เกียร์รักศรัณย์

บทนำ

นิยายเรื่องนี้ เป็นภาคของ เพื่อนสนิทของพี่ไต้ฝุ่น จากเรื่อง เกียร์รักไต้ฝุ่นค่ะ

.

.

.

.

.

คำเตือน

เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีภาษาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหามีการบรรยายเรื่อง Sex อย่างโชกโชน บรรยายละเอียด Dirty talk และในเนื้อเรื่องมีพฤติกรรมตัวละครที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเลียนแบบ

บทนำ

@สถานีตำรวจ

เสียงของตำรวจไขกุญแจประตูห้องขังทำให้ 'เขา' ที่นั่งทำสีหน้าเรียบเฉยเงยขึ้นไปมองยังต้นตอของเสียง ก่อนที่ประตูห้องขังของเขาจะถูกเปิดขึ้น พร้อมกับเสียงเข้มๆ อย่างเอือมระอาของนายตำรวจ

"นายศรัณย์มีคนมาประกันตัวแล้ว"

เขาไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่ลุกขึ้น ก่อนจะเดินออกจากห้องขังไปอย่างเบื่อหน่ายเหมือนอย่างเคย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนขัง รอประกันตัว

เมื่อเดินออกมาด้านหน้า ก็พบกับเพื่อนสนิทที่คงมาประกันตัวเขาอีกนั่นแหละ เขาเดินไปหามันที่ยังทำหน้านิ่งเหมือนอย่างเคย ก่อนจะตบลงบนไหล่ของมันสองสามที

"ขอบใจมึงมากไอ้ฝุ่น เดี๋ยวกูโอนเงินคืนให้สามหมื่น ค่าเสียเวลามึงด้วย" เขาเอ่ยพลางบิดขี้เกียจก่อนจะสาวเท้าเดินลงสถานีตำรวจ โดยที่มันก็เดินตามเขามาติดๆ

เขาใช้สายตามองหารถคู่ใจ ที่เห็นว่ามันจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะเดินไปสำรวจความเสียหายของรถบิ๊กไบค์ลูกรัก

เขาขมวดคิ้วมุ่นในยามที่มองไปที่รอยขีดข่วนบนรถสุดที่รัก จวบจนคนที่เดินมายืนอยู่อีกฝั่งเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับร่างสูงของมันที่นั่งลงบนรถบิ๊กไบค์ของมันเองที่จอดอยู่ใกล้กันกับรถของเขา

"มึงทำตัวยังไงให้โดนจับวะ" ไอ้ฝุ่นเอ่ยถามเขาด้วยใบหน้าราบเรียบ ส่วนเขาได้แต่ทำหน้าเซ็ง ก่อนจะยืดตัวขึ้นบอกมัน

"กูเอาหมวกกันน็อกฟาดหัวคนว่ะ"

"ฮะ?" คนที่ได้ยินถึงกับอุทานออกมา

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่คิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ก็ทำเขาถึงกับอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง

"กูจอดอยู่ข้างฟุตพาท แล้วแม่งเสือกฝ่าไฟแดงมาเฉี่ยวรถกู ไม่ขอโทษกูสักคำ แล้วยังมีหน้ามาชี้หน้าด่ากู มึงก็รู้กูความอดทนต่ำ เลยจัดฟาดไปสองสามที มันเลยแจ้งความจับกู"

เขาฟาดยังไม่ทันได้โดนหัวมันเต็มๆ เลยด้วยซ้ำ แต่โดนข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งที่มันก็สวนเขากลับ แต่สภาพอีกฝ่ายมันเยินกว่าเขาเยอะ

"แต่หน้ามึงโดนต่อย ปากก็แตก" ไอ้ฝุ่นพูด พลางชี้มายังหน้าเขา จนต้องแลบลิ้นออกมาไล่เลียข้างปากที่มีหยาดเลือดซึมอยู่เล็กน้อย

"มันสวนทีเผลอ รู้งี้กูน่าจะฟาดอีก แม่ง... หน้ากูแหกขนาดนี้จะไปเจอสาวยังไงวะ"

เรื่องหน้ามันเรื่องใหญ่สำหรับเขา ปกติเขายอมให้ส่วนอื่นของร่างกายโดนยำได้หมด ยกเว้นหน้าที่เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของเขา ที่มีไว้หลอกล่อสาวๆ ให้เข้ามาหา

พวกผู้หญิงมักหลงใหลกับหน้าตาของเขา แต่เขามันสาย ONS เสียด้วยสิ ไม่ใช่ว่าไม่อยากซ้ำ แต่เขาไม่อยากผูกมัดกับใคร

และมันเป็นกฎของ 'แอคเค่อ' อย่างเขา ที่นัดสาวๆ ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง กฎของเขามีข้อเดียวคือ ทุกอย่างต้องเป็นความลับ และจบแค่คืนเดียว

และที่อยากให้เป็นความลับ เพราะเขาเป็นหนึ่งในหนุ่มป๊อปติดท็อปมหาลัยของคณะวิศวะ เขาไม่อยากให้ชื่อเสียงของเขาด่างพร้อย ใครรู้เขาชีวิตเขาจบเห่แน่ แม้แต่ไอ้ฝุ่น เพื่อนสนิทของเขายังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นแอคเค่อ

"มึงยังห่วงที่จะไปเจอสาวอีก?" มันถึงกับทำสีหน้าเอือมระอาใส่

"ก็เออดิ กูนัดไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน คนนี้กูต้องไปหาเขาว่ะ" เขาพูดพลางสบตากับมันนิ่ง...

นึกไปถึงคนที่เพิ่งคุยกันผ่านแอปพลิเคชัน ก็ทำเขาถึงกับกัดริมฝีปากล่าง อดจินตนาการไปถึงรูปเรือนร่างที่อีกฝ่ายส่งมาให้เขา เพื่อยืนยันตัวตน...

แต่ไอ้ฝุ่นก็ยังเอ่ยขัดเขาอีกจนได้

"ไม่ใช่ว่าสาวที่มึงนัดมีแฟนเหมือนครั้งก่อนนะ ที่มึงเกือบโดนผัวเขากระทืบน่ะ"

มันก็จี้ใจดำเขาเกิน ครั้งก่อนยังไม่ทันได้ขึ้นคอนโดด้วยซ้ำ ผัวน้องเขาก็ซัดเขาคาโรงจอดรถ ใครจะไปรู้ว่ามีผัว เขาก็ไม่อยากซ้ำรอยใครสักหน่อย

แต่กับคนนี้...

"หึ คนนี้ต่อให้มีผัวจริง กูก็เอา..." ยิ่งคิดก็ยิ่งเสี้ยน หรือเขามันเป็นพวกบ้าเซ็กซ์วะ แค่เห็นรูปที่เธอบนโพรไฟล์ให้ก็ทำร่างเขาร้อนผ่าวไปหมด

ไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนที่หุ่นน่าเยขนาดนี้

"สวยว่างั้น?" ปกติไอ้ฝุ่นไม่ค่อยถามเรื่องส่วนตัวกับเขา เหมือนที่เขาจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของมัน แต่คราวนี้มันอยากรู้เรื่องของเขาเฉย

ถ้าถามว่าสวยไหม เขาคงตอบว่า...

"ไม่รู้ว่ะ ยังไม่เห็นหน้า ตัวเล็กแต่หุ่นดีโคตร นมนี่แม่ง..." แค่นึกก็ทำเลือดลมในกายสูบฉีดไปหมด เขาไม่เคยเสียอาการกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่ทำไมกับคนนี้เขาอยากเห็นร่างกายเธอแบบตัวเป็นๆ ว่าได้ใช้แอปแต่งรูปหรือเปล่า ทำไมหุ่นแม่งโคตรดี และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเผลอชวนผู้หญิงผ่านแอปครั้งแรก ทั้งที่ไม่เคยคิดนัดใครก่อนแท้ๆ ปกติจะโดนสาวๆ พวกนั้นทักมาหาเขาก่อนเสมอ

แต่ไอ้ฝุ่นกับทำสีหน้าเอือมให้เขา พร้อมกับพูดเตือนกัน

"หยุดพูดเถอะ มึงอยากโดนอีกข้อหาหรือไง พวกเรายังอยู่หน้าสถานีตำรวจไอ้เวร"

"พูดถึงโดนจับ กูลืมถามอายุน้องเขาเฉย"

เขาลืมถามอายุสาวคนที่นัด คงไม่ใช่สาวมัธยมหรอกใช่ไหม เขายังไม่อยากโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์ เขาทำสีหน้าชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง จนไอ้ไต้ฝุ่นเลิกคิ้วถาม

"ตกลงมึงจะไม่ไปว่างั้น?"

มาถึงขั้นนี้เขาจะไม่ไปได้ไง เรื่องชื่อกับอายุ เดี๋ยวไปถามเอาหน้างานแล้วกัน อายุไม่ถึงเขาก็แค่เซย์โน ขอไม่เล่นด้วย ใครจะอยากไปเสี่ยงเอากับผู้หญิงแค่คนเดียว

"ใครบอกไม่ไป... มึงพกแมสก์มาปะ" เขาเอ่ยถามไต้ฝุ่น ก่อนที่มันจะส่งแมสก์สีดำให้เขา เมื่อได้มาเขาก็ไม่รอช้าที่จะสวมมันเพื่อปกปิดรอยช้ำบนใบหน้าเอาไว้

"ขอบใจมึงมาก แล้วเจอกัน..." เขาตบไหล่มันเบาๆ ก่อนจะคร่อมลงบนบิ๊กไบค์เพื่อจะไปตามนัดของสาว แต่ไอ้ฝุ่นกลับเรียกเขาไว้อีกครั้ง

"เดี๋ยวดิ ที่กูถ่อมาประกันตัวมึง เพราะกูมีเรื่องจะคุยกับมึง"

"ว่า?" เขาพูดพลางสวมหมวกกันน็อกเต็มใบอย่างไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆ จนกระทั่งไอ้ไต้ฝุ่นพูด...

"คิรินทร์บอกให้มึงเข้าประชุมเชียร์ของปีนี้ด้วย มึงชิ่งมาสามปีแล้ว ปีนี้พวกเราอยู่ปีสี่ปีสุดท้าย มันอยากให้มึงเข้ามาดูน้องบ้าง"

ได้ยินคำว่า 'ประชุมเชียร์' ก็ทำเขาเบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์

"กูขอบาย กูไม่ชอบทำกิจกรรม มึงก็รู้" เขาไม่เคยเข้าประชุมเชียร์ เกียร์ก็ไม่ได้ แต่ใครแคร์? เขาไม่ได้สนใจเกียร์พวกนั้นอยู่แล้ว แค่เข้าไปในสโมสรใต้คณะก็มีให้ซื้อปะ ทำไมต้องเข้าไปทำกิจกรรมรับน้องให้เหนื่อย

เขาแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ ทำตัวหล่อ ล่อสาวๆ

และปีนี้เขาคิดจะชิ่งอีกเหมือนอย่างเคย แต่ไอ้ฝุ่นกลับเอ่ยขัดอย่างกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร

"แต่ปีนี้มึงชิ่งไม่ได้ เพราะไอ้คิรินทร์ส่งชื่อมึงเป็นเฮดว้ากวิศวะปีสี่ว่ะ :)" มันพูดพลางคร่อมลงบนรถบิ๊กไบค์ของตัวเอง และสิ่งที่ได้ยินก็ทำเขาถึงกับหันขวับไปมองมัน

"มึงว่าไงนะ" เขาทำหน้าเหวอเพราะไม่คิดว่าไอ้พวกเพื่อนสนิทมันจะมัดมือชกเขาด้วยวิธีนี้

แม่ง... กูจะชิ่งสักหน่อย ไอ้พวกเพื่อนเวร

"มึงไปเถอะศรัณย์ เดี๋ยวสาวรอ ไว้เจอกันที่มหาลัยเลยละกัน"

และเขาที่ยังไม่ทันได้โต้เถียงอะไรกับมัน อีกฝ่ายกลับสตาร์ตรถ และออกตัวไปในทันที ปล่อยให้เขาอึ้งแดกกับคำพูดของมัน

เฮดว้าก? เขาเนี่ยนะเป็นเฮดว้ากปีสี่ ทั้งที่กูไม่เคยเข้าเชียร์เลย แค่คิดก็ไมเกรนจะขึ้น

แต่ความคิดของเขากลับหยุดลง เมื่อมีเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันหนึ่ง เมื่อเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พบว่า 'สาวนมใหญ่' ที่เขานัดไว้เป็นคนทักมา

ติ่ง!

'คุณอยู่ไหนแล้วคะ?'

เขามองข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนที่มุมปากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เรื่องเฮดว้ากเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้คือเวลาของ 'ศรัณย์'