คนตัวเล็กลอบถอนหายใจเมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของหนุ่มใส่แมสก์เดินตามหลังมา ดูเหมือนว่าเขาจะหยุดอยู่ข้างหลัง สงสัยหมอนั่นคงจองห้องไว้ชั้นเดียวกับเธอสินะ
เธอเองก็เผลอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นโรคจิตไปเสียได้
คิดได้แบบนั้นก็ได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะเดินทอดน่องไปยังห้อง 1001 คนตัวเล็กที่กำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง แต่ไม่ทันที่จะหลังมือจะโดนประตูด้วยซ้ำ กลับมีฝ่ามือหนาของใครบางคนทาบทับลงมา แผงอกกว้างของเขาสัมผัสเข้ากับแผ่นหลังแบบบางของเธอ พร้อมกับเสียงกระซิบข้างใบหู
"มาหาใครในห้องนี้เหรอ..."
กึก!
น้ำเสียงแหบพร่า พร้อมกับไอคุกรุ่นที่ทาบทับลงมา ทำคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้ง พร้อมกับรีบหันลำตัวกลับไปหาอีกฝ่ายในทันที
เมื่อสายตาของเราสบกันก็ทำให้คนตัวเล็กถึงกับประหม่าไปหมด เพราะคนที่คิดว่าเขาคงเข้าไปในห้องใดห้องหนึ่ง อีกฝ่ายกลับเดินตามเธอมาเธออย่างนั้น
"อ๊ะ! นี่คุณ..." คนตัวเล็กเอ่ยพลางดันลำตัวของอีกฝ่ายออกห่าง แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่ง แทบจะไม่สะทกสะท้านกับแรงของเธอแม้แต่นิดเดียว
"ตกใจเหรอ" เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นแววตาตื่นตระหนกของคนตัวเล็ก ที่แทบจะปิดไม่มิดต่อให้เธอปกปิดด้วยแมสก์ แต่ทุกอย่างของเธอในตอนนี้กำลังสื่ออยู่ในดวงตาที่สั่นไหวนั้น
แผ่นหลังเล็กแนบลงไปบนบานประตู ลมหายใจเริ่มติดขัด เมื่ออีกฝ่ายขยับตัวเข้ามาใกล้ เธอกำลังตกใจ แต่ก็พยายามจะทำใจดีสู้เสือ
เพราะหลังประตูนี้มี 'แอคเค่อ' ที่เธอนัดเอาไว้ หมอนั่นต้องช่วยเธอได้แน่ๆ ขอแค่เธอถ่วงเวลาให้เขามาเปิดประตูเท่านั้น
"คุณเดินตามฉันมาเหรอ... คะ" คนตัวเล็กพยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น ตอนนี้เธอไม่ได้กลัวเขา แต่กลัวตัวเองไม่ให้ยกหมัดขึ้นมาซัดหน้าเขาก็เท่านั้น
แต่ถ้าลงแรงไป จากลักษณะรูปร่างที่ทั้งสูง และตัวใหญ่แบบเขา เธอคงสู้ไม่ไหวหรอก เขาตัวใหญ่กว่าเธอเกือบหนึ่งเท่าด้วยซ้ำ ดูฝ่ามือเขาสิ ใหญ่เท่าใบหน้าเธอแล้วมั้ง
"ก็นะ... :) " เขายักไหล่ให้กับคำพูดของเธออย่างคนที่กวนประสาทกัน
นี่เขาจงใจกวนประสาทเธอใช่ไหม จากลักษณะท่าทางก็ดูไม่เหมือนโรคจิตเลยสักนิด ถ้าโรคจิตจริงๆ คงลากเธอเข้าห้องใดห้องหนึ่งไปแล้ว แต่หมอนี่เข้ามาประชิดแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร
"คุณเดินตามฉันมาทำไม" คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่นให้อีกฝ่าย พยายามจะใช้ฝ่ามือตัวเองดันตัวเขาออก แต่ยิ่งดันออก ร่างแกร่งนั้นก็ยิ่งขยับเข้ามาใกล้ราวกับกำลังจะแกล้งกันเสียอย่างนั้น พร้อมกับใบหน้าใต้แมสก์สีดำที่ก้มต่ำลงมาจนสายตาเราอยู่ในระดับเดียวกัน
ดวงตาเขาหยีเล็กน้อย ราวกับเขากำลังยิ้มยั่ว....
"แล้วคิดว่าไงครับ?" เขาเอียงคอมองเธอ จนคนตัวเล็กได้แต่เม้มปาก รู้สึกขัดใจที่คนในห้องไม่เปิดประตูออกมาสักที
เธอทักไปบอกเขาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำว่าอยู่ชั้นที่ 10 แต่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าได้อ่านข้อความของเธอหรือเปล่า
ตอนนี้เธอคงต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองแล้วสินะ เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าต้องการอะไร เขาทำเพียงแค่เข้ามาใกล้ มองหน้าเธอ โดยที่เนื้อตัวเราแทบไม่ได้สัมผัสกัน มีแต่เธอที่ยื่นมือไปดันตัวเขาออก
"...." เธอสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ เพื่อเรียกสติของตัวเอง ก่อนจะมองไปยังดวงตาคู่คมเขาที่หลุบมองกันไม่ห่าง แล้วก็สรรหาคำพูดที่จะเอาตัวรอดในตอนนี้ "พอดีว่าฉันมาหาแฟนน่ะค่ะ คุณช่วยถอยออกไปหน่อยได้ไหมคะ แฟนของฉันเขาอยู่ในห้องนี้ค่ะ"
"งั้นเหรอ :) "
งั้นเหรอ...? หมอนี่ตอบมาแค่นี้จริงดิ อีกทั้งเธอยังรู้เลยว่าใต้แมสก์นั้นเขากำลังยิ้มอยู่ เพราะดวงตาเขามันกำลังหยียังไงล่ะ
'เขายิ้มทำไม' มีอะไรที่มันน่ายิ้มเหรอ
"แฟนอยู่ในห้องนี้งั้นสินะ :)" เขาเอ่ยถามขึ้นเสียงแผ่ว แต่หลังจากนั้นเธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของเขานี่สิ
"อืม" คนตัวเล็กเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยบอกเขาไป เพื่อหวังให้อีกฝ่ายถอยออกไปซะ "ถ้าคุณไม่อยากมีปัญหากับเขา กรุณาถอยออกไปด้วยเถอะค่ะ..."
เธอพยายามจะสุภาพกับเขา เพื่อให้เขายอมถอยห่าง แต่...!!
"ถ้าผมไม่ถอยล่ะ :)" เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างคนที่กำลังท้าทายกันเสียอย่างนั้น
นี่เขาไม่กลัวคำขู่ของเธอเลยเหรอ?
คนตัวเล็กพยายามที่จะฮึดสู้เขาด้วยคำพูดอีกครั้ง อย่างน้อยก็ขอให้เขากลัวและถอยออกไปหน่อยเถอะ
"แฟนฉันคงเล่นงานคุณ... เขาขี้หึง และไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นทำตัวรุ่มร่ามกับฉันน่ะค่ะ หวังว่าคุณจะเข้าใจด้วยนะคะ"
และแทนที่อีกฝ่ายจะยอมละออก แต่กลับส่งยิ้มตาหยีมาให้ผ่านดวงตานั่น ยิ้มอีกแล้ว แต่เธอไม่ยิ้มด้วยหรอกนะ มันหงุดหงิด...
และแทนที่อีกฝ่ายจะยอมผละออก กลับขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น จากระยะห่างหนึ่งช่วงแขน ในตอนนี้กลับลดลงจนเสื้อผ้าของเราแทบจะสัมผัสกัน
ใบหน้าเขาโน้มต่ำลงมาใกล้จนได้กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์แตะเข้ามาในโพรงจมูกของเธอ พร้อมกับน้ำเสียงแหบต่ำของเขา
"งั้นเรียกแฟนออกมาหน่อย พอดีผมอยากเจอแฟนคุณครับ :) "
"...." ได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ลมหายใจสะดุดไปหมด เมื่อใบหน้าภายใต้แมสก์นั้นขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
แต่ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยอะไรออกไป คนตัวสูงกลับหัวเราะกับท่าทางที่เลิ่กลั่กของเธอ
"แกล้งนิดแกล้งหน่อย ถึงกับหน้าเสียเลยดิ"
เขาเอ่ยขึ้นหลังจากนั้น พร้อมกับเอื้อมมือที่มีคีย์การ์ดแตะลงบานประตูที่เธอกำลังแนบตัวอยู่
ติ๊ด!
แกร๊ก~
และประตูห้องค่อยๆ เปิดออกหลังจากนั้น เธอที่กำลังมึนงงอยู่ครู่หนึ่งก็สามารถประมวลผลทุกอย่างภายในไม่กี่วินาทีต่อมา
"นี่คุณ..!!" เธอถึงกับหน้าเหวอ พลางชี้นิ้วไปยังคนตัวโต ส่วนเขาไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงส่งตาหยีมาให้เธอเท่านั้น
":) "
"คุณคือแอคเค่อที่นัดฉันมาเหรอ" เธอได้แต่เอ่ยถามคำถามโง่ๆ ออกไป ทั้งที่หลักฐานการเปิดห้องก็ชัดเจนอยู่แล้ว
และเขาก็ทำเพียงตอบมาแค่หนึ่งประโยคเท่านั้น
"แล้วคิดว่าไงครับคนสวย :) "
"....!!"