ผมถามมันอย่างสงสัย มันไม่ยุ่งกับเด็กมานานแล้ว ก็ตั้งแต่มีเมียนั่นแหละ