แน่นอนว่าเด็กหญิงผู้ยังไม่สันทัดเกี่ยวกับโลกภายนอกอย่างเธอหยุดร้องไห้และรีบปาดเช็ดน้ำตาก่อนจะเดินตามหลังชายหนุ่มวัยมหาลัยกลับเข้าไปยังในงาน
"แย่จัง" น้ำเสียงเอ่ยผิดหวัง "หนูโดนครูดุแน่"
"ทำไม"
"มีงานที่คุณครูสั่งว่าให้ไปตามบูทต่างๆ เพื่อเอาลายเซ็นของพี่มหาลัยแต่หนูหลงใช้เวลานาน"
"ให้พี่ช่วยไหม"
ดวงตาเล็กลุกวาวเป็นประกาย รอยยิ้มหวานดีใจสุดซึ้ง เขาโทรเรียกเพื่อนหลายคนมาหาเอ่ยสั่งให้ไปล่าลายเซ็นตามคณะที่ระบุจนครบ
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ใจดีมาก"
"อืมม ไม่เป็นไรหรอกแต่ว่าเราชื่ออะไรนะ.."
"ชื่อนิวเยียร์ค่ะ"
"แปลว่าปีใหม่ ฮ่าๆ ชื่อเพราะจัง"
"แล้วพี่ชื่ออะไรคะ"
เพราะมัวแต่ร้องไห้วุ่นวายจึงไม่ได้ถามชื่อของผู้มีพระคุณ เขาส่งยิ้มหล่อบาดใจอีกครั้งพร้อมกับน้ำเสียงนุ่ม "พี่ชื่อไทม์นะที่แปลว่าเวลา"
"พี่ไทม์"
"ส่วนนี่เบอร์โทรศัพท์ของพี่"
"ให้หนู ทะ ทำไมคะ?"
"โทรมาได้เผื่อให้พี่ช่วยทำการบ้านไง"
เขาหยิบกระดาษที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับปากกาที่เสียบไว้บนกระเป๋าอกซ้ายเขียนเบอร์โทรศัพท์ยื่นให้พร้อมรอยยิ้มที่ทําให้ใจแทบละลาย
"ประกาศ นักเรียนมัธยมที่เดินเล่นอยู่โปรดกลับมายังจุดรถบัสด้วยค่ะ"
เสียงตามสายดังไปทั่วมหาวิทยาลัยเป็นการบอกถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้าย
เด็กหญิงหันกลับมายกมือไหว้เขาอีกครั้ง "ขอบคุณนะคะหนูต้องไปแล้วขอให้พี่โชคดี"
เขายิ้มให้อีกทั้งยังพูดตอบ "วันนี้พี่ก็โชคดีนะเพราะได้เจอน้อง"
ไม่รู้ว่าความหมายคืออะไรแต่เด็กหญิงยังคงไม่ประสีประสารีบวิ่งออกไปเพื่อกลับไปยังจุดรวมตัวตามที่คุณครูนัดหมาย
ชายร่างสูงมองตามจนลับตาเขายิ้มมุมปากพร้อมกับพึมพำทำออกมา 'เราได้เจอกันอีกแน่'
บ้านหลังใหญ่โต ณ. หมู่บ้านกลางเมือง เป็นสไตล์ทันสมัยสีขาวสลับน้ำตาลลักษณะสองชั้น ซึ่งมีผู้พักอาศัยก็คือพ่อแม่และลูกสาวสองคน
"นิวเยียร์ไปทัศนศึกษามาสนุกไหม" ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม "แล้วชอบมหาวิทยาลัยที่ไปหรือเปล่า"
"ก็ยังไม่แน่ใจค่ะพอดีว่าหนูยังเดินไม่ทั่ว"
"สงสัยมัวเล่นกับเนยล่ะสิ ฮ่าๆ เราสองคนซนไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ"
"ไม่ได้เล่นหรอกค่ะเนยไปเข้าห้องน้ำแล้วก็หายไปเลยเจอกันอีกทีก็ตอนกลับ"
นิวเยียร์ สาวน้อยวัยสิบเจ็ดปี กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่มัธยมปีที่ห้า(ม.5) ใบหน้ารูปไข่ดวงตาหวานเยิ้มรอยยิ้มสดใส รูปร่างสมส่วน
"คุณพ่อไปทำงานที่ต่างประเทศอีกแล้วหรือคะ" ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี นิวเยียร์จึงไม่ค่อยได้พบเจอพ่อกับแม่สักเท่าไหร่
"อืมใช่ เห็นว่าครั้งนี้ไปนานเดี๋ยวอีกไม่กี่วันแม่ก็จะบินไปที่จีนไปดูธุรกิจของคุณอาหน่อย"
"แปลว่าหนูต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้ว"
หน้ามุ่ยงอแงแต่ยังไม่ทันได้งอนก็มีเสียงใครบางคนแทรก "แล้วพี่ไม่ใช่คนหรือไง! อยู่บ้านคนเดียวที่ไหนกันพี่ก็อยู่"
"ทำรายงานเสร็จแล้วเหรอปีใหม่" แม่ยิ้มให้
"ใช่ค่ะทรายมันเพิ่งส่งใบงานมา"
"ปีหน้าเราจะขึ้นมหาวิทยาลัยตอนนี้เลือกคณะได้หรือยัง"
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะแม่หนูจะไปเรียนมหาวิทยาลัยดังส่วนคณะค่อยว่ากันอีกที"
ปีใหม่ ผู้เป็นพี่สาวที่มีลักษณะใบหน้าโดดเด่น เธอมีลักยิ้มสองข้างและกำลังอยู่ในช่วงสอบเอนทรานซ์เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย
ส่วนสูงที่น่าอิจฉามาพร้อมกับหุ่นเพียวบางราวกับนางแบบนิตยสาร
ทว่า..สองพี่น้องมีนิสัยต่างกันสิ้นเชิง นิวเยียร์ อ่อนหวานเรียบร้อยขี้อาย ส่วน ปีใหม่ จัดจ้านฝีปากเก่งกล้าแสดงออก
"ถ้ายังไงช่วงที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ก็ฝากดูแลน้องด้วยนะ" แม่ลุกขึ้นยืนเตรียมเดินทางเพราะมีธุระ "เป็นพี่น้องกันต้องรักกันคนเป็นน้องก็ต้องเชื่อฟังพี่เข้าใจไหม"
"ค๊าาา"
เสียงตอบรับอย่างพร้อมเพียง แต่ส่วนมากเพราะนิวเยียร์เป็นเด็กเรียบร้อยเธอจึงหมกมุ่นกับการอ่านหนังสือไม่ได้สุงสิงสนิทสนมกับพี่สาวมากมาย
เวลา22.00น. ณ. ผับย่านซอยแปด
เสียงดนตรีทั้งผู้คนหลากหลายมักมารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์เป็นประจำ
แกก
แก้วเหล้ากระทบกันที่โต๊ะมุมซ้ายของเวที หนุ่มต่างมหาวิทยาลัยมาร่วมดื่มปลดปล่อยความเครียดจากการเรียนหนังสือ
"ไอ้ไทม์เมื่อกลางวันมึงใช้ให้พวกกูไปล่ารายชื่อของพวกคณะอื่นให้น้องคนนั้น? คงไม่ได้คิดอะไรใช่ไหม" เพื่อนสนิทคนแรกถาม
"เออ! กว่ากูจะไปหาให้ครบคนอย่างเยอะลำบากฉิบหาย " ตามมาด้วยเพื่อนสนิทคนที่สอง
ไทม์ วางแก้วเหล้าในมือลงตอบกลับ
"กูแค่เอ็นดูน้องมันยังเด็ก อีกอย่างหลงทางร้องไห้เพราะหมาตายอีก จะให้คิดห่าอะไรกูถามน้องบอกเรียนมอห้า แปลว่าอายุยังไม่ถึงสิบแปดเสี่ยงคุก!" น้ำเสียงย้ำแต่แววตาร้ายกลับมีเลศนัย "แต่ถ้าสิบแปดปีบริบูรณ์เมื่อไหร่มันก็น่าคิด..เด็กอะไรน่ารักชะมัด"
ผู้มีความสมบูรณ์แบบอย่าง ไทม์ เรียกว่าเป็นเพลย์บอยที่หลายคนรู้จัก เขาเจ้าชู้ บ้านรวย รสนิยมดี และ มีลีลาแสนแพรวพราว เรียนอยู่คณะบริหารปีสอง
เพื่อนมีมากหลากหลายแต่สนิทที่สุดมีสองคน ชื่อ เฮง หนุ่มลูกครึ่งจีนสุดคูล และ เจ หนุ่มไทยบ้านเปิดธุรกิจส่งออก ส่วนไทม์ ตระกูลเป็นเจ้าของห้างดังและมีหลายกิจการรวยอู้ฟู่
"ระวังเอาไว้เถอะพวกเรียบร้อยกูเห็นมาเป็นร้อยก็เรียบ" เฮง หนุ่มปากหมาแซวเพื่อน ไทม์กระดกเหล้าเพียวตอบโต้ "แต่อย่างน้อยหนึ่งในร้อยก็ต้องเป็นกู!"
"ไอ้สัด ฮ่าๆ"
เพื่อนสนิททั้งสองคนต่างหัวเราะชอบใจ เพราะอะไรที่ไทม์อยากได้ไม่มีทางที่เขา..จะพลาด